- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 03 December 2014 17:31
- Hits: 2023
บล.เคเคเทรด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
SET ลงทดสอบ 1585 จุด
SET View
LH และ SPALI เป็น Top Picksในกลุ่มพัฒนาที่อยู่อาศัย
•เราคาดว่า “กลุ่มพัฒนาที่อยู่อาศัย” จะกลับมา outperform ตลาดได้จากนี้จนถึง 1Q58 ด้วยปัจจัย(1)ภาพรวมกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 9M57 เติบโตเหนือกว่า SET โดยมีกำไรสุทธิเท่ากับ 3.6 หมื่นล้านบาท (+10%) จากยอดขายที่ 2.3 แสนล้านบาท (+15%) เทียบกับบริษัทจดทะเบียนใน SET ที่มีกำไรสุทธิทรงตัว จากยอดขายเติบโตเพียง 6%YoY(2) ความสามารถในการทำกำไร 9M57 ดีกว่าSET โดยกลุ่มมีอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิเฉลี่ยที่ 36% และ 16% ตามลำดับใกล้เคียงปีก่อน ขณะที่ SET อยู่ที่ราว 18% และ 7% ตามลำดับ (3)แนวโน้มผลประกอบการ 4Q57 มีโอกาสเติบโตต่อเนื่องและหลายตัวจะเป็นระดับสูงสุดของปี โดยมีหุ้น 5 จาก 8 ตัวใน kktrade coverage ที่เราคาดว่าผลประกอบการ 4Q57 จะเติบโตต่อเนื่อง QoQได้แก่LH LPN PS SIRI SPALI ผลจากมีโครงการในมือรอรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง เปิดและขายโครงการได้อย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา(4) แนวโน้มปี 58 ยังดีต่อเนื่อง โดยภาพรวม ผู้ประกอบการรายใหญ่มีโครงการในมือที่รอรับรู้รายได้มากกว่า 50% ของรายได้ปีนี้, สะสมยอดขาย presales ได้มากในช่วง 2H57และคาดจะเปิดโครงการเป็นจำนวนมากในช่วง 4Q57 จึงมีแรงส่งไปยังผลประกอบการปี 2558 และ(5)ราคาหุ้นในกลุ่มส่วนใหญ่ถูกกว่า SETซื้อขายเฉลี่ยเพียง 11xP/E’58 (ต่ำสุดคือ AP และ RML ซื้อขายเพียง 7xP/E’58)เทียบกับ SET ที่ซื้อขายราว 15xP/E’58 หุ้นที่เป็น Top Picks ของเราและเหมาะสำหรับการลงทุนระยะสั้น (ไม่เกิน 3 เดือน) รวมถึงระยะปานกลาง (3-6 เดือนขึ้นไป) ได้แก่ LHและ SPALI
•LH (ซื้อ/ มูลค่าเหมาะสม 11.90 บาท)แม้ฐานกำไรสุทธิอยู่ในระดับสูงราว 6 พันล้านบาทต่อปีหรือราว 20-25% ของกลุ่ม โอกาสเห็นการเติบโตกำไรในระดับสูงเป็นไปได้ยาก แต่ความน่าสนใจอยู่ที่มูลค่าแฝงในสินทรัพย์ที่ถืออยู่ที่รอการ unlock value อาทิหุ้น HMPRO LHBANK QH (คิดเป็นมูลค่ารวม 4.7 บาทต่อ1 หุ้น LH) และสินทรัพย์รอการขายเข้ากองทุน REIT(อาทิ ตึก Terminal 21เป็นต้น)
•SPALI (เก็งกำไร / มูลค่าเหมาะสม 2.40 บาท) ผลการดำเนินงาน 3Q57 ทำได้ดีกว่าที่คาดไว้มาก ผลจากการโอนโครงการคอนโดฯที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาด งานในมือที่รอรับรู้รายได้ราว 85-90% ของประมาณการรายได้ทั้งปี ความสามารถในการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ทำได้ดีหลายไตรมาสติดกัน เราเชื่อว่ามีโอกาสที่จะมี Earnings Surprise จึงมีโอกาสที่นักวิเคราะห์จะปรับเพิ่มคำแนะนำ และมูลค่าเหมาะสมในระยะต่อไป
