- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 08 December 2014 16:51
- Hits: 1781
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
SET ยังผันผวนและอ่อนตัวได้ ดังนั้นยังน่ารอซื้อช่วงอ่อนตัวแล้วเน้นถือ!
กลยุทธ์ : คาดว่า SET ยังมีสิทธิที่จะแกว่งตัวผันผวนต่อเนื่องอีกสักพัก แต่กรอบการปรับตัวลงน่าจะยังไม่ลึก เพราะยังคาดหวังเม็ดเงิน LTF, RMF ได้อยู่ และมีสิทธิกลับไปแกว่งบวกต่อได้ในเร็วๆ นี้ ดังนั้นยังเลือกหุ้นทยอยซื้อในช่วงลบและเน้นถือต่อเนื่องไว้ก่อนได้ แต่เนื่องจากโอกาสแกว่งตัวผันผวนยังเป็นไปได้ ถ้าเทรดดิ้งสั้นตามรอบจึงน่าจะแบ่งส่วนทำกำไรช่วงบวกบ้าง เพื่อรอซื้อกลับช่วงอ่อนตัว ลดความเสี่ยงจากการผันผวนของตลาด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : BECL, AI , ROBINS(buy back)
แนวโน้ม : ในช่วงวันหยุดปลายสัปดาห์ที่แล้ว(5 ธ.ค.) ของตลาดหุ้นไทย ปรากฏว่าตลาดหุ้นต่างประเทศส่วนใหญ่ยังขยับบวกขึ้นได้ดี แม้ว่า ECB จะยังไม่มีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมออกมาตามที่ตลาดคาดไว้ แต่นักลงทุนหลายฝ่ายยังคาดหวังว่าในเดือน ม.ค.58 อาจจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจาก ECB ออกมาได้ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจที่ดีต่อเนื่องของสหรัฐก็ยังช่วยหนุนความมั่นใจเกี่ยวกับการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจโลกได้อยู่ แต่ในทางกลับกันความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐเร็วกว่าคาดการณ์เดิมก็ยังกดดันตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้อีกครั้ง ทำให้ FSS คาดว่า SET ยังมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวผันผวนต่อเนื่องได้อยู่ อย่างไรก็ตามยิ่งเข้าใกล้ช่วงสิ้นปี ก็ยิ่งมีโอกาสที่เม็ดเงินใหม่จาก LTF, RMF จะเข้ามาช่วยหนุนให้ SET ยังมีกรอบลงจำกัด และพลิกกลับไปเป็นบวกต่อเนื่องอีกครั้งได้ ดังนั้นเราจึงยังแนะนำให้เลือกหุ้นทยอยซื้อช่วงตลาดอ่อนตัวลง เพื่อเน้นถือต่อเนื่องได้เช่นเดิม
แนวรับ 1594-1590 , 1587-1583 จุด แนวต้าน 1600-1602 , 1605-1610 จุด
Fund Flow สัปดาห์ที่ผ่านมายังไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคเป็นสัปดาห์ที่ 6 แต่มีปริมาณการเพียง US$29 ล้าน ลดลงจาก US$2,354 ล้านในสัปดาห์ก่อนหน้า ส่วนศุกร์ที่ผ่าน Flow ยังไหลเข้าในปริมาณเบาบาง โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อตลาดเกาหลีใต้ US$238.3 ล้าน แต่ขายฟิลิปปินส์ US$91.2 ล้าน อินโดนีเซีย US$59.5 ล้าน ไต้หวัน US$30.3 ล้าน และเวียดนาม US$2.9 ล้าน ตลาดไทยปิดทำการ ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้ค่อนข้างนิ่ง Flow น่าจะเบาบางต่อ
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(-) ตัวเลขจ้างงานสหรัฐสดใส เงินบาททะลุ 33 บาท/ดอลลาร์ ระยะสั้นอาจมีแรง panic ขายบาทต่อ สหรัฐฯรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน พ.ย. เพิ่มขึ้นถึง 3.21 แสนตำแหน่ง เป็นตัวเลขสูงที่สุดในรอบเกือบ 3 ปี สูงกว่าที่ตลาดคาดเพิ่ม 2.3 แสนตำแหน่ง ส่วนอัตราว่างงานยังทรงตัวที่ 5.8% ต่ำสุดในรอบ 6 ปี นอกจากตลาดแรงงานที่สดใสแล้ว เศรษฐกิจที่ชะลอของฝั่งยูโรโซนยิ่งกดดันให้ดอลลาร์แข็งค่ามากขึ้น ทั้งนี้ ECB ไม่มีมาตรการใหม่เพิ่มเติม เงินเฟ้อ พ.ย. อยู่ที่ 0.3% ต่ำสุดในรอบ 5 ปี เชื่อการออก QE น่าจะอยู่ใน 1Q15 ค่าเงินบาททะลุ 33 บาท/ดอลลาร์อาจมี panic ขายบาทต่อในระยะสั้น
(+) ตลาดกลับมาเก็งกำไรมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน สัปดาห์นี้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของจีนซึ่งตลาดคาดว่าจะชะลอ จึงมีแรงเก็งกำไรมาตรการกระตุ้นจากจีน
