- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 03 December 2014 17:33
- Hits: 2137
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แม้ว่า SETจะแกว่งผันผวนไปบ้าง แต่หลังจากซื้อช่วงลบแล้วน่าเน้นถือ!!
กลยุทธ์ : ถึงแม้ว่าช่วงนี้ SET จะยังแกว่งผันผวนและมีจังหวะย้อนลบให้เห็น แต่ก็ถือว่าดัชนียังสามารถทรงตัวได้ดี ทำให้ยังมีสิทธิกลับไปแกว่งบวกได้ต่อในเร็วๆ นี้ ดังนั้นหลังจากเลือกหุ้นทยอยซื้อในช่วงลบไปแล้ว เราแนะนำให้เน้นถือต่อเนื่องไว้ก่อนได้ แต่เนื่องจากโอกาสแกว่งตัวผันผวนยังเป็นไปได้ ถ้าเทรดดิ้งสั้นตามรอบจึงน่าจะแบ่งส่วนทำกำไรช่วงบวกบ้าง เพื่อรอซื้อกลับช่วงอ่อนตัว เพื่อลดความเสี่ยงจากการผันผวนของตลาด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : SINGER, AP , KKP(short)
แนวโน้ม : ถึงแม้วานนี้ SET จะยังแกว่งตัวผันผวนและย้อนลบลงต่อ แต่ก็มีแรงซื้อกลับเข้ามาพยุงตลาดไว้ได้ ก่อนที่ดัชนีจะกลับมายืนปิดบวกได้เล็กน้อย แสดงถึงภาวะตลาดที่ยังแข็งแกร่งพอควร ขณะที่เช้านี้บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศกลับมาสดใสมากขึ้น หลังดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุด เพราะได้รับแรงหนุนจากรายงานตัวเลขการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือน ต.ค.ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง รวมทั้งการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานอีกครั้ง และจากคาดการณ์ที่ว่า ECB อาจจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในการประชุมสัปดาห์นี้ ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เปิดตัวในแดนบวก นอกจากนี้ตัวเลข PMI ภาคบริการของจีนเช้านี้ยังออกมาดีช่วยหนุนด้วย ซึ่ง FSS คาดว่าเม็ดเงินใหม่จาก LTF,RMF ช่วงท้ายปีก็น่าจะยังมีเข้ามาช่วยผลักดันตลาดให้กลับไปแกว่งบวกขึ้นอีกครั้งได้ ดังนั้นเราจึงยังแนะนำให้เลือกหุ้นทยอยซื้อเพื่อเน้นถือต่อเนื่องได้ แต่เนื่องจาก SET ยังมีโอกาสแกว่งตัวผันผวน จึงไม่ควรซื้อในลักษณะไล่ราคามากนัก
แนวรับ 1590-1586 , 1583-1580 จุด แนวต้าน 1598-1602 , 1605-1610 จุด
Fund Flow วานนี้ยังไหลออกจากตลาดหุ้นภูมิภาคในปริมาณเบาบางต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิตลาดหุ้นไต้หวัน US$269.4 ล้าน เวียดนาม US$4.5 ล้าน และฟิลิปปินส์ แต่ซื้อเกาหลีใต้ US$50.8 ล้าน ไทย US$16.9 ล้าน และอินโดนีเซีย US$13.2 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้อ่อนค่าเล็กน้อย Flow น่าจะเบาบางต่อเพราะใกล้ช่วงหยุดพักผ่อนยาวของนักลงทุนต่างชาติ
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(0) การประชุม ECB พรุ่งนี้ไม่น่ามีอะไรใหม่ทำให้ดอลลาร์ยังแข็งค่าต่อ ECB น่าจะเลื่อนไปออกมาตรการใหม่ใน 1Q15 ขณะที่ในระยะสั้นตลาดจับตาการจ้างงานของสหรัฐที่จะประกาศศุกร์นี้ ซึ่งคาดว่าน่าจะออกมาดีและหนุนการคาดการณ์ว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ยกลางปีหน้า ค่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มแข็งค่าและกดดันราคาสินทรัพย์เสี่ยงต่อไป
(+) SCB ตั้งเป้าเชิงรุกมากขึ้นและเตรียมเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการบริหารและองค์กรเพื่อรองรับสังคม Digital Trend เน้นลูกค้า SMEs มากขึ้น ในปี 2015 SCB ตั้งเป้าการเติบโตของสินเชื่อ 5-7% จากไม่ถึง 4% ในปีนี้ ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย 3.2-3.3% ดีกว่าปีนี้ที่ 3.1-3.3% และรักษา Cost to income ที่ 38-40% ใกล้เคียงปีนี้และต่ำสุดในระบบธนาคาร เราปรับกำไรสุทธิปี 2015 ขึ้นเล็กน้อยให้สอดคล้องกับเป้าหมายใหม่ โดยคาดว่าจะเติบโต 4.3% แต่หากตัดรายการพิเศษออก กำไรจากการดำเนินงานจะโต 8% ขยับขึ้นมาใกล้ KBANK ที่เราคาดกำไรโต 14% แต่ราคาหุ้น SCB ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา discount ราคาหุ้น KBANK ถึง 30% เทียบกับค่าเฉลี่ย 3 ปีที่ผ่านมาที่ราคา discount 12-15% เราจึงคงคำแนะนำซื้อ คงราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 228 บาท
