- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 27 November 2014 16:52
- Hits: 1784
บล.ธนชาต : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market Outlook
ส่งออกเดือน ต.ค. +3.97%...กลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ (SET50) แข็งแกร่งกว่าตลาดโดยรวม: SET ถูกกดดันจากการปรับลดลงของกลุ่มหุ้นขนาดกลาง รวมไปถึงหุ้นกลุ่มพลังงานที่ได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลง ปิดตลาดที่ 1,591 จุด -0.36% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นสุทธิ 109 ล้านบาท...สำหรับแนวโน้ม SET ระยะสั้นมีแนวโน้มแก่วงตัวสร้างฐาน Downside Risk จำกัดที่ 1,585 จุด และคงเป้าหมายการปรับขึ้นที่ 1,600/1,650 จุด ล่าสุดตัวเลขส่งออกเดือน ต.ค. +3.97% y-y ที่ US$20.16 พันล้านดีกว่าตลาดคาด (สินค้าเกษตร +1.4% y-y และสินค้าอุตสาหกรรม +5.4% m-m) ขณะที่การนำเข้า -4.88% y-y ที่ US$20.13 ล้าน ส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุลเล็กน้อย US$31.5 ล้าน
“ซื้อ” AOT และ “ทยอยสะสม” หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลต่อเนื่อง: แนะนำ “ซื้อ” AOT ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 276 บาท ด้วยปัจจัยสนับสนุนจากจำนวนผู้โดยสารที่กลับมาขยายตัว +11% ในเดือน ต.ค.และคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง y-y ไปจนถึง 1Q15 เป็นอย่างน้อย รวมไปถึง “ทยอยสะสม” หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลต่อเนื่อง BGH (แนวต้าน 19.30 บาท) CHG (แนวต้าน 20.2) คาดผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่องใน 4Q14
Tactical Portfolio (1-3 months)
TNS แนะนำ AOT, BGH, BTS, CK, EA, KBANK, SAMART, SAPPE, SPALI และ TUF เป็นหุ้นใน Tactical Portfolio ต่อเนื่อง
KBANK…”ซื้อ” สินเชื่อเดือน ต.ค.เติบโตแข็งแกร่ง +1.0% m-m: สินเชื่อธนาคารพาณิชย์ 9 แห่ง เดือน ต.ค. ขยายตัว +0.1% m-m ส่งผลให้สินเชื่อเติบโต +1.6% ตั้งแต่ต้นปี โดย KBANK มีการเติบโตสินเชื่อสูงที่สุด +1.0% m-m ส่งผลให้สินเชื่อขยายตัว +5.2% YTD สนับสนุนโดยการเติบโตสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ SME และรายย่อย ขณะที่ TISCO รายงานสินเชื่อหดตัว -1.1% m-m และ -7.0% YTD เนื่องจากสินเชื่อที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจยานยนต์ยังอ่อนแอ...ทั้งนี้เราคงน้ำหนักลงทุนหุ้นกลุ่มธนาคารที่ Overweight และให้ KBANK BBL เป็น Top Picks…ทั้งนี้ถ้าพิจารณาในเชิงเทคนิค การปรับลดลงของราคาหุ้น KBANK ตั้งแต่ต้นสัปดาห์มาที่แนวรับระยะสั้น 246 +/- บาท เป็นโอกาสในการเข้าซื้อ ด้วยเป้าหมายพื้นฐานที่ 255 บาท และมีแนวต้านระยะสัปดาห์ที่ 258 บาท หรือถัดไปที่
270 บาท
AOT…”ซื้อ” จำนวนผู้โดยสารฟื้นตัว +11.2% y-y ในเดือน ต.ค.: แนะนำ “ซื้อ” AOT ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 276 บาท ซึ่งใกล้เคียงกับเป้าหมายระยะสั้นทางเทคนิคที่ 277-278 บาท ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก…
Technical
แกว่งตัวเพื่อหาจังหวะปรับสูงขึ้นต่อ: SET ทดสอบ 1600 จุดวานนี้แต่ยังไม่สามารถผ่านขึ้นไปได้ มีจังหวะขายทำกำไรหุ้นกลุ่มพลังงานที่ปรับลดลงตามราคาน้ำมัน มอง Downside Risk จำกัดที่ 1580-1585 จุด เท่านั้น ซึ่งบริเวณ 1581 เป็น Gap ที่เปิดไว้ในช่วงต้นสัปดาห์ ขณะที่คงเป้าหมายหลักของการปรับสูงขึ้นรอบนี้ที่ 1650 จุด
หุ้นที่แนะนำซื้อ: MINT ราคาหุ้นฟื้นตัวต่อเนื่องพร้อม DI+ ที่เริ่มหักหัวขึ้น สามารถทะลุกรอบ Sideways บริเวณ 34.50 บาท ไปได้ เป็นจังหวะซื้อตาม โดยมีเป้าหมายแรกที่ 36.50 บาท และเป้าหมายในการขายทำกำไรที่ 38.0 บาท THCOM ราคาหุ้นฟื้นตัวขึ้นมาเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 1 เดือน และจุดสูงสุดเดิมในช่วงกลางเดือน พ.ย.ที่ 37.75 บาท ซึ่งเป็นแท่งเทียนรูปแบบ Bullish Belt Hold พร้อมปริมาณการซื้อขายสูงสุดในรอบ 2 เดือน มีเป้าหมายแรกที่ 39.0 และถัดไป 40.50 บาท
TFEX Recommendation
SET50 Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Long สัญญา S50Z14 โดยมีเป้าหมายการปรับสูงขึ้นที่ 1,090 จุด ซึ่งเป็นแนวต้านตามกรอบ Uptrend Channel ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 1,060 จุด
Gold Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Long สัญญา GFZ14 โดยมีเป้าหมายการปรับสูงขึ้นที่ 18,800 บาท ที่เป็นแนวต้าน Downtrend Line คาดว่าจะสามารถปรับสูงขึ้นทะลุไปได้ และมีเป้าหมายถัดไปที่ 19,230 บาท ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 18,550 บาท
Oil Futures: แนะนำ “Cut Loss” สถานะ Long สัญญา BRZ14 หลังปรับลดลงต่ำกว่า Trailing Stop ที่ 2600 อย่างไรก็ตามด้วยสัญญาณ Bullish Divergence และภาวะ Oversold ทางเทคนิค ทำให้เราแนะนำให้นักลงทุน “รอเปิด” สถานะ Long อีกครั้ง เมื่อมีสัญญาณ ฟื้นตัวทางเทคนิค
Thai Strategy Team
นพดล พิริยวุฒิ
อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล