- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 28 November 2014 18:09
- Hits: 2137
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
“โอเปคคงการผลิต ระวังกลุ่มพลังงาน”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ดัชนีฯวันพฤหัสทำได้ดี +8.82 จุด หรือ 0.55% ปิดที่ระดับ 1,599.82 จุด มูลค่าการซื้อขายเป็น 50.1 พันล้านบาทระหว่างวันทำยอดสูงสุดไว้ถึง 1,602.28 จุด แต่ไม่สามารถยืนอยู่ได้ ดูเหมือนดัชนีฯพยายามขึ้นไปทดสองยอดสูงเดิม แต่ยังไม่สำเร็จ ปัจจัยบวกคือตัวเลขส่งออก ต.ค.57 สดใสขึ้น และมีการซื้อกลับในหุ้นเก็งกำไรขนาดเล็ก ด้านผู้ซื้อสุทธิคือ ต่างประเทศ พอร์ตโบรกเกอร์ ส่วนขายสุทธิคือรายย่อย และสถาบัน เหมือนกับสองวันที่ผ่านมา สำหรับวันนี้ในที่สุดการประชุมโอเป็คสรุปว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงเพดานการผลิต จึงคาดว่าจะส่งผลกับหลักทรัพย์กลุ่มพลังงานต่อไป ตลาดน้ำมันเบรนท์ลอนดอน ปรับลงถึง 5.2 เหรียญต่อบาร์เรลล์ และเนื่องจากมี market cap ใหญ่ จึงอาจกระทบต่อ SET โดยรวมได้ แนะนำให้หลีกเลี่ยงกลุ่มพลังงานไปก่อน ส่วนปัจจัยต่างประเทศ ตลาดสำคัญๆปิดทำการ ในโอกาสวันหยุด แต่ตัวเลขเศรษฐกิจญี่ปุ่นและเยอรมันดีขึ้น ส่วนเรื่องบวกเดิมๆคือ ตลาดยังมีความหวังกับแรงซื้อของกองทุน LTF ในช่วง 1 เดือนสุดท้ายของปี และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ & กำไรบจ.ในปี 58นอกจากนั้น Valuation ของตลาดหุ้นไทยยังต่ำเมื่อเทียบกับภูมิภาค แต่ก็พร้อมที่จะมีแรงขายทำกำไรสลับออกมาหลังดัชนีฯไม่สามารถไปทดสอบระดับสูงสุดเดิมที่ 1,600 จุด ระยะหลังตลาดฯกลับมาสนใจหุ้นขนาดใหญ่ จากแรงซื้อของกองทุน LTF และ RMF ส่วนหุ้นขนาดกลาง-เล็กแม้วานนี้จะมีแรงซื้อกลับ แต่ก็ยังวางใจไม่ได้เสียทีเดียว เพราะเหลือเวลาไม่นานนักก็จะขึ้นปีใหม่ที่จะเริ่มมีการใช้มาตรการเข้มงวดกับหุ้นร้อน ดังนั้นเพื่อป้องกันความเสี่ยงจึงแนะนำว่าการเก็งกำไรไม่ควรหวัง Gap ที่มาก เน้นซื้อค่าบวก หากเป็นลบจะดูไม่ดี ส่วนการซื้อลงทุนระยะกลาง-ยาวควรเลือกหุ้นที่มีพื้นฐานดี เพื่อป้องกันความเสี่ยงไว้ก่อน หุ้นพื้นฐานแนะนำในวันนี้เป็น MINT
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดในระยะสั้นกลับเป็นบวก หากต้องการเก็งกำไร จึงยังควรเป็น Follow Buy ด้วยค่าบวก แต่หากเริ่มเป็นลบจะดูไม่ค่อยดี เพราะมีสิทธิอ่อนตัวลงต่อไปยังแนวเด้ง 1585, 1575 แต่ถ้ายืนเหนือ SMA10 ได้ก็ลุ้นถือต่อ หุ้นที่มีสัญญาณบวกทางเทคนิคและมีโอกาสทำ Newhigh ที่ยังอยู่ใน List คือ RATCH, BECL, GENCO, TICON หุ้นที่เข้ามาใหม่ เป็น UWC, NBC, SPALI หุ้นที่หลุด List ไม่มี ส่วนหุ้นที่อยู่ในพื้นที่หาจังหวะ Take profit คือ INTUCH, ERW, BEAUTY
Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ
-/• โอเปค: ผลประชุม คงเพดานการผลิต ที่ประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) มีมติคงเพดานการผลิตน้ำมันในการประชุมครั้งล่าสุดเมื่อวานนี้ความเห็น:คาดว่าจะทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลก มีแนวโน้มปรับลงอย่างต่อเนื่อง พอดีตลาดน้ำมันปิดนิวยอร์คปิดทำการ จึงยังไม่ได้สะท้อนข่าวนี้ แต่ตลาดน้ำมันเบรนท์ร่วงแรง จากก่อนประชุม 77.8 เป็น 72.6 เหรียญต่อบาร์เรลล์ ส่วนหลักทรัพย์กลุ่มพลังงานของไทย จึงยังคงได้รับผลลบเช่นเคย ทั้งผลกำไรจากการดำเนินงาน และขาดทุนจากสินค้าคงเหลือ แต่ก็รับข่าวลบบางส่วนไปก่อนหน้าแล้วเช่นกัน จึงไม่น่ากระทบรุนแรง
