WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

 

“เน้นซื้อ/ถือเหนือ 1585”

• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : เมื่อวานนี้ดัชนีปิดทรงตัว โดยแรงซื้อหุ้นกลุ่มแบงค์, อาหาร, ขนส่ง และอุตสาหกรรมอื่นๆ เข้ามาชดเชยการอ่อนตัวลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน นักลงทุนแต่ละกลุ่มซื้อ-ขายสุทธิไม่มาก เนื่องจากรอดูสถานการณ์และปัจจัยใหม่ รวมถึงการเก็งกำไรหุ้นขนาดเล็กก็แผ่วลงไปหลังจากก.ล.ต.จะออกมาตรการสกัดหุ้นร้อนในเร็วๆนี้ สำหรับวันนี้ Sentiment หุ้นกลุ่มพลังงานดีขึ้นเล็กน้อยหลังราคาน้ำมันดิบรีบาวด์ อย่างไรก็ตามการที่ Moody’s ปรับลดอันดับเครดิตรัฐบาลญี่ปุ่นลง 1 ขั้นเพราะกังวลกับความไม่แน่นอนเรื่องการฟื้นฟูฐานะการคลัง และการส่งสัญญาณปรับขึ้น VATของไทย 1% (จาก 7% ในปัจจุบันเป็น 8%) ในปีหน้าเข้ามาเป็นปัจจัยกดดันเพิ่มเติม นอกเหนือจากวิตกกับความซบเซาของเศรษฐกิจยูโรโซนและจีน &การฟื้นตัวช้าของเศรษฐกิจโลก สำหรับปัจจัยจับตา คือ ตัวเลข PMI ภาคบริการ และตัวเลขจ้างงานของสหรัฐ รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของไทยด้วย กลยุทธ์การลงทุน โดยหลักยังเป็น Selective Buy โดยหุ้นพื้นฐานของเดือนธ.ค.57 เราเลือกเป็น KCE, KTB, MINT, PS, WHA ส่วน DarkHorse ได้แก่ CHG, SPALI (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมด้านใน) ส่วนหุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้เป็น GFPT

การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดในระยะสั้นมากเป็นลบแต่ไม่มากเพราะดัชนีเมื่อวานนี้สามารถปิดเหนือ SMA 10 วันได้ การซื้อใหม่เน้นซื้อตามด้วยค่าบวก การยืนเหนือ 1585 ได้จึงจะมีลุ้นแนวต้าน 1600-1610 จุดหรือสูงกว่า การอ่อนตัวต่ำกว่า 1585 จุดดูไม่ค่อยดี โดยมีสิทธิลงไปที่ 1570,1560-1550 จุดอีกรอบ

Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ
- ญี่ปุ่น : Moody’s ปรับลดอันดับเครดิตรัฐบาลลง 1 ขั้นสู่ A1 จากAa3 เนื่องจากความไม่แน่นอนในการฟื้นฟูสถานะการคลังหลังจากรัฐบาลเลื่อนการเพิ่มภาษีการบริโภคจาก 8% เป็น 10% ออกไป และแม้ว่ารายได้จากการจัดเก็บภาษีการบริโภค & ภาษีเงินได้จะเพิ่มขึ้นแล้วก็ตาม ทั้งนี้เจ้าหน้าที่คาดรายได้จากจัดเก็บภาษีงวดปีงบประมาณ 57 จะเพิ่มขึ้น 1ล้านล้านเยนจากปีก่อนเป็น 51.5 ล้านล้านเยน

- ยูโรโซน : การผลิตยังซบเซา ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนพ.ย.ปรับลงสู่ 50.1 จาก 50.6 ในเดือนต.ค. นับว่าการผลิตยังคงซบเซา โดยการผลิตของประเทศขนาดใหญ่อย่างเยอรมนี ฝรั่งเศส และอิตาลี อ่อนตัวลง

- จีน : ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนพ.ย.ลดลงเป็น 50.3 จาก 50.8 ในเดือนต.ค. บ่งชี้ว่าบรรยากาศธุรกิจยังคงซบเซา

• สหรัฐ : PMI ภาคการผลิตพ.ย.ลดลงเล็กน้อย มาร์กิตรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตสหรัฐเดือนพ.ย.ลดลงแตะ 54.8ซึ่งต่ำสุดในรอบ 10 เดือน และสถาบัน ISM สหรัฐรายงานว่าดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ย.ลดลงสู่ระดับ 58.7 จาก 59.0 ในเดือนต.ค.

