บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 18-5-2022

กดไลน์-แชร์ให้เพื่อนๆด้วยครับ

บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 18-5-2022

AT THE OPEN (#ATO)

S T R A T E G Y R E P O R T / 18 พฤษภาคม 2565

แกว่งขึ้น

อยู่ในช่วงรีบาวน์

วันนี้คาด SET แกว่งขึ้น ในกรอบแนวรับ 1,600 จุด และแนวต้าน 1,630 จุด เน้นหุ้นแนวโน้มกำไรเด่น โดย ATO Picks วันนี้ แนะนำ “AAV, CK”

AAV

แนวโน้มการท่องเที่ยวไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง ขานรับการผ่อนปรนมาตรการเข้าประเทศ โดยล่าสุดสภาพัฒน์ปรับเพิ่มคาดการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยในปีนี้ขึ้นสู่ระดับ 7 ล้านคน จาก 5.5 ล้านคน คาดเป็นบวกต่ออุตสาหกรรมการบิน

เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 3.6 บาท

กำไรสุทธิ 1Q65 ที่ 121 ล้านบาท (+16%QoQ, -42%YoY) โดยกำไรปกติสามารถฟื้นตัวขึ้นมาเป็นบวก เทียบกับขาดทุน 175 ล้านบาท ในไตรมาสก่อน และ ปีก่อน จากยอดรับรู้รายได้จากงานก่อสร้างที่เพิ่มเด่น และอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในเกณฑ์ดี 8.1% ดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน 7.2%

เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 24 บาท

INVESTMENT THEME

โพเวลเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยแก้เงินเฟ้อ : ถ้อยแถลงของนายเจอโรม โพเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) บ่งชี้ว่า FED จะปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพื่อทำให้เงินเฟ้อปรับตัวลดลงสู่จุดที่เหมาะสม ถ้อยแถลงดังกล่าวถือว่าสนับสนุนการประชุมในช่วง 2-3 ครั้งถัดไป มีโอกาสที่ FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยราว 0.5% ต่อครั้ง หนุนให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯวานนี้ขยับขึ้นทดสอบ 3% อีกครั้ง ส่วนด้านตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ พบว่า ตัวเลขยอดค้าปลีก และผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ขยายตัวได้ราว +0.9%MoM, +1.1%MoM ตามลำดับ ทำให้มีแรงเก็งในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น ซึ่งคาดยังคงหนุน SET ยืนเหนือระดับ 1,6000 จุด

GDP ไทย 1Q65 ขยายตัวดีกว่าคาด : วานนี้สภาพัฒน์รายงานตัวเลข GDP ไทยไตรมาส 1Q65 ขยายตัว +2.2%YoY ดีกว่าตลาดคาดที่ +1.7%YoY แรงหนุนจากการฟื้นตัวของการบริโภคภาคเอกชน (+3.9% YoY จาก +0.4% ใน 4Q64) และส่งออก (สินค้าและบริการ) ทรงตัวสูง +12.0% YoY ในขณะที่การบริโภคภาครัฐชะลอลง +4.6% (4Q64: +8.1%) ส่วนการลงทุนพลิกมาเป็นบวก +0.8% (4Q64: -0.8%) สำหรับอุตสาหกรรมที่ฟื้นตัวเด่น คือ ภาคการท่องเที่ยว สะท้อนจากตัวเลขด้านการผลิตสาขาที่พักแรมและอาหารเร่งตัว +34.1% จาก -4.9% ใน 4Q64 เช่นเดียวกับตัวเลขการส่งออกภาคบริการที่ +30.7% โดยสรุปถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ

MARKET SUMMARY

วานนี้ SET ปรับขึ้นขานรับความหวังเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวหลังเตรียมปลดล็อกดาวน์เซี่ยงไฮ้ 1 มิ.ย.นี้ โดย SET ปิดที่ 1,614.49 (+30.11 จุด) มูลค่าการซื้อขาย 8.5 หมื่นล้านบาท (เทียบกับวันก่อนหน้า 7.5 หมื่นล้านบาท)

โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อ 3,204 ลบ. นักลงทุนสถาบันซื้อ 2,668 ลบ. ส่วนตลาด TFEX นักลงทุนต่างชาติ Long Index Future 37,915 สัญญา

EYES ON

18 พ.ค. ยอดขายบ้าน US, ยอดอนุญาตก่อสร้าง US, CPI ของยูโรโซน

19 พ.ค. ยอดขายบ้านมือสอง US, ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน US

Tipco Asphalt (TASCO)

ฟื้นตัว แต่กำไรยังแย่ ลดเกรด

SELL

Share Price THB 16.00

12 m Price Target THB 14.00 (-13%)

