- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 19 April 2022 20:36
- Hits: 6512
บล.ไทยพาณิชย์ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 19-4-2022
กลยุทธ์การลงทุนประจำวัน
SET แกว่งลงจากแรงขายลดเสี่ยงก่อนหยุดยาวดัชนีปรับลงแรง กดดันจากFed อาจขึ้นดอกเบี้ยแรงดัชนีฟื้นตัวจากแรงซื้อกลับตลาดปรับลงกังวลเงินเฟ้อพุ่งแรงSET ปรับลดลงกังวลจีนโควิดระบาดหนัก แนะนำหุ้นต่างประเทศ : กลุ่มพลังงานในส่วนของ Exploration & Production ที่มีความน่าสนใจ มีแนวโน้มฟื้นตัว ทั้งจากผลประกอบการที่ดีต่อเนื่อง และสถานการณ์รัสเซียและยูเครนที่ยืดเยื้อ เราชอบ BP, XOM, SLB, PTTEP และ ETF อย่าง XOP และ IEO
คาด SET มีโอกาสรีบาวด์ทางเทคนิคได้บ้าง โดยเฉพาะการฟื้นตัวจากบริเวณแนวรับ 1655-1665 จุด อย่างไรก็ตาม กรอบบนยังถูกจ ากัด โดยมีแนวต้านที่ 1676 และ1682 จุด ตามล าดับ จากปัจจัยลบภาวะเงินเฟ้อในระดับสูงทำให้เฟดต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ย และปรับลดงบดุล ส่วนในประเทศติดตามตัวเลขผู้ติดเชื้อที่อาจพุ่งขึ้นหลังสงกรานต์ กลยุทธ์ Selective Buy ในหุ้นเชิงรับที่มีคุณภาพ มีปัจจัยบวกเฉพาะ เพื่อลดความผันผวนของพอร์ตลงทุน
# ตลาดหุ้นสหรัฐปรับลดลง ราคาน้ ามันปรับขึ้น
ตลาดหุ้นสหรัฐปรับลดลง หลังสะท้อนปัจจัยหนุนการรายงานงบบจ. 1Q65 ของ BoA ที่ดีกว่าคาด 80% แต่มีแรงกดดันจากBond Yield 10 ปี สูงสุดในรอบ 3 ปี ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดทำการเนื่องในวัน Easter Monday ส่วนราคาน้ ามันปรับขึ้น กังวลอุปทานตึงตัวจากรัสเซียและลิเบีย
# ธปท. ปรับลด GDP ปีนี้-ปีหน้าลงเหลือ 3.2% และ 4.4%
จากเดิม 3.4% และ 4.7% ตามล าดับ ผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน และการแพร่ระบาดโควิดสายพันธุ์โอมิครอน
ส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์และการบริโภคในประเทศขณะที่เงินเฟ้อปีนี้ขยับขึ้นสู่ 4.9% จาก 1.6% และปีหน้าปรับเป็น 1.7% จาก 1.4%
# TISCO ก าไร 1Q65 ตามคาด ทรงตัว QoQ, +2%YoY
โดย NPL ลดลง credit cost ลดลง และ LLR coverageสูงขึ้น ส่งผลให้เราปรับประมาณการก าไรปีนี้ขึ้น 5% จากการ
ปรับประมาณการ credit cost ลดลง และราคาเป้าหมายสู่102 บาท จาก 98 บาท นอกจากนี้ยังมี div. yield สูงถึง 7.2%
สำหรับปีนี้ และ 7.8% สำหรับปีหน้า
> ช่วงสั้นมองตลาดมี Upside จ ากัดบริเวณ 1700 จุด และมีแนวโน้มอ่อนตัวลงจากความเสี่ยงภายนอก อาทิ การเร่งขึ้นดอกเบี้ยของเฟดเพื่อสกัดเงินเฟ้อ, การล็อกดาวน์เมืองใหญ่ของจีน เพื่อคุมการระบาดของ COVID-19 รวมทั้งความเสี่ยงจ านวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ของไทยเองที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหลังผ่านเทศกาลสงกรานต์ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะน า “รอจังหวะซื้อเมื่อ ราคาอ่อนตัว ไม่ไล่ราคา” ในหุ้นเชิงรับที่มีคุณภาพ และ/หรือ มีปัจจัยบวกเฉพาะ เพื่อลดความผันผวนของพอร์ตลงทุน ดังนี้
> Core Portfolio : คงน้ าหนักพอร์ตไว้ที่ 50% โดย Let Profit Run ส าหรับหุ้นที่ผลการด าเนินงานมีแนวโน้มเติบโตดี มีผลกระทบจ ากัดจากปัจจัยภายนอกอย่าง KBANK AMATA LH GULF ADVANC ONEE
> Weekly Portfolio : เก็งก าไร 25% ใน 1) หุ้นที่ได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อจ ากัด เลือก ADVANC BDMS GULF 2) หุ้นที่ได้อานิสงส์บวกการบริโภคภาคเอกชนไทยฟื้นตัว เลือก CPALL BJC AH LH ZEN และ 3) หุ้น Low Beta และให้ Div. Yield สูงเกินปีละ 7% เลือก TISCO (XD 29 เม.ย. นี้)
> ช่วงสั้นแนะน าเพิ่มความระมัดระวังลงทุนหรือรอซื้อเมื่ออ่อนตัวในหุ้นเปิดเมือง (AOT MINT AWC CENTEL ERW) ซึ่งแม้จะได้อานิสงส์บวกจากแผนเปิดประเทศในครึ่งปีหลัง แต่ช่วงสั้น มีความกังวลเกี่ยวกับจ านวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ที่จะสูงขึ้นหลังสงกรานต์
> Daily Focus : GULF ซึ่งก าไรยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น โดยปี 65 คาดก าไรเติบโต 44%YoY จากรับรู้ก าลังผลิตใหม่ที่เพิ่มขึ้นและส่วนแบ่งก าไรจาก INTUCH อีกทั้งล่าสุดมี Sentimentบวกจากแผนร่วมทุน Binance.US เพื่อเข้าสู่ธุรกิจซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล และ PTTEP ซึ่งได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันโลกที่ตึงตัวโดยล่าสุดราคาน้ำมันดิบ Brent +1.3%DoD และ WTI +1.2%DoD
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