- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 19 April 2022 20:25
- Hits: 6551
บล. เมย์แบงก์ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 19-4-2022
AT THE OPEN (#ATO)
S T R A T E G Y R E P O R T / 19 เมษายน 2565
Sideways : เงินเฟ้อ และผลประกอบการ
วันนี้คาด SET แกว่ง Sideways ในกรอบแนวรับ 1,660 จุด และแนวต้าน 1,680 จุด เน้นหุ้นแนวโน้มกำไรขยายตัว โดย ATO Picks วันนี้ แนะนำ “SNNP, HMPRO”
SNNP
คาดกำไร 1Q65 เติบโตดี จากทั้งยอดขายในประเทศและต่างประเทศที่ขยายตัวได้ดี ตามการบริโภคในอาเซียนที่ดีขึ้น ในขณะที่ควบคุมต้นทุนได้ดี มีการปรับราคาขาย และออกผลิตใหม่ที่มาร์จิ้นดีขึ้น รวมทั้งจะมี Upside เพิ่มจากการเตรียมเปิดโรงงานเวียดนาม, อินโดนีเซีย
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 18.8 บาท
HMPRO
คาดกำไรสุทธิ 1Q65 เติบโตได้ YoY จากยอดขายที่เพิ่มขึ้น (คาด SSSG 1Q65 เติบโต 3%YoY) และอัตรากำไรขั้นต้นคาดเพิ่มเล็กน้อยราว 10 bpsจากการเน้นขายสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง และยอดขายฟื้นตัวขึ้นทำให้ต้นทุนต่อหน่วยลดลง ผสานสาขาในมาเลเซียกลับมาฟื้นตัว รวมถึงปีนี้ HomePro และ Mega Home จะกลับมาเดินหน้าขยายสาขา
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 16.9 บาท
INVESTMENT THEME
ยังคงกังวลเงินเฟ้อ : ระยะสั้นราคาพลังงานดีดกลับขึ้นมาอีกครั้งจากอุปทานน้ำมันลิเบียที่กดดัน ถือเป็นปัจจัยที่เพิ่มความกังวลต่อแนวโน้มเงินเฟ้อให้ยังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนออกมาสู่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 10 ปีวานนี้ที่ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2.85% สูงสุดในรอบ 3 ปีครึ่ง รวมทั้ง Dollar Index ที่ยืนเหนือระดับ 100 จุด ยังเป็นแรงกดดันระยะสั้นต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งคาดจะส่งผลให้มุมมองของคณะกรรมการเฟดสาขาต่างๆ จะมีแนวโน้มดำเนินนโยบายที่ตึงตัวมากขึ้น โดยวานนี้นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซ็นหลุยส์ บ่งชี้ว่าการประชุมรอบนี้หากจะแก้ปัญหาเงินเฟ้ออย่างจริงจังก็ควรขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ซึ่งถือว่ามากกว่าที่ตลาดคาด โดยคงต้องจับตาท่าทีของประธานเฟดอีกหลายท่านที่จะออกมาแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมในสัปดาห์นี้
ติดตามผลประกอบการกลุ่มธนาคาร : เข้าสู่ช่วงการรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในช่วง 1Q65 โดยสัปดาห์นี้จะมีการรายงานงบกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ซึ่งวานนี้งบ TISCO ออกมาเป็นธนาคารแรก โดยกำไรอยู่ที่ 1.8 พันล้านบาท ทรงตัวทั้ง QoQ และ YoY สอดคล้องกับเราคาด ในขณะที่ด้านคุณภาพสินทรัพย์ถือว่าทำได้ดีกว่าคาด โดยอัตราส่วน NPL ลดลงจาก 2.44% ลงสู่ 2.15% ส่วนแนวโน้มกำไรของธนาคารอื่นๆ ในไตรมาสนี้คาดอยู่ในเกณฑ์ดีจากทิศทางในการตั้งสำรองที่คาดจะลดน้อยลง
MARKET SUMMARY
วานนี้ SET แกว่ง Sideways มีแรงขายในหุ้น SCB หลังหมดสิทธิ์การแปลงเป็น SCBX โดย SET ปิดที่ 1,668.06 (-6.28 จุด) มูลค่าการซื้อขาย 6.4 หมื่นล้านบาท (เทียบกับวันก่อนหน้า 6.0 หมื่นล้านบาท)
โดยนักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทย 164 ลบ. (นักลงทุนสถาบันขาย 518 ลบ. ส่วนตลาด TFEX นักลงทุนต่างชาติ Short Index Future 11,278 สัญญา)
EYES ON
19 เม.ย. ยอดการสร้างบ้าน US, ใบอนุญาตการก่อสร้าง US