(-) DEMCO ราคาหุ้นที่ร่วง 18% ในช่วง 2 วันที่ผ่านมาจากความกังวลว่าบริษัท Wind Energy Holding (WEH) ที่มีนายนพพร ศุภพิพัฒน์เป็นผู้ก่อตั้ง และ DEMCO ถือหุ้น 4% มูลค่า 800 ล้านบาท จะล่าช้าในการทำ IPO เข้าตลาดฯปีหน้า แต่ผู้บริหาร DEMCO มองเรื่องของนายนพพรเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับ DEMCO ส่วนแผนการนำ WEH เข้าตลาดฯในปีหน้ายังดำเนินการต่อได้ สำหรับเรามองว่ากรณีที่เจ้าของ WEH ถูกศาลอนุมัติหมายจับถือเป็นความเสี่ยงในเชิงการบริหารจัดการ ซึ่งอาจกระทบแผน IPO และแผนก่อสร้างโรงไฟฟ้า 360MW ทำให้ล่าช้ากว่ากำหนด แต่เราไม่ได้รวมงานก่อสร้างและผลตอบแทนจากโครงการดังกล่าวในประมาณการอยู่แล้ว โดยยังคงคาดกำไรสุทธิปี 2015 เติบโต 15% Y-Y ราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 12.50 บาทมาจากธุรกิจปัจจุบันเท่านั้น แม้ราคาหุ้นจะร่วงแรง แต่ยังเกินมูลค่าของเรา จึงยังคงแนะนำขาย ราคาหุ้นที่ปรับขึ้นถึง 80% ในช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย. เป็นการเก็งกำไรข่าว WEH จะเข้า IPO ในตลาดฯ และมีราคาขายนอกตลาดที่สูงกว่าต้นทุนของ DEMCO มาก ราคาหุ้นปัจจุบันจึงยังมีความเสี่ยง
คาดการณ์รายชื่อหุ้นที่จะถูกนำเข้า-ออกจากการคำนวณ SET50 และ SET100 งวด ม.ค.-มิ.ย. 2015 สำหรับ SET50 หุ้นที่คาดว่าจะเข้า CK, HEMRAJ, KTIS, SPALI หุ้นเอาออก BAY, GLOBAL, KKP, THCOM ส่วน SET100 หุ้นที่คาดว่าจะเข้า ANAN, DEMCO, HANA, ICHI, KTIS, MAX, PTG, SAWAD, SGP, SIM หุ้นเอาออก BAY, DCC, ESSO, KTC, MCOT, NYT, RS, SRICHA, TASCO, THRE ทั้งนี้ ตลท.จะประกาศรายชื่อกลาง ธ.ค. และมีผลตั้งแต่ 5 ม.ค. 2015
ดัชนีดาวโจนส์ขยับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง โดยปิดพุ่งขึ้น 102.75 จุดหรือคิดเป็น +0.58% เพราะได้รับแรงหนุนจากรายงานตัวเลขการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือน ต.ค.ที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ช่วยหนุนมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ
ส่วนตลาดหุ้นยุโรปยังมีทั้งบวกและลบสลับ แต่ส่วนใหญ่ก็ปิดบวกได้ดี หลังหุ้นกลุ่มพลังงานดีดขึ้น และได้แรงหนุนจากคาดการณ์ที่ว่า ECB อาจจะเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุมสัปดาห์นี้
ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดบวกสดใสเป็นส่วนใหญ่ โดยมีกรอบการบวกที่กว้างพอควร
เงินบาทอ่อนค่าอีกครั้ง มาแกว่งตัวแถว 32.87-32.89 บาท/ดอลลาร์
น้ำมันดิบในตลาด NYMEX ปิดปรับตัวลง 2.12 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 66.88 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความวิตกเกี่ยวกับภาวะอุปทานในตลาดโลกที่ยังอยู่ในระดับสูงกว่าอุปสงค์มาก
ทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. ปิดร่วงลง 18.7 ดอลลาร์ มาปิดที่ 1199.4 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
3 ธ.ค.
- จีน: Non-manufacturing PMI (พ.ย.)
- ออสเตรเลีย: 3Q14 GDP
- สหรัฐ: การจ้างงานภาคเอกชน (พ.ย.)
- ยูโรโซน: 3Q14 GDP
4 ธ.ค.
- ไทย: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (พ.ย.)
- เกาหลีใต้: 3Q14 GDP
- ยูโรโซน: ECB ประชุม
5 ธ.ค.
- ไทย: วันหยุดราชการและตลท. วันพ่อแห่งชาติ
- สหรัฐ: การจ้างงานนอกภาคเกษตร, อัตราว่างงาน (พ.ย.)
8 ธ.ค.
- จีน: ดุลการค้า (พ.ย.)
- ญี่ปุ่น: 3Q14 GDP
10 ธ.ค.
- ไทย: วันหยุดราชการและตลท. วันรัฐธรรมนูญ
- จีน: ยอดสินเชื่อเดือน พ.ย.
11 ธ.ค.
- ฟิลิปปินส์: ธนาคารกลางประชุม
- เกาหลีใต้: ธนาคารกลางประชุม
- สหรัฐ: ยอดค้าปลีก (พ.ย.)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Research Dept. Tel: 02-646-9967, 02-646-9852