+เยอรมัน: ว่างงาน พ.ย.ลดลง สำนักงานแรงงานของเยอรมนีเปิดเผยว่าจำนวนคนว่างงานของเยอรมนีในเดือนพ.ย.ลดลง 14,000 ราย แตะ 2.87 ล้านราย ขณะที่อัตราว่างงานอยู่ที่ 6.6% ซึ่งเป็นสถิติต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เนื่องจากภาคธุรกิจและนักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าเศรษฐกิจเยอรมนีจะยังคงขยายตัวต่อไป
+ ญี่ปุ่น: ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมออกมาดี รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่าผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค.ของญี่ปุ่นปรับตัวขึ้น 0.2% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ส่วนดัชนีการขนส่งในภาคอุตสาหกรรมปรับตัวขึ้น 0.4% แตะที่ 98.4ขณะที่ดัชนีสต็อกสินค้าคงคลังภาคอุตสาหกรรมปรับตัวลง 0.4% แตะที่ 111.4
+ ญี่ปุ่น: ดัชนี CPI เดือนต.ค.ปรับตัวขึ้น 2.9% เทียบรายปี กระทรวงสื่อสารและกิจการภายในประเทศเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนต.ค.ปรับตัวขึ้น 2.9% เมื่อเทียบรายปี ทำสถิติปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่17 ก่อนหน้านี้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ระบุว่า การปรับขึ้นภาษีการบริโภคเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมานั้น ทำให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 2%ทั้งนี้ บีโอเจมีเป้าหมายที่จะหนุนอัตราเงินเฟ้อให้เพิ่มขึ้นแตะระดับ 2% ภายในปีงบประมาณปีหน้า โดยไม่นับรวมถึงผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีการบริโภค
+ ตลาดหุ้นเยอรมัน: บวก หลังจากสำนักงานแรงงานของเยอรมนีเปิดเผยว่าอัตราว่างานเดือนพ.ย.ของเยอรมนีปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำ สุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของของเยอรมนี
• ตลาดหุ้นนิวยอร์ค: ปิดทำการ เนื่องจากวันหยุดขอบคุณพระเจ้า
• ตลาดน้ำมัน: ปิดทำการ เนื่องจากวันหยุดขอบคุณพระเจ้า
• ตลาดทองคำ: ปิดทำการ เนื่องจากวันหยุดขอบคุณพระเจ้า
-ดัชนีค่าระวางเรือ: ลดลงต่อเนื่องในอัตราที่มาก วานนี้ปรับลดลงอีก 52จุด หรือ 4.2% มายืนอยู่ที่ 1,187 จุด คาดว่าแม้ TTA วานนี้ประกาศผลการดำเนินงานปี 57 ออกมาดี แต่ก็ได้รับจิตวิทยาทางลบจากเรื่องดัชนีค่าระวางเรือที่ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง
ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหลักทรัพย์เด่น
+นักวิชาการประเมิน เศรษฐกิจไทยปี 58 โต 4-5% มหาวิทยาลัยรังสิตประเมินเศรษฐกิจไทยไตรมาส 4/57 จะกระเตื้องขึ้นขยายตัวไม่ต่ำกว่า 3.5% ไม่มีแรงกดดันเงินเฟ้อ แม้ฤดูท่องเที่ยวปลายปีคงไม่คึกคักจากกฎอัยการศึก แต่คงดีกว่าปลายปีที่แล้ว ทั้งนี้ มองว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวเต็มที่ในไตรมาส 2/58 ผลจากการส่งออกและการท่องเที่ยวขยายตัวมากขึ้น การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐเดินหน้า การลงทุนเอกชนเริ่มขยายตัวเป็นบวกหลังจากติดลบสองปีต่อเนื่องกันขณะที่การบริโภคขยายตัวเพียงเล็กน้อยจากหนี้ภาคครัวเรือนในระดับสูง อัตราการใช้กำลังการผลิตในภาคอุตสาหกรรมโดยรวมน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ65% ซึ่งยังไม่ได้เป็นระดับที่จะมีการลงทุนใหม่ๆ เพิ่มเติมจำนวนมาก