20 เม.ย. ยอดขายบ้านมือสอง US, ดุลการค้า ยูโรโซน
TISCO Financial Group (TISCO TB)
แนวโน้มกำไรชัดเจน
BUY
Share Price THB 100.00
12 m Price Target THB 110.00 (+10%)
Previous Price Target THB 110.00
ROE และผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงสุด แนะนำ ซื้อ
TISCO โชว์แนวโน้มกำไรเติบโตดี เนื่องจากอัตราส่วน NPL ต่ำและ NPL coverage สูง โดยจะนำความเชี่ยวชาญด้านสินเชื่อรถยนต์และการบริหารความมั่งคั่งมาพัฒนาธุรกิจให้เติบโต เราคาดว่าจะคงอัตราการจ่ายเงินปันผลในระดับสูงไว้เพื่อเพิ่ม ROE แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 110 บาท (P/BV ปี 65 ที่ 2.1 เท่า ROE 17.2%) หุ้น TISCO ให้ผลตอบแทน ROE และเงินปันผลสูงสุดในกลุ่ม (XD วันที่ 29 เม.ย. ที่ 7.15/หุ้น) ความเสี่ยงที่สำคัญคือต้นทุนสินเชื่อที่สูงกว่าคาดจากอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นจากราคาอาหารและพลังงาน
ไตรมาส 1/65 กำไรตามคาด คุณภาพสินทรัพย์เยี่ยม
กำไรสุทธิ 1Q65 อยู่ที่ 1.8 พัน ลบ. ทรงตัว YoY และ QoQ สอดคล้องกับประมาณการของเรา ในแง่บวก คุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้นและอัตราส่วน NPL ลดลง 29bps QoQ เป็น 2.15% ขณะที่สินเชื่อ Stage-2 ลดลง 9% QoQ เป็น 2.1 หมื่น ลบ. TISCO ตั้งสำรอง 85 ลบ. คิดเป็นต้นทุนสินเชื่อ 0.2% ใน 1Q65 เทียบกับ 0.8% ในไตรมาส 4/64 ในแง่ลบ รายรับค่าธรรมเนียมลดลง 17% YoY และ 26% QoQ มาอยู่ที่ 1.3 พัน ลบ. เนื่องจากผลกระทบจากฐานที่สูงของค่าธรรมเนียมตลาดทุน สินเชื่อลดลง 8% YoY (ทรงตัว QoQ) นำโดยสินเชื่อเช่าซื้อ HP (-10% YoY) สินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์กลับมาเติบโตเป็นบวก 1.5% QoQ ในไตรมาส 1/65 เทียบกับระดับก่อนเกิดโควิดที่ 3.0% ต่อไตรมาส
คาดความต้องการสินเชื่อฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง 65
CFO คงเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อไว้ที่ 3-5% ในปี 65 (ประมาณการของเราที่ +2%) นำโดยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ที่ให้ผลตอบแทนสูงและสินเชื่อธุรกิจ โดยธนาคารปล่อยสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนสูงหลังเศรษฐกิจกลับมาเปิดใหม่ตั้งแต่ปลายไตรมาส 3/65 ได้สบายๆ จากแนวโน้ม Yield Curve ที่เพิ่มขึ้น เราเห็นบริษัทบางแห่งเปลี่ยนเงินทุนจากหุ้นกู้เป็นเงินกู้ธนาคาร สำหรับสินเชื่อเช่าซื้อ ยอดปล่อยใหม่เพิ่มขึ้น 17% YoY และ 8% QoQ แต่สินเชื่อหดตัวเนื่องจากการชำระคืนยังคงสูงกว่าการปล่อยใหม่ในไตรมาส 1/65 ทั้งนี้ ธนาคารคาดว่าสินเชื่อเช่าซื้อจะกลับมาเติบโตเป็นบวกในครึ่งปีหลัง 65
คุณภาพสินทรัพย์ดีทำให้ต้นทุนเครดิตต่ำ
เราเชื่อว่าคุณภาพสินทรัพย์ของทิสโก้ดีกว่าคู่แข่ง เนื่องจากธนาคารให้ความสำคัญกับความสามารถในการทำกำไรและการลดขนาดพอร์ตสินเชื่อในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยยอดคงค้างของเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ gross NPLs ลดลง 28% ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา และอัตราส่วน NPL ลดลงเป็น 2.15% ในไตรมาส 1/65 จาก 2.98% ในไตรมาส 3/64 ยิ่งกว่านั้น เราเห็นว่าเงินสำรองหนี้สูญในปัจจุบันมีมากเกินเพียงพอแล้วเนื่องจาก NPL coverage สูงถึง 262% ธนาคารตั้งเป้าต้นทุนเครดิต 50 bps เทียบกับที่เราคาดการณ์ไว้ที่ 60bp ในปี 2565
Jesada Techahusdin, CFA
(66) 2658 6300 ext 1395
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