Previous Price Target THB 19.50

ปรับลดกำไรปี2565ลง47% จากต้นทุนน้ำมันดิบแพง

กำไร 1Q65 ทรุดหนักจากต้นทุนน้ำมันดิบแพง แนวโน้มจะดีขึ้น หลังราคายางมะตอยเพิ่มสูงขึ้น แต่ต้นทุนน้ำมันดิบในระดับสูงจะกดดันกำไรยังแย่ TASCO มีแผนจะสั่งซื้อน้ำมันดิบเข้ามากลั่นอีก 4 Cargo ทำให้ยังตั้งเป้าหมายปริมาณขาย 1.2 ล้านตัน ใกล้ปีก่อน ผลของราคาน้ำมันดิบยังอยู่ในระดับสูงเกิน 100 เหรียญ/บาร์เรล เราปรับประมาณการกำไรลดลงอีก 47% ทำให้ราคาเป้าหมายลดลงจาก 19.50 บาท เหลือ 14 บาท บนฐานค่าเฉลี่ย 10 ปี Forward P/E+1SD = 14.5 เท่า ตามดัชนีกลุ่มวัสดุก่อสร้าง (ใช้กำไรเฉลี่ยปี 2565 และ 2566 เนื่องจากปี 2565 เป็นปีที่น้ำมันสูงผิดปกติ) และ เราลดเกรดคำแนะนำจาก ถือ เป็น ขาย

กำไร1Q65ทรุดหนักจากต้นทุนน้ำมันดิบแพง

TASCO ประกาศผลประกอบการ 1Q65 มีกำไรทรุดหนักเหลือเพียง 216 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อน 61%QoQ และ ปีก่อน 49%YoY ถูกกระทบจากปัญหาต้นทุนน้ำมันดิบแพง ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเหลือเพียง 6.5% จาก 12.8% ในไตรมาสก่อน และ 13.8% ในปีก่อน จากปัญหาต้นทุนน้ำมันดิบแพง

ผู้บริหารคงเป้าหมายปริมาณขาย 1.2 ล้านตัน ใกล้ปีก่อน

ผู้บริหารยังคงเป้าหมายปริมาณขายยางมะตอยในปีนี้ประมาณ 1.2 ล้านตัน ใกล้เคียงปีก่อนที่มีปริมาณขาย 1.24 ล้านตัน โดยจะกลั่นยางมะตอยเองประมาณ 40% อีก 65% จะซื้อจากโรงกลั่นรายอื่น ราคายางมะตอยปัจจุบันอ้างอิง Argus ที่สิงคโปร์ ปรับตัวสูงขึ้น 550 เหรียญ/ตัน จากราคาเฉลี่ยใน 1Q65 เท่ากับ 463 เหรียญ/ตัน และ ราคาเฉลี่ยใน 4Q64 เท่ากับ 425 เหรียญ/ตัน ซึ่งเป็นระดับที่มีกำไร เมื่อเทียบกับต้นทุนน้ำมันดิบปัจจุบัน ดังนั้น TASCO จึงวางแผนจะสั่งซื้อน้ำมันดิบเข้ามากลั่น 4 Cargo ประเด็นเวเนซุเอลา ถูกแซงก์ชั่น ซึ่งเป็นแหล่งน้ำมันดิบหลักของ TASCO ในอดีต ปัจจุบันสหรัฐฯยังไม่ผ่อนคลาย ทำให้ TASCO ยังต้องหาน้ำมันดิบจากแหล่งอื่น

2Q65 จะฟื้นตัวแต่กำไรยังต่ำ ปรับประมาณการลดลง กำไรปีนี้จะทรุดหนัก

แนวโน้มผลประกอบการ 2Q65 จะดีขึ้น จากราคาขายยางมะตอยที่ปรับตัวสูงขึ้น ตลาดในประเทศจะยังมีการเบิกจ่ายงบประมาณสูง ตลาดต่างประเทศจะเริ่มเข้าสู่ฤดูขาย (Working Season) นอกจากนี้ตัวเลข Hedging loss ที่ปรากฏในไตรมาสแรกจำนวน 531 ล้านบาท จะบวกกลับมาได้บางส่วนหลังจากที่ขายสินค้าออกไปจริงๆ แต่เราคาดกำไรจะยังอ่อนแอประมาณ 250-300 ล้านบาท ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันซึ่งเผชิญกับต้นทุนน้ำมันดิบในระดับสูง ปี 2565 เราปรับประมาณการอัตรากำไรขั้นต้นลงเหลือ 7.8% จากเดิม 13.4% และ ปรับกำไรลดลง 47% ลงเหลือ 1,134 ล้านบาท ทรุดลง 49%