- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 27 April 2022 23:34
- Hits: 9222
บล.ไทยพาณิชย์ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 27-4-2022
กลยุทธ์การลงทุนประจำวัน
ล็อคเป้าลงทุน Wealth Strategy
SET ผันผวนกดดันจาก Fedเตรียมขึ้น ด.บ.0.5% ใน พ.ค.ดัชนีแกว่งลงต่อ กดดันจากจีนล็อกดาวน์กระทบ ศ.ก.ดัชนีปรับขึ้นต่อจากแรงซื้อกลับหุ้นธนาคารตลาดปรับลงกังวล Fed ขึ้นด.บ.-จีนล็อกดาวน์ปักกิ่งSET ปรับขึ้นแรง คาดหวังการเปิด ป.ท.หนุน ศ.ก. ฟื้นแนะนำหุ้นต่างประเทศ : กลุ่ม Luxury Goods ในยุโรป เรามองว่าหุ้นประเภทนี้ได้ประโยชน์จาก Reopening และมีอ านาจในการกาหนดราคาสูง และมีลักษณะเชิงรับโดยในกลุ่มนี้เราชอบ LVHM และ Kering
คาด SET ยังอยู่ในทางลง หรือมีdownside โดยได้รับปัจจัยลบจาก 1) เฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย และลดขนาดงบดุลและ 2) การ lockdown เพื่อสกัดโควิด-19 ของจีน ซึ่งปัจจัยลบทั้งสอง สร้างความกังวลผลกระทบต่อเศรษฐกิจแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1660 และ 1650 จุด ส่วนการฟื้นตัวถูกจำกัดที่แนวต้าน 1676 และ 1683 จุด กลยุทธ์SelectiveBuy ในหุ้นเชิงรับที่มีคุณภาพ มีปัจจัยบวกเฉพาะ เพื่อลดความผันผวนของพอร์ตลงทุน
# ตลาดหุ้นสหรัฐ-ยุโรปปรับลง ราคาน ามันฟื้น
ตลาดหุ้นสหรัฐปรับลง จากความกังวล ศ.ก. โลกชะลอตัวจากจีนล็อกดาวน์และสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อ นอกจากนี้หุ้นTech ขนาดใหญ่ Microsoft และ Alphabet ร่วงลงแรงจากงบ1Q65 ที่ออกมาต่ ากว่าคาด ด้านตลาดหุ้นยุโรปปรับลดลง ส่วนราคาน้ ามันฟื้นตัวหลังทางการจีนเตรียมออกมาตรการฟื้นฟู ศ.ก.
# พาณิชย์ระบุส่งออกไทย มี.ค. โต 19.5% สูงสุดรอบ 30 ปี
ส่วนการนำเข้า มี.ค. ขยายตัว 18% ส่งผลให้1Q65 การส่งออกขยายตัว 14.9% ขณะที่การน าเข้าขยายตัว 18.4% อย่างไรก็ตาม หากหักการส่งออกทองค าออกไป การส่งออกใน 1Q65 จะโตเพียง 8.9% ซึ่งทาง สรท. กังวลว่าการส่งออกสินค้าอุตฯ หลัก(ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า) ชะลอตัวลง ส่วน 2Q65 ยังคาดว่าจะโตต่อได้แต่อาจไม่ถึง 15%
# ราคาน้ำมันดีเซลทยอยปรับขึ น 2 บ./ลิตร เริ่ม 1 พ.ค.
หลัง ครม.เห็นชอบให้ ก.พลังงาน ปรับเงินอุดหนุนส่วนต่างเป็น50:50 ซึ่งจะท าให้ราคาขายน้ ามันดีเซลปรับขึ้นเป็น 32 บาท/ลิตร เริ่ม 1 พ.ค. ขณะที่มาตรการคนละครึ่งเฟส 4 ที่จะสิ้นสุด30 เม.ย. นั้น ยังไม่มีข้อสรุปว่าจะยังมีต่อไปในเฟส 5 หรือไม่
> ช่วงสั้นมองการฟื้นตัวของ SET ยังจ ากัดที่บริเวณ 1,700-1,718 จุด และมีโอกาสอ่อนตัวลงจากปัจจัยเสี่ยงภายนอกเป็นส าคัญ เช่น การด าเนินนโยบายการเงินที่ตึงตัวของเฟด, ความกังวลStagflation และสถานการณ์โควิดในจีน รวมทั้งราคาน้ ามันที่คาดยังทรงตัวสูงซึ่งท าให้ตลาดมี Downside Risk จากการปรับลดประมาณการแนวโน้มก าไรลงในระยะถัดไป กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำSelective Buy ในหุ้นเชิงรับที่มีคุณภาพ และ/หรือ มีปัจจัยบวกเฉพาะ ดังนี้
> Core Portfolio : คงน้ าหนักพอร์ตที่ 50% โดย Let Profit Run หุ้นที่ผลการด าเนินงานมีแนวโน้มเติบโตดี มีผลกระทบจ ากัดจากปัจจัยภายนอกอย่าง KBANK AMATA LH GULF ADVANC
> Weekly Portfolio : เก็งก าไร 25% ใน 1) หุ้นท่องเที่ยวที่ได้อานิสงส์บวกรัฐคลายมาตรการเข้าประเทศ (ยกเลิก Test&Go) ตั้งแต่ 1 พ.ค. เลือก AOT ERW AWC CENTEL CPALL BJC 2) หุ้น
เครื่องดื่มซึ่งมองตลาดปรับลดประมาณการสะท้อนปัจจัยลบไปแล้ว และ 2Q65 คาดก าไรดีขึ้น YoY และ QoQ เลือก CBG OSP และ 3) หุ้นที่คาดงบ 1Q65 เติบโตดี เลือก BH HMPRO PTT
> ช่วงสั้นแนะน าเพิ่มความระมัดระวังการลงทุนส าหรับหุ้นกลุ่มขนส่ง,วัสดุก่อสร้าง, บรรจุภัณฑ์ ที่ได้รับผลกระทบเชิงลบอย่างมีนัยฯ จากต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้นซึ่งมีโอกาสถูก Downgrade Earning
หลังประกาศงบ 1Q65
> Daily Focus : PTTEP คาด 1Q65 จะเป็นจุดต่ าสุดของก าไรปีนี จากมีบันทึกรายการพิเศษ ขณะที่ช่วงที่เหลือของปีนี จะได้ประโยชน์เต็มที่จากราคาน ามันที่ปรับขึ น โดยล่าสุดราคาน ามันดิบ
Brent +2.6%DoD และ WTI +3.2%DoD และ CPALL คาด 1Q65 ก าไรปกติพื นตัวดีขึ น YoY เป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี ขณะที่การคลายล็อกดาวน์และข้อจำกัดเข้าประเทศจะช่วยหนุนยอดขาย
สาขาเดิมและการไรฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่องตลอดทั้งปี
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