- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 25 November 2014 16:15
- Hits: 1979
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
'จะทดสอบ 1,600 จุดหรือไม่'
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : วันจันทร์ดัชนีฯปรับตัวดีต่อเนื่องอีก +10.94 จุด หรือ 0.69% ปิดที่ระดับ 1,590.14 จุด ปริมาณการซื้อขายไม่สูงนักเป็น 49.4 พันล้านบาท ดัชนีฯปรับขึ้นสอดคล้องกับตลาดหุ้นภูมิภาคแถบนี้ ปัจจัยต่างประเทศที่เป็นบวกคือ จีนประกาศลดดอกเบี้ย อีกทั้งข่าวกระทรวงการคลังอาจมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจก่อนสิ้นปี ด้านผู้ซื้อสุทธิคือ สถาบัน พอร์ตโบรกเกอร์ และต่างประเทศ ส่วนขายสุทธิมีเพียงรายเดียวคือรายย่อย สำหรับวันนี้ปัจจัยต่างประเทศที่เป็นบวกคือ เยอรมันมีความเชื่อมั่นธุรกิจดีขึ้น แต่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐภาคการผลิตไม่สดใส สิ่งที่น่าติดตามคือ วันนี้จะขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 1,600 จุด ซึ่งเป็นยอดสูงสุดเดิมเมื่อปลาย ก.ย.57 หรือไม่ คาดว่าข่าวการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนและยุโรปและก.คลังจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ จะเป็นบวกกับดัชนีฯในระยะนี้ ส่วนเรื่องบวกเดิมๆคือ ตลาดยังมีความหวังกับแรงซื้อของกองทุน LTF ในช่วง1-2 เดือนสุดท้ายของปี และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ & กำไรบจ.ในปี 58 นอกจากนั้น Valuation ของตลาดหุ้นไทยยังต่ำเมื่อเทียบกับภูมิภาค แต่ก็พร้อมที่จะมีแรงขายทำกำไรสลับออกมา หลังช่วงนี้ดัชนีฯปรับขึ้นดี ดังนั้นเพื่อป้องกันความเสี่ยง จึงแนะนำว่าการเก็งกำไรไม่ควรหวัง Gap ที่มาก เน้นซื้อค่าบวก หากเป็นลบจะดูไม่ดี ส่วนการซื้อลงทุนระยะกลาง-ยาวควรเลือกหุ้นที่มีพื้นฐานดี เพื่อป้องกันความเสี่ยงไว้ก่อน หุ้นพื้นฐานแนะนำในวันนี้เป็นSAMART
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดในระยะสั้นเป็นบวก หากต้องการเก็งกำไร จึงยังควรเป็น Follow Buy ด้วยค่าบวก แต่หากเริ่มเป็นลบจะดูไม่ค่อยดี เพราะมีสิทธิอ่อนตัวลงต่อไปยังแนวเด้ง 1560, 1550 แต่ถ้ายืนเหนือ SMA10 ได้ก็ลุ้นถือต่อ หุ้นที่มีสัญญาณบวกทางเทคนิคและมีโอกาสทำ Newhigh ที่ยังอยู่ใน List คือ RATCH, BECL, FSMART, AJD, CTW หุ้นที่เข้ามาใหม่ เป็น CPN,GENCO,AP,BH,PYLON หุ้นที่หลุด List KTIS ส่วนหุ้นที่อยู่ในพื้นที่หาจังหวะ Take profit คือ INTUCH,RS
Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ
+เยอรมัน: ความเชื่อมั่นธุรกิจ พ.ย.ดีขึ้น สถาบัน Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีในเดือนพ.ย.ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 104.7 จากระดับ 103.2ในเดือนต.ค. โดยเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน หลังจากที่อ่อนแรงลงติดต่อกันมา 6 เดือน
-สหรัฐฯ: ตัวเลขการผลิตไม่สดใส ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก เปิดเผยว่า ดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศในเดือนต.ค.ลดลงแตะ+0.14 จาก +0.29 ในเดือนก.ย. ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจมีการขยายตัวที่ชะลอลงในเดือนที่แล้ว
-สหรัฐฯ: PMI พ.ย. ปรับตัวลง ผลสำรวจของมาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐในเดือนพ.ย.ปรับตัวลงมาอยู่ที่ 56.3 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. จาก 57.1ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการชะลอตัวลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน
