- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 26 April 2022 17:43
- Hits: 7027
บล.ไทยพาณิชย์ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 26-4-2022
กลยุทธ์การลงทุนประจำวัน
ล็อคเป้าลงทุน Wealth Strategy
SET ผันผวนกดดันจาก Fedเตรียมขึ้น ด.บ.0.5% ใน พ.ค.ดัชนีฟื้นตัวจากแรงซื้อกลับหุ้นขนาดใหญ่ดัชนีปรับขึ้นต่อจากแรงซื้อกลับหุ้นธนาคารตลาดปรับลงกังวล Fed ขึ้นด.บ.-จีนล็อกดาวน์ปักกิ่งSET ปรับขึ้นแรง คาดหวังการเปิด ป.ท.หนุน ศ.ก. ฟื้นแนะนำหุ้นต่างประเทศ : กลุ่ม Luxury Goods ในยุโรป เรามองว่าหุ้นประเภทนี้ได้ประโยชน์จาก Reopening และมีอำนาจในการกาหนดราคาสูง และมีลักษณะเชิงรับโดยในกลุ่มนี้เราชอบ LVHM และ Kering1666/1655 – 1680/1690“การฟื้นตัวจ ากัด และภาพรวมยังมีdownside”คาด SET การฟื้นตัวจ ากัด โดยมีแนวต้านที่ 1680-1690จุด เนื่องจากดัชนียังเผชิญปัจจัยลบจาก 1) เฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย และลดขนาดงบดุล และ 2) การ lockdown เพื่อสกัดโควิด-19 ของจีน กระทบต่อเศรษฐกิจ และห่วงโซ่อุปทาน ด้านแนวรับอยู่ที่ 1666 จุด หากต่ำกว่า เป็นลบต่อและมีแนวรับถัดไปที่ 1655 จุด กลยุทธ์ Selective Buyในหุ้นเชิงรับที่มีคุณภาพ มีปัจจัยบวกเฉพาะ เพื่อลดความผันผวนของพอร์ตลงทุน
# ตลาดหุ้นสหรัฐปรับขึ้น ยุโรปปรับลง ราคาน้ำมันร่วง
ตลาดหุ้นสหรัฐปรับขึ้น จากแรงซื้อกลับหุ้น Tech ขนาดใหญ่หุ้น Twitter พุ่งแรงหลังมีข่าว Elon Musk บรรลุข้อตกลงซื้อ
กิจการ รวมทั้งการรายงานงบ 1Q65 ที่ดีกว่าคาดของ บจ. ด้านตลาดหุ้นยุโรปปรับลดลง ส่วนราคาน้ ามันร่วงต่อ จากความกังวลอุปสงค์ชะลอตัวจากการล็อกดาวน์ของจีน
# จีนล็อกดาวน์กรุงปักกิ่งบางส่วนอาจกระทบ ศ.ก.อย่างหนัก
เนื่องจากปักกิ่งมีประชากรกว่า 20 ล้านคน ซึ่งการล็อกดาวน์ส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทานให้เกิดการหยุดชะงัก รวมทั้งกระทบต่อ
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ด้วย ทั้งนี้มีการประเมินว่า GDP ของจีนปีนี้อาจเติบโตต่ำกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลประเมินไว้ที่ 5.5%
# ประชุม ครม. คาดพิจารณาภาษีน้ ามันดีเซล-คนละครึ่ง
โดยมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ ามันดีเซลจะหมดอายุในวันที่20 พ.ค.นี้ อาจไม่มีการขยายเวลามาตรการดังกล่าวออกไป ซึ่งจะทำให้ราคาขายปลีกน้ ามันดีเซลเป็น 32 บาท/ลิตร ขณะที่มาตรการคนละครึ่งเฟส 4 จะสิ้นสุด 30 เม.ย. นี้ จะยังไม่มีโครงการใดออกมาใช้ต่อทันทีในวันที่ 1 พ.ค. ซึ่งต้องติดตามว่าจะมีการปรับสูตรช่วยจ่ายเงินของรัฐหรือไม่
> ช่วงสั้นมองการฟื้นตัวของ SET ยังจ ากัดที่บริเวณ 1,700-1,718 จุด และมีโอกาสอ่อนตัวลงจากปัจจัยเสี่ยงภายนอกเป็นส าคัญ เช่น การด าเนินนโยบายการเงินที่ตึงตัวของเฟด, ความกังวล Stagflation และสถานการณ์โควิดในจีน รวมทั้งราคาน้ ามันที่คาดยังทรงตัวสูงซึ่งท าให้ตลาดมี Downside Risk จากการปรับลดประมาณการแนวโน้มก าไรลงในระยะถัดไป กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะน า Selective Buy ในหุ้นเชิงรับที่มีคุณภาพ และ/หรือ มีปัจจัยบวกเฉพาะ ดังนี้
> Core Portfolio : คงน้ าหนักพอร์ตที่ 50% โดย Let Profit Run หุ้นที่ผลการด าเนินงานมีแนวโน้มเติบโตดี มีผลกระทบจ ากัดจากปัจจัยภายนอกอย่าง KBANK AMATA LH GULF ADVANC
> Weekly Portfolio : เก็งก าไร 25% ใน 1) หุ้นท่องเที่ยวที่ได้อานิสงส์บวกรัฐคลายมาตรการเข้าประเทศ (ยกเลิก Test&Go) ตั้งแต่ 1 พ.ค. เลือก AOT ERW AWC CENTEL CPALL BJC 2) หุ้นเครื่องดื่มซึ่ง
มองตลาดปรับลดประมาณการสะท้อนปัจจัยลบไปแล้ว และ 2Q65 คาดก าไรดีขึ้น YoY และ QoQ เลือก CBG OSP และ 3) หุ้นที่คาดงบ 1Q65 เติบโตดี เลือก BH HMPRO PTT
> ช่วงสั้นแนะน าเพิ่มความระมัดระวังการลงทุน 1) หุ้นกลุ่มปาล์ม จากล่าสุดสัญญาน้ ามันปาล์มดิบที่ซื้อขายในตลาดมาเลเซียปรับลง 2.1% หลังอินโดนีเซียชี้แจงระงับส่งออกแค่น้ ามันปาล์มโอเลอินแต่ยังส่งออก
น้ ามันปาล์มดิบต่อไป และมาเลเซียเตรียมเพิ่มก าลังผลิตน้ ามันปาล์มหลังเปิดประเทศ และ 2) หุ้นกลุ่มขนส่ง,วัสดุก่อสร้าง, บรรจุภัณฑ์ ที่ได้รับผลกระทบเชิงลบอย่างมีนัยฯ จากต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้นซึ่งมีโอกาสถูก
Downgrade Earnings หลังประกาศงบ 1Q65
> Daily Focus : OSP มองราคาหุ้นปรับตัวลงสะท้อนก าไร 1Q65 ไม่สดใสแล้ว ขณะที่ 2Q65 คาดฟื้นตัวแรง YoY และ QoQ ช่วยหนุนให้ปี 65 คาดก าไรฟื้นตัวดีขึ้น 14.8%YoY และ DELTA ช่วงสั้นมี ภาพการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และได้อานิสงส์บาทอ่อนค่า ขณะที่ปี 65 คาดก าไรพลิกโตเด่น YoY เนื่องจากอยู่ในห่วงโซ่อุปทานในธุรกิจ New
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