- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 26 November 2014 16:49
- Hits: 1728
บล.เคเคเทรด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
SET จะขึ้นทดสอบ 1600 จุด
SET View
แนวโน้มSETจะแกว่งตัวขึ้นทดสอบ 1600 จุดแต่คาดยังไม่ผ่าน โดยมองกรอบเคลื่อนไหว1585-1600จุด(1) นักลงทุนสถาบันกลับมาขายสุทธิเล็กน้อยราว 570 ล้านบาท กดดันจิตวิทยาการลงทุน(2) กลุ่มพลังงานบางตัวจะถูกขายทำกำไรจากนักลงทุนบางส่วนเพื่อรอผลการประชุม OPECวันที่ 27 พ.ย.และ (3) กลุ่มธนาคาร ยอดสินเชื่อรวมทั้งกลุ่มเดือนต.ค.เติบโตเพียง 0.2%MoM ส่งผลให้ยอดรวมทั้งปีโตเพียง 1% มีโอกาสถูกปรับลดประมาณการสินเชื่อและผลประกอบการลง (4) ทางเทคนิค เตรียมขึ้นทดสอบ 1600 จุด หากผ่านไปได้ จะมีแนวต้านถัดไปบริเวณ 1650 จุด(Previous High)
กลยุทธ์การลงทุน ระยะ 1-2 วัน หาจังหวะลงทุนระยะสั้น หรือซื้อเมื่ออ่อนตัว เพื่อไปรอขายช่วงที่ SET รีบาวน์ไปแถว 1600 จุดหรือเริ่มขายหุ้นบางส่วนที่ขึ้นมาแรง
1)Top Daily Pick :BCP(ได้ประโยชน์จากค่าการกลั่นที่ฟื้นตัวในช่วง 4Q57 และโดดเด่นที่สุดในกลุ่มโรงกลั่นเนื่องจากไม่มีธุรกิจปิโตรเคมีมาฉุดผลประกอบการ มีโอกาสปรับเพิ่มมูลค่าเหมาะสมจากการขยายกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์)NBC(laggard play ในกลุ่มที่มีช่องทีวีดิจิทัลเป็นของตัวเอง คาดจะได้ประโยชน์จากโอกาสปรับขึ้นค่าโฆษณาในปีหน้าเช่นเดียวกัน)
2)Technical Pick:BBL PTTEP WORK BWG TRUE
3)Theme Play : กลุ่มรับเหมาฯ (CK ITD SEAFCO STEC) ได้ประโยชน์จากงานประมูลโครงการโครงสร้างฟื้นฐานที่จะมีความคืบหน้าในช่วงที่เหลือของปีนี้ หุ้นกลุ่มนำตลาดที่คาดผลประกอบการ 4Q57 เติบโตต่อเนื่องหรือมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ทั้งกลุ่มสื่อสาร (ADVANC INTUCH JAS THCOM SIM SAMART) พัฒนาที่อยู่อาศัย (LH SPALI AP PS)
SET View
แนวโน้มSETจะแกว่งตัวขึ้นทดสอบ 1600 จุดแต่คาดยังไม่ผ่าน โดยมองกรอบเคลื่อนไหว1585-1600จุด(1) นักลงทุนสถาบันกลับมาขายสุทธิเล็กน้อยราว 570 ล้านบาท กดดันจิตวิทยาการลงทุน(2) กลุ่มพลังงานบางตัวจะถูกขายทำกำไรจากนักลงทุนบางส่วนเพื่อรอผลการประชุม OPECวันที่ 27 พ.ย.และ (3) กลุ่มธนาคาร ยอดสินเชื่อรวมทั้งกลุ่มเดือนต.ค.เติบโตเพียง 0.2%MoM ส่งผลให้ยอดรวมทั้งปีโตเพียง 1% มีโอกาสถูกปรับลดประมาณการสินเชื่อและผลประกอบการลง (4) ทางเทคนิค เตรียมขึ้นทดสอบ 1600 จุด หากผ่านไปได้ จะมีแนวต้านถัดไปบริเวณ 1650 จุด(Previous High)
ระยะ 1-2 สัปดาห์
Trading BCP BEAUTY INTUCHLH NBC SNC SST
Delete: MAJOR PTTGC Add: BCP NBC
ระยะ 3- 6 เดือนขึ้นไป
Growth EFORL HOTPOT JAS TOP WORK
Dividend BBL EGCO MC PTTEP PTTGC SNC SRICHA
Quant BEAUTY EGCO HOTPOT MSC SNC TOG TUF
รายงานวันนี้
Update :กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ (น้ำหนักการลงทุน เท่าตลาด) ที่อยู่อาศัยจดทะเบียนงวด 9M57 ปรับลด 5% เลือก LH และ SPALI เป็น Top Pick
Fundamental Talk
กลุ่ม AUTO ยังสะสมลงทุนระยะยาวได้