+ดาวโจนส์: บวกต่อ จากข่าวการกระตุ้นเศรษฐกิจทั่วโลก ดาวโจนส์ปิดที่ 17,817.90 จุด เพิ่มขึ้น 7.84 จุด หรือ +0.04% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,754.89 จุด เพิ่มขึ้น 41.92 จุด หรือ +0.89% ดัชนี S&P500 ปิดที่2,069.41 จุด เพิ่มขึ้น 5.91 จุด หรือ +0.29%
-น้ำมัน: ปรับลง กังวลโอเปคไม่ลดการผลิต ขณะที่มีความเห็นหลากหลายว่าการประชุม 27 พ.ย.57 โอเปคจะปรับลดเพดานการผลิตน้ำมันหรือไม่ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 73 เซนต์ปิดที่ 75.78 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 68 เซนต์ ปิดที่ 79.68 ดอลลาร์/บาร์เรล
-ทองคำ: ปรับลงตามน้ำมัน สัญญาทองคำตลาด COMEX(Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 2 ดอลลาร์ หรือ0.17% ปิดที่ 1,195.7
-ดัชนีค่าระวางเรือ: ปรับลง Baltic Dry Indexวานนี้ปิดตลาดที่ระดับ1,317 จุด ปรับลง 7 จุด หรือ -0.53%
ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหลักทรัพย์เด่น
+PTT มีแผนขายหุ้น BCP การที่ PTT (ซื้อ) ถือหุ้น 27% ใน BCP (ถือ)ทางการจึงมีแผนที่จะลดการผูกขาด มีบริษัทหลายแห่งที่มีความสนใจที่จะเข้าซื้อ BCP เช่น SUSCO (not rated) หรือแม้กระทั่งกลุ่มผู้บริหารและกลุ่มสหกรณ์ของ BCP เองก็สนใจที่จะเข้าซื้อหุ้น BCP จึงทำให้มีการเก็งกำไรกันหลายประเด็น คือ PTT จะมีกำไรจากการขาย BCP ส่วน BCP มีประเด็นว่าจะมีการถูกทำเทนเดอร์ ออฟเฟอร์หรือไม่ ส่วนผู้ซื้อก็จะเกิดประโยชน์ เช่นSUSCO จากที่เป็นผู้ค้าปลีกน้ำมัน ก็จะมีธุรกิจขั้นกลางที่เป็นโรงกลั่น อีกทั้งBCP ยังมีธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์จำนวนมากกว่า 100 เมกกะวัตต์อีกด้วย
+ธุรกิจรับเหมาทำฐานราก-เสาเข็มกับมาได้รับความนิยม หุ้นผู้นำธุรกิจนี้คือ SEAFCO (ซื้อ) และ PYLON (not rated) ปรับตัวขึ้นดี เพราะแนวโน้มธุรกิจสดใส จากการที่ปีหน้าจะมีงานก่อสร้างขนาดใหญ่ออกมาเป็นจำนวนมาก เช่น รถไฟฟ้า จึงมีความจำเป็นต้องใช้ผู้รับเหมาที่ทำงานฐานราก-เสาเข็มได้ หลังมีการเก็งกำไรผู้รับเหมาใหญ่แล้ว ก็กลับมาให้ความสนใจหุ้นรับเหมาเล็ก สำหรับสายสัมพันธ์กัน พบว่า SEAFCO-CKและ PYLON-ITD วันนี้เรามีรายงาน SEAFCO โดยปรับเพิ่มราคาพื้นฐานขึ้นเป็น 9.31 บาท ถือว่ายังน่าสนใจในการลงทุน
-VGI: แนวโน้มโฆษณาฟื้นตัวช้า-ราคาหุ้นแพง แม้ว่าจะมีการเก็งกำไรในเรื่องการซื้อกิจการสื่อนอกบ้าน แต่บางครั้งก็มีไม่สำเร็จได้ ล่าสุดการซื้อAqua Ad ผ่าน TH ก็จบไป ล่าสุดบริษัทปรับลดเป้ารายได้ปีนี้เพิ่ม 0%-3%จากเดิมที่เพิ่ม 17% เพราะธุรกิจโฆษณาฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด มีแนวโน้มอาจเสียลูกค้าโลตัสไปในส่วนโฆษณาที่สำคัญคือ Sales Floor ราคาหุ้นแพงP/E ปี 58-59 (ปิด มี.ค.59) ยังสูงเป็น 31.5 เท่า แนะนำ เต็มมูลค่า (FullyValued) ราคาพื้นฐานเป็น 12.00 บาท
- AJD ออกวอร์แรนท์และหุ้นเพิ่มทุน PP วอร์แรนท์ให้กับผู้ถือหุ้นเดิมสัดส่วน 3.5 หุ้นเดิม: 1 วอร์แรนท์ อายุ 5 ปี ไม่คิดมูลค่า อัตราใช้สิทธิ์ 0.10บาท จำนวน 857.1 ล้านหน่วย และหุ้นเพิ่มทุน PP จัดสรรให้นักลงทุน 13ราย จำนวน 1,500 ล้านหุ้นที่ราคา 0.10 บาท เทียบกับราคาปิดที่ 4.12บาท แม้ข่าววอร์แรนท์เป็นบวก ที่อยู่ในภาวะที่มีกำไร (in the money) แต่ราคาหุ้นเพิ่มทุนดูต่ำไปเป็นเพียง 0.10 บาท เท่ากับราคาพาร์ นั่นคือ เกิดdilution effect แต่บริษัทได้เงินมาน้อยเกินไป อีกทั้งอาจกังวลว่าจะมาขายในตลาดฯหน่อย
นักวิเคราะห์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : Tel 7835 [email protected]