+/• การเมือง: รมว.คลังมองเลือกตั้งกลางปี 59 เหมาะสม นายสมหมายภาษี รมว.คลัง แสดงความเห็นส่วนตัวว่า การเลือกตั้งใหม่คงยังไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในปีนี้ เนื่องจากประเทศไทยยังอยู่ในช่วงของการปฏิรูปหลายด้าน ขณะนี้รัฐบาลยังมีภารกิจที่จะต้องดำเนินการอีกมาก คาดว่าจะต้องใช้เวลาประมาณอีก1 ปีครึ่งจึงจะแล้วเสร็จและสามารถจัดการเลือกตั้งได้ พร้อมเชื่อว่าเรื่องนี้นักลงทุนต่างชาติจะเข้าใจได้
• BTS: แพ้ประมูลที่ปักกิ่งๆไม่กระทบพื้นฐาน BTS-CITIC คอนซอเตียม แพ้การประมูลโครงการรถไฟฟ้าใต้ดินกรุงปักกิ่ง สาย 16 เพราะราคาที่ยื่นเสนอโดยBTS-CITIC คอนซอเตียม สูงกว่าราคาของ Beijing MTR แต่การที่บริษัทฯ ได้รับเชิญจากเทศบาลกรุงปักกิ่งแสดงให้เห็นว่าบริษัทฯได้รับการยอมรับในฐานะผู้ประกอบการระบบขนส่งมวลชนทางรางที่มีคุณสมบัติและความเชี่ยวชาญในระดับมาตรฐานสากล นอกจากนี้แล้ว การเข้าร่วมประมูลในครั้งนี้ ยังช่วยเพิ่มพูนประสบการณ์ของบริษัทฯ ในงานประมูลโครงการระดับสากล โดยจะมีการประมูลในต่างประเทศอีกในอนาคต
ความเห็น: ไม่กระทบปัจจัยพื้นฐาน เพราะทราบแต่แรกแล้วว่า บริษัทไม่หวังจะได้งานนี้ แต่เพื่อเป็นประสบการณ์ จีงไม่ได้นำมารวมไว้ในประมาณการและราคาพื้นฐาน เราคาดว่า BTS ยังมีโอกาสประมูลงานบริหารเดินรถในไทยได้อีกหลายสาย รวมทั้งต่างประเทศด้วย คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาพื้นฐานเป็น 11.11 บาทประเมินด้วยวิธี SOTP
+ กทพ.จะเสนอ ครม.ก่อสร้างทางพิเศษ 3 สายในปี 58 ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า การทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) จะเสนอรัฐบาลเพื่อขอดำเนินการก่อสร้างโครงการทางพิเศษ 3 สายในปี 58 ประกอบด้วย 1.โครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N1,N2,N3 2.โครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก และ 3.โครงการทางพิเศษสายกระทู้-ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต
ความเห็น: เราคาดว่าบริษัทที่มีประสบการณ์ และมีผลงานการก่อสร้างทางด่วนให้กับ กทพ. ที่โดดเด่นคือ CK ล่าสุดคือ ได้รับส่วนขยายทางด่วนศรีรัช จึงคาดว่าจะมีโอกาสสูงที่จะได้รับงานข้างต้น คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาพื้นฐาน 29.51 บาทรองลงมาคือ STEC ก็เคยได้รับงานจาก กทพ. แต่ก็ไม่มากเท่า CK คงคำแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 29.50 บาท
-/+ พลังงานทดแทน: รายใดมีใบอนุญาตไม่สร้างจะโดนยกเลิกปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงกรณีที่เอกชนหลายรายที่ได้รับใบอนุญาตจัดตั้งโรงไฟฟ้าโดยเฉพาะในกลุ่ม โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน แต่ยังไม่ยอมก่อสร้างโรงไฟฟ้าตามสัญญา และนายกรัฐมนตรีได้ตั้งข้อสังเกตว่ามีการเร่ขายใบอนุญาตดังกล่าว ซึ่งเรื่องนี้กระทรวงจะเร่งแก้ไขโดยด่วน โดยจะใช้มาตรการเข้มข้นเพื่อจัดระเบียบภาคเอกชน และขอเตือนไปยัง ผู้ประกอบการที่จะขายต่อใบอนุญาตจัดตั้ง โรงไฟฟ้า หากตรวจสอบพบจะยกเลิก ใบอนุญาตทันที
ความเห็น: จากหนังสือพิมพ์ โพสต์ทูเดย์ระบุว่ามีอยู่ 14 ราย จำนวน 240 กว่าเมกกะวัตต์ แต่ไม่เปิดเผยว่าเป็นบริษัทใดบ้าง จึงคาดว่าจะเป็นข่าวลบกับกลุ่มหลักทรัพย์พลังงานทดแทน หากมีชื่ออยู่ใน 14 รายดังกล่าว แต่ในระยะกลางถึงยาวจะดี หากในที่สุดใบอนุญาตไปตกกับผู้ประกอบการที่ต้องการจะลงทุนจริงๆ
นักวิเคราะห์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : Tel 7835
[email protected]