- ตลาดหุ้นสหรัฐลดลง : ดัชนี DJIA ปิดที่ 17,776.80 จุด ลดลง 51.44จุด ปัจจัยกดดัน คือ ดัชนี PMI ภาคการผลิตสหรัฐที่ลดลงต่ำสุดในรอบ 10เดือน และยอดจับจ่ายใช้สอยในเทศกาล Thanksgiving ลดลงจากปีก่อน

• สัญญาน้ำมันดิบรีบาวด์หลังร่วงแรง โดย WTI ส่งมอบม.ค.58 +2.85ดอลลาร์ ปิดที่ 69 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วน BRENT +2.39 ดอลลาร์ ปิดที่72.54 ดอลลาร์/บาร์เรล

+ สัญญาทองคำ COMEX พุ่งขึ้นแรง 42.6 US$ ปิดที่ 1218.1 US$/ออนซ์ โดยนักลงทุนบางกลุ่มกลับเข้าซื้อทองคำอีกครั้งภายหลังจากMoody’s ปรับลดอันดับเครดิตรัฐบาลญี่ปุ่นลง 1 ขั้น

• ดัชนีค่าระวางเรือ (BDI) ลดลง 16 จุดปิดที่ 1137 จุด เป็นปัจจัยจิตวิทยาทางลบต่อกลุ่มเดินเรือ อย่างไรก็ตาม กลุ่มนี้ยังมีปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลงช่วยพยุงเอาไว้ สำหรับกลุ่มเดินเรือ เราชอบ TTAมากกว่า PSL เนื่องจากมีการกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจมากกว่า และจะมีมูลค่าเพิ่มจากการนำบริษัทย่อย PMTA (ดำเนินธุรกิจปุ๋ยในเวียดนาม) เข้าจดทะเบียนใน SET ช่วงประมาณ 2Q58 นอกจากนั้นในเดือนธ.ค.นี้คาดว่าจะเสนอเรื่องการจ่ายปันผลครั้งแรกในรอบ 2 ปีให้ที่ประชุมบอร์ดพิจารณาด้วย

ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหลักทรัพย์เด่น
+ กระทรวงการคลังส่งสัญญาณปรับขึ้น VAT 1% จาก 7% เป็น 8%ปีหน้า เพื่อเพิ่มรายได้เข้ารัฐ 6-7 หมื่นล้านบาทต่อปี ในเบื้องต้นคาดว่างบประมาณใช้จ่ายปี 59 จะอยู่ที่ 2.88 ล้านล้านบาท ขาดดุล 2.5-3.0 แสนล้านบาท โดยเน้นการลงทุนในโครงสร้างขั้นพื้นฐานต่อเนื่อง

