- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 12 April 2022 16:01
- Hits: 7322
บล. เมย์แบงก์ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 12-4-2022
AT THE OPEN (#ATO)
S T R A T E G Y R E P O R T / 12 เมษายน 2565
ย่อตัว :
จับตาตัวเลขเงินเฟ้อ
วันนี้คาด SET ย่อตัว ในกรอบแนวรับ 1,670 จุด และแนวต้าน 1,690 จุด เน้นหุ้นแนวโน้มกำไรดี ต้านทานเงินเฟ้อได้ โดย ATO Picks วันนี้ แนะนำ “AOT, CPALL”
AOT
คาดนักท่องเที่ยวต่างชาติฟื้นตัวจาก 4 แสนคนปีที่แล้วเป็น 9 ล้านคนในปีนี้ จะส่งผลให้ปีนี้ AOT คาดขาดทุนเพียง 3,582 ล้านบาท น้อยลงจากขาดทุน 15,319 ล้านบาทในปีที่แล้ว และแนวโน้มกำไรจะกลับไปฟื้นตัวเต็มที่ในปี 2567 ที่ระดับ 2.75 หมื่นล้านบาท ใกล้เคียงปี 2562
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 73 บาท
CPALL
คาดกำไร 1Q65 จะกลับมาเติบโต YoY ครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด โดยคาด SSSG ร้านเซเว่นฯ +10% จากการอุปโภคบริโภคฟื้นตัวและการปรับราคาสินค้า ขณะที่ MAKRO และโลตัสจะได้ผลบวกจากการฟื้นตัวของการอุปโภคบริโภคเช่นกัน ผสานการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคจะฟื้นตัวดียิ่งขึ้นจากการเดินทางท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 79 บาท
INVESTMENT THEME
คาดเงินเฟ้อสหรัฐฯ +8.4%YoY : คืนนี้ติดตามการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปสหรัฐฯ ประจำเดือนมีนาคม โดยตลาดคาดยังคงปรับตัวขึ้น +8.4%YoY จากเดือนกุมภาพันธ์ที่ +7.9%YoY เช่นเดียวกับ เงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) ที่คาด +6.6%YoY จาก +6.4%YoY ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่คาดจะส่งผลให้ FED จำเป็นต้องใช้มาตรการที่ตึงตัวมากขึ้นในการแก้ปัญหาเงินเฟ้อสูง โดยคาดการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯในวันที่ 3-4 พ.ค.นี้ FED จะมีมติปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มขึ้น 0.5% นอกจากนี้ยังคงต้องติดตามรายละเอียดเกี่ยวกับการปรับลดงบดุลของ FED ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่อาจเพิ่มความกังวลระยะสั้นต่อการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง ผสานกับการเข้าสู่ช่วงหยุดยาวของเทศกาลสงกรานต์อาจเห็นสัญญาณการลดความเสี่ยงก่อนหยุดยาวได้เช่นกัน ดังนั้นอาจต้องใช้ความระมัดระวังในการลงทุนเพิ่มมากขึ้น
ราคาน้ำมันดิบลดลงแรง : วานนี้ราคาน้ำมันดิบโลกย่อตัวแรง (Brent –4% สู่ระดับ 98 เหรียญต่อบาร์เรล รับแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลกที่อาจมี Downside ทั้งจากมาตรการคว่ำบาตรต่างๆที่เกิดขึ้น, การปล่อยน้ำมันจากคลังยุทธศาสตร์ รวมทั้งการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจีน ซึ่งส่งผลให้ต้องล็อกดาวน์เมืองสำคัญ สร้างแรงกดดันต่อราคาน้ำมันดิบโลก ดังนั้นเราเชื่อว่ากลุ่ม Domestic Play ยังคงน่าสนใจกว่ากลุ่ม Global Play
MARKET SUMMARY
วานนี้ SET ย่อตัวเล็กน้อย ปริมาณการซื้อขายชะลอลง ก่อนเข้าช่วงหยุดยาว โดย SET ปิดที่ 1,678.46 (-7.54 จุด) มูลค่าการซื้อขาย 6.2 หมื่นล้านบาท (เทียบกับวันก่อนหน้า 7.0 หมื่นล้านบาท)
โดยนักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทย 396 ลบ. (นักลงทุนสถาบันขาย 374 ลบ. ส่วนตลาด TFEX นักลงทุนต่างชาติ Short Index Future 233 สัญญา)
EYES ON
12 เม.ย. US CPI
13 เม.ย. US PPI
14 เม.ย. การประชุม ECB, ยอดค้าปลีก US, ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ US, ดัชนีความเชื่อมั่น จาก ม.มิชิแกน
CP All (CPALL)
กำไรจะกลับมาเติบโต
BUY
Share Price THB 67.00
12 m Price Target THB 79.00 (+18%)
Previous Price Target THB 79.00
การอุปโภคบริโภคฟื้นตัวจะผลักดันยอดขาย
เราคาดว่ากำไร 1Q65 จะเพิ่มขึ้น 24% YoY ซึ่งเป็นการกลับมาเติบโตได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด โดยคาดว่า SSSG ของร้านเซเว่นฯ จะเพิ่มเป็น 10% จากการอุปโภคบริโภคฟื้นตัวและการปรับเพิ่มราคาสินค้า ขณะที่ MAKRO (เป้าหมาย 54 บาท) จะได้ผลบวกจากการฟื้นตัวของการอุปโภคบริโภคด้วยเช่นกัน เราคาดว่าการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคจะฟื้นตัวดียิ่งขึ้นจากการเดินทางท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แนะนำ ซื้อ CPALL ราคาเป้าหมาย 79 บาท (DCF, WACC 7.3%, G.4%)
SSSG ฟื้นตัวและรับรู้ยอดขายจากโลตัสเพิ่มขึ้น
การอุปโภคบริโภคฟื้นตัว การ Work from home น้อยลง และการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้นจะส่งผลให้จำนวนลูกค้าเข้าร้านเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังมีการปรับเพิ่มราคาอาหารพร้อมรับประทาน (อิ่มคุ้ม) และเบเกอรี่ เพื่อสะท้อนต้นทุนอาหารที่ปรับตัวสูงขึ้น เราคาดว่า SSSG ของร้านเซเว่นฯ ใน 1Q65 ฟื้นตัวเป็น +10% จาก -17.1% ใน 1Q64 และ +1.3% ใน 4Q64 เรายังคาดว่ามีการเปิดสาขาใหม่ 150 สาขา (+5.5% YoY) ทำให้มีสาขารวม 13,284 สาขา ประกอบกับมีการรวมงบการเงินของโลตัส (ผ่านทาง MAKRO) เต็มไตรมาสคาดว่าทำให้ยอดขายของ CPALL เพิ่มขึ้น 43% YoY เป็น 183,795 ล้านบาท
คาดกำไร 1Q65 เพิ่มขึ้นทั้ง QoQ, YoY
แม้ยอดขายเพิ่มขึ้นมาก แต่เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นทรงตัว YoY อยู่ที่ 21.3% เนื่องจากสัดส่วนยอดขายของ MAKRO (ซึ่งมีอัตรากำไรต่ำกว่าเซเว่นฯ) เพิ่มขึ้น อีกทั้งกลุ่มสินค้าขายดีของร้านเซเว่นฯ เป็นกลุ่มที่มีอัตรากำไรต่ำ เช่น สินค้าแพคใหญ่ และอาหารพร้อมรับประทาน (อิ่มคุ้ม) แม้ดอกเบี้ยจ่ายคาดว่าเพิ่มขึ้นจากการรวมงบการเงินของโลตัส แต่เราประเมินกำไรปกติของ CPALL เพิ่มขึ้น 24% YoY และ 33% QoQ เป็น 3,138 ล้านบาท
การท่องเที่ยวฟื้นตัวจะช่วยเพิ่มลูกค้าเข้าร้าน
จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติใน 1Q65 เพิ่มขึ้น 2,201% YoY เป็น 444,039 คน อีกทั้งโควิด-19 จะถูกประกาศให้เป็นโรคประจำถิ่นตั้งแต่ 1 ก.ค. 2565 คาดว่าจะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากยิ่งขึ้นทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติและการท่องเที่ยวในประเทศของคนไทย เราคาดว่าจะเป็นผลบวกต่อ CPALL จากการที่ร้านเซเว่นฯ ในแหล่งท่องเที่ยวทำยอดขาย 7-8% ของยอดขายรวมของร้านเซเว่นฯ ก่อนเกิดการระบาดของโควิด อีกทั้งคาดว่า MAKRO ซึ่งมีทั้งธุรกิจค้าส่งและค้าปลีกจะได้ผลบวกเช่นกันจากการฟื้นตัวของการอุปโภคบริโภค และธุรกิจ Food service
Suttatip Peerasub
(66) 2658 6300 ext 1430
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