WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

Market View : ปิดเหนือ 1,410 แนวโน้มขาขึ้น
Technical : แนวรับ 1,400 / 1.385 แนวต้าน 1,410 / 1,427
หุ้นแนะนำพิเศษ : HMPRO แนวรับ 8.75/8.40 แนวต้าน 9.55/10
หุ้นเด่นรายวัน : GL TMT

  วันพฤหัสบดีตลาดหุ้นไทยปิดบวก ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,408.51 จุด เพิ่มขึ้น 5.72 จุด(+0.41%) มูลค่าการซื้อขาย 41,530.54 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิอีก 2,001.11 ล้านบาท
  แนวโน้มตลาดหุ้นไทย ทางฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กฯ คาดมีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 1,378(1,370)- 1,410 นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องเป็นแรงกดดัน แต่จากปริมาณการซื้อขายที่อยู่ในระดับมากกว่า 4 หมื่นล้านต่อเนื่องจะเป็นสัญญาณบวกและสัญญาณชี้นำที่สร้างความมั่นใจในการปรับตัวเข้าซื้อระยะสั้นเล่นรอบ การกลับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านหรือเข้าใกล้คาดมีแรงขายทำรอบ ในขณะที่ SET50 แท่งทียนแกว่งตัว(กรอบแคบ)เชิงบวก โดยแนวต้านจิตวิทยา 950 ผ่านขึ้นมาจะเป็นจุดเริ่มต้นของการกลบตัวทิศทางขาขึ้นต่อเนื่อง แนวรับหลัก 940 ไม่ควรปิดต่ำลงมา
  กลยุทธ์ ปริมาณการซื้อขายเป็นสัญญาณชี้นำความมั่นใจของนักลงทุนต่อภาวะตลาดและการคาดการณ์แนวโน้มทางการเมืองเชิงบวก ระดับดัชนีและระดับราคาของหลักทรัพย์รายกลุ่มกลับตัวขึ้นมาตอบรับกับการคาดการณ์เศรษฐกิจในอนาคตมากพอสมควร เช่น กลุ่มรับเหมาฯ การกลับตัวขึ้นแรงหรือไม่สร้างจุดสูงกว่า อาจมีแรงขายทำกำไรระยะสั้น (ยังไม่จบรอบ) กลุ่มพลังงาน กลุ่มธนาคาร ยังมีแนวโน้มปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิต่อเนื่อง PTT PTTEP BANPU กลุ่มโรงกลั่น TOP กลุ่มสื่อสาร ADVANC THCOM หุ้นรายหลักทรัพย์ TASCO MONO FSS CPN ระยะกลาง ถือ และซื้อเพิ่มเมื่อปรับตัวลงแรง (Analyst – ธวัชชัย อัศวพรไชย [email protected])

 

หุ้นแนะนำพิเศษ
  HMPRO (ราคาปิด 9.15 ซื้อ เป้าหมาย 12.50) รายได้ยังมีศักยภาพในการเติบโตต่อเนื่องจากแผนเปิดสาขาเพิ่ม 11 สาขาในปี 57 แบ่งเป็นโฮมโปร 8 สาขา เมกาโฮม 2 สาขา และในประเทศมาเลเซีย 1 สาขา ใน 2Q57 มีแผนเปิดโฮมโปร 3 สาขา ที่ลำปาง (11 เม.ย.) ประจวบฯ (9 พ.ค.) สุรินทร์ (16 พ.ค.) และเมกาโฮมอีก 1 สาขาที่บ่อวิน จ.ชลบุรี ฝ่ายวิจัยคาดการณ์รายได้จากการขายในปี 57 จะขยายตัวราว 15% เป็น 4.6 หมื่นล้านบาทและคาดการณ์กำไร 3.5 พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 15% ซึ่งอาจมี upside จากการขายโฮมโปรสาขาหัวหินเข้ากองทุน REIT ซึ่งน่าจะเกิดในช่วงครึ่งหลังของปี 57 หากภาวะตลาดเอื้ออำนวย ในช่วง 1Q57 มีกำไรสุทธิ 726 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 5%YoY ซึ่งคิดเป็น 21% ของประมาณการทั้งปี

 