แนวโน้มSETเราคาดว่า SET จะแกว่งตัวลงทดสอบแนวรับ 1585 จุดเนื่องจากขาดปัจจัยบวกใหม่ โดยมองกรอบเคลื่อนไหว1580-1595 จุด (1)แม้นักลงทุนสถาบันกลับมาซื้อสุทธิเป็นวันแรกในรอบหกวันทำการแต่เบาบางเพียง 248ล้านบาท ยังไม่ได้ทำให้จิตวิทยาการลงทุนดีขึ้น(2) ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลงทดสอบUS$70 ต่อบาร์เรลอีกครั้ง จะกลับมากดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน(3) คาดว่านักลงทุนบางส่วนจะขายทำกำไรลดความเสี่ยง เพื่อรอการประชุม ECB (4 ธ.ค.) ทราบผลช่วงเย็นเกี่ยวกับแผนการเข้าซื้อสินทรัพย์ทั้งด้านมูลค่าและระยะเวลา รวมถึงรอการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานของสหรัฐ (5 ธ.ค.)ที่จะมีผลต่อทิศทางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (4) ทางเทคนิค กำลังทดสอบแนวรับบริเวณ 1585 จุด หากปิดเหนือไม่ได้จะเป็นสัญญาณไม่ดี
กลยุทธ์การลงทุน ระยะ 1-2 วัน หาก SET ยังคงยืนเหนือ 1585 จุด หาจังหวะขึ้นขายลงซื้อ
1)Top Daily Pick :AH(อุตสาหกรรมและผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และจะฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไปในช่วง 4Q57-1Q58) MFEC(มีโอกาสได้งานโครงการรัฐวิสาหกิจที่เป็นฐานลูกค้าเดิมเพิ่มใน 4Q57 อัตรากำไรขั้นต้นเริ่มฟื้นตัวหลังการส่งมอบงานล่าช้าในช่วง 1H57)
2)Technical Pick:JAS S LPN THREL VGI
3)Theme Play :กลุ่ม Domestic Play ที่ได้ประโยชน์จากกำลังซื้อฟื้นตัว (KAMART M CPALL ROBINS) กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (HANA KCE)คาดจะได้ประโยชน์จากเงินบาทกลับมาทีทิศทางอ่อนค่า กลุ่มชิ้นส่วนรถยนต์ (AH SAT) คาดจะเริ่มฟื้นตัวหลังงาน Motor Expo ช่วงนี้ กลุ่มรับเหมาฯ (CK STEC UNIQ) คาดงานประมูลโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่จะมีความคืบหน้าในเดือนนี้ หุ้นกลุ่มนำตลาดที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว/จากปัจจัยฤดูกาล(ADVANC INTUCH JAS THCOMLH BGH)
ระยะ 1-2 สัปดาห์
Trading BGHGRAMMY INTUCHKAMART LH MFEC SST
ระยะ 3- 6 เดือนขึ้นไป
Growth EFORL HOTPOT JAS TOP WORK
Dividend BBL EGCO MC PTTEP PTTGC SNC SRICHA
Quant BEAUTY EGCO HOTPOT MSC SNC TOG TUF
รายงานวันนี้
Update : PS (ซื้อ / มูลค่าเหมาะสม 39 บาท)สินค้า High-end ได้รับการตอบรับดี
Comment : PTT (เก็งกำไร / มูลค่าเหมาะสม 379บาท) มี Downside จากราคาน้ำมันดิบที่ลดลงมากกว่าคาด
Smart Port Note
TUF ผู้บริหารคาดรายได้สกุลดอลลาร์ปี 58 อยู่ที่ 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากปีนี้คาดว่าอยู่ที่ 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และตั้งเป้ารายได้ปี 63 ไว้ที่ 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่งบลงทุนเพื่อใช้ปรับปรุงเครื่องจักรในปีหน้าจะใกล้เคียงกับปีนี้ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 3.5 พันล้านบาท ส่วนสัดส่วนหนี้สินต่อทุนคาดว่าปลายปีนี้จะลดลงมาที่ 0.71 เท่า
Beta ของพอร์ตลงทุนแสดงถึงความเสี่ยงของหุ้นในพอร์ตเทียบกับ ตลาด SET หากค่า Beta สูงกว่าหนึ่งเท่า แสดงถึงความเสี่ยงของ พอร์ตลงทุนที่สูงกว่า SET
Growth Port มีค่า Beta เท่ากับ 1.08
Trading Port มีค่า Beta เท่ากับ 1.05
Dividend Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.78
Quant Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.49