- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 24 November 2014 16:51
- Hits: 1753
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
?? (+) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA +91.06, NASDAQ +11.10, S&P +10.75, FTSE +71.86, CAC +113.02 และ DAX +248.58 โดย DJIA และ S&P 500 ยังทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังธนาคารกลางทั่วโลกหลายๆ แห่งเคลื่อนไหวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ เช่น (1) ธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากระยะ 1 ปี ลง 0.25% สู่ระดับ 2.75% และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะ 1 ปี ลง 0.4% สู่ระดับ 5.6% โดยมีผลตั้งแต่วันเสาร์ (22/11/57) ซึ่งเป็นการประกาศลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางจีนเป็นครั้งแรกนับแต่กค.’55 และ (2) ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยว่า ECB พร้อมผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อและอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ปรับตัวสูงขึ้นโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และจะขยายโครงการซื้อสินทรัพย์หากจำเป็น รวมถึงการซื้อสินทรัพย์ขนานใหญ่ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซาในยูโรโซน
??…..ราคาปิดน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน มค. +US$0.66 อยู่ที่ US$76.51 ต่อบาร์เรล ส่วนหนึ่งได้รับปัจจัยบวกหลังจากจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้คาดว่าความต้องการน้ำมันจากจีน ซึ่งเป็นประเทศผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่อันดับสองของโลก จะเพิ่มสูงขึ้น
??....ทางด้านราคาทองคำ ส่งมอบเดือน ธ.ค. +US$6.8 อยู่ที่ US$1,197.7 ต่อออนซ์ ภายใต้ปัจจัยหนุนข้างต้นจากการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยของจีนโดยไม่คาดหมาย และประเด็นความจำเป็นเร่งด่วนในการเพิ่มอัตราเงินเฟ้อของ ECB
?? (+) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ +45 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปี -13,027 ล้านบาท (สิ้นปี’56 มียอดขายสุทธิสะสม 193,911 ลบ)
ทิศทางตลาด
??ทิศทางตลาด : ตามตลาดต่างประเทศ? คาดมีโอกาสปรับขึ้น ภายใต้ปัจจัยบวกจากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของหลายๆ ประเทศ โดยเฉพาะการลดอัตราดอกเบี้ยของประเทศจีน รวมถึงของ ECB ที่อัตราการขยายตัวในไตรมาสที่ผ่านมาอยู่ในระดับต่ำเพียง 0.2% และเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับต่ำ (0.4%) เมื่อเทียบกับเป้าหมายของ ECB ที่ 2.0%
??…..ขณะที่ประเด็นในประเทศ คาดได้รับปัจจัยบวกจากสถาบันในประเทศ (LTF / RMF) ที่คาดช่วยชดเชย Fund Flow ที่คาดมีความผันผวนหลังแรงซื้อ / ขายสุทธิจากต่างชาติสลับกันไป ขณะที่เริ่มเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาว (เดือนธันวาคม) ซึ่งคาด Fund Flow อาจชะลอตัวบ้าง และยังแนะติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลัง GDP – 3Q/57 เติบโตต่ำกว่าคาด
??.....รวมถึงความชัดเจนเกี่ยวกับวงเงินลงทุนกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระยะเวลา 8 ปี (ปี’ 58 – 65) ซึ่งกระทรวงคมนาคมจะสรุปในเดือน พ.ย. หลัง (21/10/57) ครม. อนุมัติแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม ในปี ’58 – ’65 เช่น รถไฟรางคู่ รถไฟฟ้า การขยายถนน และการขยายสนามบินฯ เป็นต้น เพื่อช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์ และเพิ่มศักยภาพของประเทศ ให้รองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ซึ่งคาดกลุ่มรับเหมาก่อสร้างน่าจะได้รับผลดีต่อเนื่องในระยะยาว โดยล่าสุด (18/11/57) ครม. อนุมัติโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่เส้นทางหนองคาย – มาบตาพุด ระยะทาง 867 กม. ระหว่างไทย – จีน ด้วยวิธี G to G เงินลงทุน 400,000 ล้านบาท คาดเริ่มก่อสร้างปี’59
??....นอกจากนี้ยังมีประเด็นการเร่งรัดเปิดประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ ที่คาดยังเป็นปัจจัยบวกต่อภาพรวมกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง หลังมีการยื่นซองประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว เส้นทางหมอชิต – คูคต เมื่อ 30/9/57 ซึ่งมีผู้ยื่นซองทั้งหมด 4 ราย (ITD, CK, STEC และ UNIQ) คาดใช้ระยะเวลา 1 – 3 เดือน ทราบผลการประมูล คาดอย่างเร็วคาดสามารถลงนามสัญญาและเริ่มก่อสร้างในช่วง 1H/58
??ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.02 อยู่ที่ 2.32% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) -0.68 อยู่ที่ 12.90
??หุ้นแนะนำ : TICON
ประเด็นที่ต้องติดตาม (24 - 28 พย.’57)
?? 24/11/57 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศ - ตค. (2) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการ - พย.
?? 25/11/57 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ของ GDP – 3Q/57 (2) ราคาบ้าน - กย. (3) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค - พย.
?? 26/11/57 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) รายได้ส่วนบุคคล - ตค. (2) ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน - ตค. (3) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโก - พย. (4) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้าย - พย. (5) ยอดขายบ้านใหม่ - ตค. (6) สต็อกน้ำมันราย
?? 27/11/57 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
?? 28/11/57 : ไม่มีรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ 02-684-8788