หุ้นเด่นรายวัน
  GL (ราคาปิด 5.65 ซื้อเก็งกำไร) ได้ประโยชน์จากการที่คสช.จ่ายเงินค่าจำนำข้าวให้กับชาวนา ชี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญทำให้ปัจจัยพื้นฐานธุรกิจพลิกฟื้น คาดยอดขายและกำไรในครึ่งปีหลังพุ่งแรง วางเป้ายอดเช่าซื้อเติบโตกว่า 40% จากที่หดตัวในช่วง 1Q57 แต่คาดธุรกิจเช่าซื้อในช่วงครึ่งหลังของปีจะเติบโตโดดเด่น (ที่มา : ทันหุ้น)
  TMT (ปิด 10.40 ซื้อเก็งกำไร) รับอานิสงส์ คสช.เตรียมปัดฝุ่นโครงการ 2 ล้านล้านบาท ขณะที่ราคาหุ้นยังไม่สะท้อนปัจจัยบวกดังกล่าว ตรงข้ามกลับหุ้นในกลุ่มรับเหมาและกลุ่มวัสดุก่อสร้างอื่นๆ เช่น คอนกรีต และกระเบื้อง ซึ่งราคาหุ้นปรับตัวขึ้นเฉลี่ย 15-20% ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ TMT ยังเป็นหุ้นที่จ่ายปันผลสม่ำเสมอและให้อัตราเงินปันผลตอบแทนต่อปีที่สูงถึง8% ด้วยเหตุนี้ TMT จึงเป็นหุ้นที่มีความน่าสนใจที่สุดหากเทียบกับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเหล็กรายอื่นๆ

 

รายชื่อหลักทรัพย์ที่ติดเกณฑ์บัญชี Cash Balance
* RASA มีผลบังคับใช้ 21 เม.ย. - 30 พ.ค. 57
* EFORL มีผลบังคับใช้ 28 เม.ย. - 6 มิ.ย. 57
* EVER/ IFEC / OCEAN / SUPER มีผลบังคับใช้ 6 พ.ค.-13 มิ.ย. 57
* PAF/ PDI มีผลบังคับใช้ 19 พ.ค. - 27 มิ.ย. 57
* AJP / APCO / EE มีผลบังคับใช้ 26 พ.ค. - 4 ก.ค. 57
***เนื่องจากการลงทุนในหลักทรัพย์ ดังกล่าวมีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาดดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

 

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : เพิ่มขึ้น 65.56 จุด
  ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น 65.56 จุด ตลาดขานรับข้อมูลตลาดแรงงานที่สดใส โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานจำนวนผู้ว่างงานรายสัปดาห์ออกมาลดลง 27,000 ราย มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 9,000 ราย นอกจากนี้ตลาดยังได้แรงหนุนจากดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือนเม.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.4% สู่ระดับ 97.8 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเดือนมี.ค.อย่างไรก็ตามดัชนีไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนักเนื่องจากยังมีแรงกดดันจากรายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 1/57 ซึ่งเป็นตัวเลขประมาณการณ์ครั้งที่สองออกมาหดตัว 1% ซึ่งเป็นการหดตัวลงครั้งแรกในรอบ 3 ปี ทำให้ปิดตลาดดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 65.56 จุด หรือ +0.39% ปิดที่ 16,698.74 จุด ดัชนี NASDAQ เพิ่มขึ้น 22.88 จุด หรือ +0.54% ปิดที่ 4,247.95 จุดดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 10.25 จุด หรือ +0.54%ปิดที่ 1,920.03 จุด

 

ตลาดน้ำมัน NYMEX : เพิ่มขึ้น 0.86 เหรียญ
  ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 86 เซนต์ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรล นอกจากนี้ยังได้แรงหนุนจากรายงานตัวเลขคนว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐที่ลดลง 27,000 ราย มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 9,000 ราย ขณะเดียวกันนักลงทุนก็กลับมากังวลต่อสถานการณ์ในยูเครนอีกครั้งหลังมีรายงานว่ากลุ่มก่อการร้ายได้ใช้อาวุธยิงเฮลิคอปเตอร์ของทหารยูเครน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 14 คน ทำให้ปิดตลาดราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 86 เซนต์ ปิดที่ 103.58 ดอลลาร์/บาร์เรลส่วนน้ำมันดิบ BRENT ส่งมอบเดือน ก.ค.เพิ่มขึ้น 16 เซนต์ ปิดที่ 109.97 ดอลลาร์/บาร์เรล


Analyst :
ธวัชชัย 02-6725993 [email protected]
วิลาสินี 02-6725937 [email protected]
อาทิตย์ [email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!