•จากการติดตามข้อมูลธุรกิจกลุ่มรถยนต์ เราคงมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปหากพิจารณาข้อมูลล่าสุดในเดือน ต.ค. พบว่ายอดผลิตรถยนต์ต่ำกว่ากว่ายอดขายรถยนต์ทั้งในและนอกประเทศติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8 แล้ว ซึ่งในอดีตยอดผลิตเคยน้อยกว่ายอดขายสูงสุดคือ 8 เดือนเกิดขึ้นในช่วงวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ในปี2551เราจึงคาดว่าหลังจากนี้ผู้ผลิตจะต้องเริ่มกลับมาเพิ่มระดับสินค้างคงคลังรถยนต์และจะเป็นปัจจัยบวกต่อยอดขายของผู้ผลิตชิ้นส่วนฯ โดยมีปัจจัยหนุนคือ (1)งาน Motor expo ปลายเดือน พ.ย. โดยในปี 2556 แม้มีนโยบายรถคันแรกแต่ผลจากงานยังสามารถทำให้ยอดขายรถโตได้ 5% MoMและ (2)ปี 2558 จะมี Model รถใหม่เปิดตัว 11 รุ่นโดยมีรถ ไฮลักซ์วีโก้ มาสด้า 2 และ โตโยต้าคัมรี่ ที่เป็นรุ่นยอดนิยมรวมอยู่ด้วย โดยทั้งสามรุ่นคิดเป็นสัดส่วนสูงราว 39% และ 53% ของยอดขายรถทั้งในและนอกประเทศตามลำดับ
ยอดผลิตรถยนต์ในประเทศผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 2Q57
•ในเชิงกลยุทธ์การลงทุน หากนักลงทุนมีเงินสดเหลือจากการที่ได้แบ่งขายทำกำไรหุ้นจากตลาดที่ปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมาและกำลังมองหาหุ้นที่ยังถูกหรือ Laggard อยู่ สามารถซื้อถือลงทุนระยะ 6-12 เดือนได้ ผลประกอบการกลุ่มนี้จะค่อยๆฟื้นตัวตามอุตสาหกรรมรถยนต์ ขณะที่ราคาหุ้นซื้อขายค่อนข้างถูกในเชิง P/E ทำให้มีDownside และความเสี่ยงต่ำหุ้นที่แนะนำ ได้แก่ AH และ SAT
•AH (ซื้อ / มูลค่าเหมาะสม 17.4 บาท) น่าสนใจที่สุดในกลุ่มเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนรถกระบะที่เราคาดว่าจะฟื้นตัวโดดเด่นจากการฟื้นตัวตามภาคการก่อสร้างและเกษตรในประเทศที่ภาครัฐคอยกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งมี Valuation ที่น่าดึงดูดเพราะเป็นเพียงตัวเดียวใน Coverage เราที่ราคายังต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี(0.8xP/BV’58)
•SAT (ซื้อ / มูลค่าเหมาะสม 20.1 บาท)เป็นอีกตัวที่มีรายได้หลักจากชิ้นส่วนรถกระบะ ในระยะสั้นปัจจัยลบจากต้นทุนการเปิดโรงงานบริษัทย่อยเพิ่มขึ้น(SFT รองรับออเดอร์ได้ 500 ล้านบาท) แต่จะเป็นปัจจัยเสริมกำลังการผลิตระยะยาวและต้นทุนจะค่อยๆลดลงจากการประหยัดต่อขนาด มีจุดเด่นคือซื้อขายที่ PE ต่ำสุดใน Coverage(8.6xP/E’58) เท่า ต่ำกว่าของกลุ่มที่ 14.3 เท่า
Smart Port Note
JAS จะเสนอขายกองทุน JASIF จำนวน 5.5 พันล้านหน่วย โดยกำหนดช่วงราคาหน่วยลงทุนที่ 10.00-10.50 บาทต่อหน่วย โดยมี บลจ.บัวหลวงเป็นบริษัทจัดการกองทุน
SST จะซื้อ-ขายในบัญชี Cash balance จนถึงวันศุกร์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้าย ประกอบกับ 3Q57 พลิกกลับมามีกำไร 413 ล้านบาท โดย ณ.ราคาปัจจุบันซื้อ-ขายที่ P/E 4 ไตรมาสย้อนหลัง (trailing PE) เพียง 22 เท่าส่งผลให้ SST ลดโอกาสในการกลับไปติดเกณฑ์ cash balance อีกครั้งในสัปดาห์หน้าสูง
Beta ของพอร์ตลงทุนแสดงถึงความเสี่ยงของหุ้นในพอร์ตเทียบกับ ตลาด SET หากค่า Beta สูงกว่าหนึ่งเท่า แสดงถึงความเสี่ยงของ พอร์ตลงทุนที่สูงกว่า SET
Growth Port มีค่า Beta เท่ากับ 1.08
Trading Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.93
Dividend Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.78
Quant Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.48