• Wealth Perspective Equity : ธันวา... LTF & มาตรการกระตุ้นเพิ่มเติมหนุน ทั้งนี้ในเดือนพ.ย. Stock Picks ของเรา Outperform ตลาดโดย +6.4%MoM ขณะที่ตลาด +0.6%MoM โดยการประกาศยุติโครงการQE3 ของเฟดกระทบตลาดหุ้นจำกัดอย่างที่เราคาดไว้ เศรษฐกิจสหรัฐยังฟื้นตัวและเติบโตดี ส่วนยูโรโซน จีน และญี่ปุ่นยังอ่อนแอ แต่ทางการของทั้ง 3ประเทศออกมาตรการกระตุ้นคาดว่าจะมีเพิ่มเติมอีกในระยะต่อไป ด้านเศรษฐกิจไทยมีการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ในเดือนต.ค.57 เริ่มเห็นการเติบโตที่ดีขึ้นของภาคส่งออก ท่องเที่ยว การบริโภคภายในประเทศ รวมถึงการเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐที่เร่งตัวขึ้น เราปรับลดคาดการณ์ EPSGrowth ของตลาดหุ้นไทยปี 57-58 เป็น 6.9% และ 12.1% (เดิม 9% และ14%) โดยหลักเป็นการสะท้อนแนวโน้มผลประกอบการที่อ่อนแอลงของกลุ่มพลังงาน และปรับลดเป้าหมาย SET Index ปี 58 เป็น 1707 จุด (เดิม 1779จุด) อย่างไรก็ดี ตามสถิติแล้วเดือนธ.ค.โอกาสหุ้นจะขึ้นมีสูงถึง 78% หนุนโดยแรงซื้อจากกองทุน LTF และความหวังว่าเศรษฐกิจ & กำไรภาคธุรกิจในปีหน้าจะขยายตัวได้ดีกว่าปีที่กำลังจะสิ้นสุดลง กลยุทธ์ : เน้นการลงทุนไปยังหุ้นพื้นฐานที่มีแนวโน้มเติบโตได้ดีในปี 58 หลักทรัพย์ Top Picks เดือนธ.ค.57 เป็น KCE, KTB, MINT, PS, WHA ส่วนหลักทรัพย์ Dark Horse คือCHG, SPALI

• ไทย : อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนพ.ย.57 ลดลงเป็น 1.26% โดยเป็นการชะลอตัวต่อเดือนที่ 6 และต่ำสุดในรอบ 5 ปี เพราะราคาน้ำมันลดลง &มาตรการลดค่าครองชีพ & ตรึงราคาสินค้า ส่วน 11M57 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเท่ากับ 2.02% คาดทั้งปีนี้ไว้ที่ 2% สำหรับปี 58 ก.พาณิชย์ประเมินกรอบเงินเฟ้อไว้ที่ 1.8-2.5%

ความเห็นเชิงกลยุทธ์ Retail Research : อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำและเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้าทำให้คาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยในประเทศจะยังทรงตัวระดับปัจจุบันไปถึงอย่างน้อย 3Q58 ซึ่งดอกเบี้ยต่ำเป็นบวกกับกลุ่มที่พักอาศัยและการอุปโภคบริโภค อย่างไรก็ตาม ความระมัดระวังในการใช้จ่ายของภาคครัวเรือนและความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อรายย่อยของสถาบันการเงินทำให้การเติบโตไม่หวือหวา เรายังชอบหุ้นที่พักอาศัยและพาณิชย์ขนาดใหญ่ เพราะมองว่ามีการกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจดี ฐานะการเงินมั่นคง หุ้นเด่นกลุ่มที่พักอาศัยเป็น PS, SPALI ส่วนหุ้นเด่นกลุ่มอุปโภคบริโภคได้แก่ CPALL, MINT

+ DTAC : เซ็นสัญญากับ CAT เป็นพันธมิตรทางธุรกิจ รองรับการหมดอายุสัมปทานปี 2561 ซึ่งคาดว่ารูปแบบธุรกิจจะชัดเจนภายในสิ้นเดือนธ.ค.นี้ ทั้งนี้ DTAC คาดหวังว่าจะใช้ทรัพย์สินของ CAT ไปต่อยอดธุรกิจเพื่อประหยัดการลงทุนและให้ครอบคลุมผู้ใช้บริการได้มากขึ้น ซึ่งทาง CAT มองทางเลือกไว้ 3 แนวทาง คือ อาจจะอยู่ในรูปแบบการร่วมทุนกัน หรือการแปลงสินทรัพย์ที่ DTAC ส่งมอบให้ทุนหรือหุ้น หรือ นำเสาและอุปกรณ์หลังหมดสัมปทานเข้ากองทุนเพื่อระดมเงินทุนเพิ่มเติม

• ก.ล.ต.คาดว่ามาตรการสกัดหุ้นร้อนจะเข้าพิจารณาในบอร์ดสัปดาห์หน้า และประกาศใช้ได้ทันภายในปี 57 ซึ่งในส่วนนี้อาจส่งผลกระทบต่อการลงทุนในหุ้นขนาดเล็กที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วง 5-6 เดือนที่ผ่านมา

นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : Tel 7829 [email protected] 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!