(+) SIRI ยอด Presales 2 เดือนแรกของ 4Q14 ทำได้ 1.86 พันล้านบาท +9% Q-Q, -56% Y-Y ยอดขายหลักกว่า 80% มาจากบ้านแนวราบ ส่วนคอนโดยังมียอดยกเลิกการจองในบางโครงการ สำหรับ Presales 11 เดือนแรกทำได้ 72% ของเป้าทั้งปีที่ 1.2 หมื่นล้านบาท แม้จะมีโอกาสพลาดเป้าแต่ไม่น่าห่วงเพราะ Backlog ที่มีอยู่ 4.58 หมื่นล้านบาท (ถึง 30 พ.ย.) รองรับคาดการณ์รายได้ของเราในปี 2015 แล้ว 77% ซึ่งเราคาด EPS growth ที่ 23% Y-Y ในปีหน้า ยังคงแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 2.20 บาท (PE 10 เท่า) สำหรับ SIRI-W2 คาดเข้าซื้อขายไม่เกิน 15 ธ.ค. นี้
(+) TUF ราคาปลาทูน่าเดือน พ.ย. ลดลง 1.7% M-M ปรับลง 4 เดือนติดต่อกันมาอยู่ที่ US$1,180 ต่อตัน ต่ำสุดในรอบ 8 เดือนจากการจับปลาที่ดีและราคาน้ำมันดิบที่ลดลงทำให้ต้นทุนการจับปลาลดลงตาม ราคาปลาทูน่าที่ลดลงจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจทูน่า Brand ดีขึ้นใน 4Q14-1Q15 เพระมีสต๊อกปลาราคาถูก ชดเชยอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจทูน่า OEM ที่ลดลงจากราคาปลาทูน่าที่ลดลงได้ เรายังคงราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 95 บาท (PE 17 เท่า) และจะปรับเป็น 24 บาทหลังแตกพาร์เป็น 0.25 บาท คาดเริ่มเทรดที่พาร์ใหม่ตั้งแต่ 5 ม.ค. 2015
(+) AIT แนวโน้มกำไร 4Q14 ชะลอกว่าที่เคยคาดหลังส่งมอบงานขนาดใหญ่ไปหลายโครงการใน 1H14 เราจึงปรับประมาณการกำไรสุทธิปีนี้ลงเล็กน้อย 5% เป็นเติบโต 14% Y-Y แต่มีมุมมองบวกมากขึ้นต่อการเติบโตของธุรกิจงานวางระบบสื่อสารโทรคมนาคมในปี 2015 จากนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอลของรัฐบาล จึงคาดกำไรปีหน้าโต 10% Y-Y เพิ่มจากเดิมที่คาดโต 5% Y-Y ปรับราคาเป้าหมายปี 2015 ขึ้นเป็น 48 บาทจาก 44.50 บาท ปัจจุบัน AIT มี PE ปี 2015 เพียง 11 เท่า ต่ำกว่าผู้ประกอบการในธุรกิจใกล้เคียงกันที่มี PE เฉลี่ย 15-18 เท่า และ AIT ยังคงเป็นหุ้นปันผลดี คาด Yield 5% ต่อปี จึงแนะนำซื้อ
ดัชนีดาวโจนส์เมื่อคืนวันศุกร์ยังขยับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ต่อเนื่องหลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน พ.ย. ออกมาแข็งแกร่งกว่าที่ตลาดคาดซึ่งน่าจะรับมือกับการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ในปีหน้าได้
ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนวันศุกร์ปิดบวกได้ค่อนข้างดีเช่นกันโดยได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ดีกว่าที่ตลาดคาด
ส่วนตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวผสมโดยนักลงทุนจับตาดูตัวเลขดุลการค้าจีนในวันนี้
ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงค่อนข้างแรงจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่แข็งแกร่ง คาดวันนี้แกว่งตัวในกรอบ 32.88-33.03 บาท/ดอลลาร์
น้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ม.ค. ร่วงลง 0.97 ดอลลาร์ มาปิดที่ 65.84 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีรายงานว่าซาอุดิอาระเบียได้ลดราคาขายได้ปรับน้ำมันดิบที่ขายให้ลูกค้าเอเชียลงอีก
ทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. ร่วงลง 17.30 ดอลลาร์ มาปิดที่ 1,190.40 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาแข็งแกร่งกว่าที่ตลาดคาดซึ่งส่งผลให้ค่าเงินดออลาร์แข็งค่าสูงสุดในรอบกว่า 5 ปี
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
8 ธ.ค. - จีน: ดุลการค้า (พ.ย.)
- ญี่ปุ่น: 3Q14 GDP
10 ธ.ค. - ไทย:วันหยุดราชการและตลท. วันรัฐธรรมนูญ
- จีน:ยอดสินเชื่อเดือน พ.ย.
11 ธ.ค. - ฟิลิปปินส์: ธนาคารกลางประชุม
- เกาหลีใต้: ธนาคารกลางประชุม
- สหรัฐ:ยอดค้าปลีก (พ.ย.)
12 ธ.ค. - จีน: ยอดค้าปลีก, การลงทุน (พ.ย.)
14 ธ.ค. - ญี่ปุ่น:เลือกตั้งทั่วไป
15 ธ.ค. - ญี่ปุ่น:4Q14 Tankan Index
- สหรัฐ: Industrial Production (พ.ย.), NAHB Housing Market Index (ธ.ค.)
16-17 ธ.ค. - สหรัฐ: FOMCประชุม
16 ธ.ค. - จีน:HSBC China Manufacturing PMI (ธ.ค.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI, ZEW Survey Expectations (ธ.ค.)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Research Dept. Tel: 02-646-9967, 02-646-9852