- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 01 December 2014 17:43
- Hits: 1662
บล.ธนชาต : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market Outlook
หุ้นกลุ่มพลังงานกดดัน SET ต่อ ขณะที่เศรษฐกิจเดือน ต.ค.ฟื้นตัว: การปรับลดลงแรงของหุ้นกลุ่มพลังงาน กดดัน SET ปรับลดลง -0.37% ปิดที่ 1,593.91 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.7 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นสุทธิ 1,131 ล้านบาท...สำหรับแนวโน้ม SET วันนี้ คาดว่าจะยังถูกกดดันจากการปรับลดลงของหุ้นกลุ่มพลังงานอย่าง PTT และ PTTEP อย่างไรก็ตามการปรับลดลงของราคาน้ำมันเป็นปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจในประเทศ ผ่านการนำเข้าที่ลดลง ต้นทุนการผลิตลดลง กำลังซื้อเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่มรับเหมาฯ (CK STEC) วัสดุก่อสร้าง (TPIPL) ค้าปลีก (CPALL) อสังหาฯ (LPN QH SPALI) ขณะที่เศรษฐกิจเดือน ต.ค.ฟื้นตัวจากเดือน ก.ย. โดย
การลงทุนภาคเอกชน +0.5% m-m อย่างไรก็ตามการบริโภค -0.3% m-m ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยว +6.1% y-y
“ซื้อ” รับเหมาก่อสร้าง และวัสดุก่อสร้าง: Domestic Plays เป็นกลุ่มหุ้นที่ได้รับผลดีจากการปรับลดลงของราคาน้ำมันการปรับลดลงของราคาน้ำมัน แนะนำ “ซื้อ” กลุ่มรับเหมาฯ (CK –ต้าน 28.75 STEC –ต้าน 29) วัสดุก่อสร้าง (SCCC –ต้าน 430/434 TPIPL –ต้าน 2.06) กลุ่มท่องเที่ยว และสายการบิน (AOT – ต้าน 290) กลุ่มอสังหาฯ (SPALI – ต้าน 28.25)
Tactical Portfolio (1-3 months)
TNS แนะนำ AOT, BGH, BTS, CK, EA, KBANK, SAMART, SAPPE, SPALI, และ TUF เป็นหุ้นใน Tactical Portfolio ต่อเนื่อง
Tactical Portfolio: ให้อัตราผลตอบแทน +1.83% w-w (24-28 พ.ย. 2014) สูงกว่า SET ที่ให้อัตราผลตอบแทน +0.93% w-w อยู่ 0.90% โดยหุ้นที่ให้อัตราผลตอบแทนดีที่สุดใน Tactical Portfolio ได้แก่ SPALI, SAPPE, AOT ที่ให้อัตราผลตอบแทนสูง 6.9%, 5.9% และ 5.3% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตามลำดับ ขณะที่ EA ให้อัตราผลตอบแทนต่ำที่สุดในพอร์ต หลังจากที่ Outperform ก่อนหน้านี้ด้วยประเด็นการ Rebalancing ของดัชนี MSCI ขณะที่ในทางพื้นฐานล่าสุดเราปรับเป้าหมายพื้นฐาน EA ขึ้นเป็น 32.0 บาท และแนะนำ “ซื้อ” ต่อไป...ทั้งนี้ตั้งแต่จัดทำ Tactical Portfolio เมื่อวันที่ 13 ม.ค.14 ให้อัตราผลตอบแทน 64.07% ขณะที่ SET ให้อัตราผลตอบแทน 26.11% หรือให้อัตราผลตอบแทนดีกว่า SET อยู่ 30.10%
AOT...กำไร 4Q14 +18% y-y: ผลการดำเนินงาน 4Q14 ขยายตัว 18% y-y ที่ 2.1 พันล้านบาท ใกล้เคียงกับที่ประมาณการไว้ แนะนำ “Let the Profit Run” ต่อ ด้วยเป้าหมายระยะสั้นที่ 290 บาท (เป้าหมายพื้นฐาน 276 บาท)
Technical
สัปดาห์นี้จะผ่าน 1600 จุด : แรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่หนุนตลาด และดัชนี SET ผ่าน 1600 จุดไปได้ ระยะสั้นมีทิศทางขึ้น สอดคล้องกับแนวโน้มระยะกลาง จังหวะที่ดัชนี SET ปิดยืนเหนือระดับ 1600 จุดได้ เป็นจังหวะซื้อโดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ในหมวดธนาคาร และดัชนี SET ยังคงมีเป้าหมายสำคัญขึ้นไปที่ระดับ 1650 จุด
หุ้นที่แนะนำซื้อ : TUF คาดว่าจะมีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้านย่อย 87.25 บาท และคาดว่าจะทะลุผ่านแนวต้านไปได้ รอจังหวะซื้อตามเมื่อผ่านแนวต้าน โดยมีเป้าหมายระยะสัปดาห์ ขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 90.00-91.00 บาท SAMTEL สัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่ามีแรงซื้อโดดเด่น โดยที่ราคาหุ้นเปิดช่องว่างขึ้นยืนเหนือระดับ 21.00 บาท คาดว่าจะมีโอกาสขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้าน 23.50 บาท มีเป้าหมายขึ้นทำยอดสูงสุดใหม่ที่ 25.50 บาท เป็นจุดขายสำคัญ
TFEX Recommendation
SET50 Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Long สัญญา S50Z14 โดยมีเป้าหมายการปรับสูงขึ้นที่ 1,090 จุด ซึ่งเป็นแนวต้านตามกรอบ Uptrend Channel ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 1,070 จุด
Gold Futures: แนะนำ “ปิด” สถานะ Long สัญญา GFZ14 หลังจากปรับลดลงต่ำกว่า Trailing Stop ที่ 18,550 บาท โดยสถานะ Short กลับมาได้เปรียบอีกครั้งทั้งกราฟระดับวัน และสัปดาห์ โดยมีเป้าหมายการปรับลดลงแรงที่ 18,000 บาท
Oil Futures: แนะนำ “Trading” ในกรอบ 2340-2500 สัญญา BRZ14 โดยราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลดลงแรงเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันอีก US$2.42/bbl ทั้งนี้ถ้าพิจารณาในเชิงเทคนิคสถานะ Short มีความได้เปรียบทั้งกราฟระดับวัน และสัปดาห์ โดยแนะนำรอเปิดสถานะ Short ในจังหวะ Rebound
Thai Strategy Team
นพดล พิริยวุฒิ
อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล