WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

SET มีลุ้นบวกต่อ ดังนั้นลงทุนเน้นถือ แต่ถ้าเทรดดิ้งดูจังหวะทำกำไรบ้าง

     กลยุทธ์ : เมื่อเย็นวันศุกร์ทางการจีนประกาศลดดอกเบี้ยลง ขณะที่ทางการของประเทศต่างๆ ยังยืนยันการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง ทำให้ FSS ยังคาดว่า SET จะมีแรงหนุนจากสภาพคล่องในตลาดต่อเนื่อง ซึ่งเรามีมุมมองเชิงบวกกับภาวะหุ้นไทยในระยะกลาง-ยาวอยู่แล้ว ดังนั้นหลังทยอยซื้อลบ ช่วงถัดจากนี้ก็เน้นถือต่อเนื่องได้ แต่ถ้าเทรดดิ้งสั้นตามรอบควรดูจังหวะขึ้นขายบ้าง เพื่อรอลงค่อยซื้อใหม่ลดความเสี่ยงจากการผันผวนของตลาด
      หุ้นเด่นทางเทคนิค : SAMART, SMART , WHA(short)
      แนวโน้ม : เมื่อวันศุกร์ SET ดีดกลับขึ้นมาปิดบวกได้ดีอีกครั้ง ถึงแม้ว่าแรงซื้อต่างชาติจะไม่ได้หนาแน่นนัก แต่ค่าเงินบาทก็ยังทรงตัวแคบๆ ได้ดี และมีลุ้นแข็งค่ากลับได้ด้วย ขณะที่หลังจาก SET ปิดทำการยังมีข่าวบวกจากการที่ทางการจีนยอมลดอัตราดอกเบี้ยลงเหนือความคาดหมาย รวมทั้งข่าวประธาน ECB ยังตอกย้ำว่าจะเร่งผลักดันให้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกดีดตัวขึ้นมาเคลื่อนไหวในด้านบวกกันเป็นส่วนใหญ่ รวมทั้งตลาดหุ้นเอเชียในเช้าวันนี้ด้วย โดยช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาแม้ว่า SET จะพักตัวย้อนลงบ้าง แต่ก็ถือว่ายังมีแรงซื้อกลับเข้ามาหนุนให้ดัชนีสามารถแกว่งทรงตัวได้ดีอยู่ ทำให้ FSS คาดว่า SET ยังมีลุ้นโอกาสขยับบวกขึ้นไปหาระดับดัชนีสูงสุดเดิมที่ทำไว้เมื่อปลายเดือน ก.ย.แถว 1600 จุด(+/- เล็กน้อย) ได้อีกครั้งในเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตามระหว่างทางขึ้นก็ยังต้องระวังการแกว่งตัวผันผวนของ SET ไว้ด้วย ดังนั้นส่วนที่ถือลงทุนระยะกลาง-ยาว ซื้อแล้วยังเน้นถือต่อเนื่องได้ แต่ถ้าเป็นเทรดดิ้งตามรอบอาจต้องดูจังหวะขายทำกำไรลดความเสี่ยงไว้บ้าง
     แนวรับ 1577-1575 , 1573-1568 จุด แนวต้าน 1584-1587 , 1590-1592 จุด
     Fund Flow สัปดาห์ที่ผ่านมายังไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 4 ในปริมาณที่หนาแน่น US$2,069 ล้าน เพิ่มจาก US$1,108 ล้านสัปดาห์ก่อนหน้า ศุกร์ที่ผ่านมา Flow ไหลเข้าต่อ ซื้อตลาดหุ้นไต้หวัน US$119 ล้าน เกาหลีใต้ US$74 ล้าน อินโดนีเซีย US$20 ล้าน ไทย US$1 ล้าน ขายฟิลิปปินส์ US$6.6 ล้าน และเวียดนาม US$0.3 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้แข็งค่าเล็กน้อย และจีนประกาศลดดอกเบี้ยกระตุ้นเศรษฐกิจ หนุน Flow ไหลเข้าต่อ

ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) จีนเซอร์ไพรส์ตลาดโดยลดดอกเบี้ยอ้างอิงเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี โดยลดดอกเบี้ยเงินกู้ 1 ปีลง 0.4% เป็น 5.6% และลดดอกเบี้ยเงินฝาก 0.25% เหลือ 2.75% เพื่อลดต้นทุนการกู้ยืมและกระตุ้นเศรษฐกิจ สะท้อนว่ามาตรการผ่อนคลายทางการเงินยังจำเป็นทั้งในจีน ญี่ปุ่น และยูโรโซน ซึ่งเป็นบวกกับหุ้นและโภคภัณฑ์ในระยะต่อไป
(+) VPO เริ่มซื้อขายวันนี้ บมจ. วิจิตรภัณฑ์ปาล์มออยล์เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบมานานกว่า 25 ปี มีกำลังผลิตรวม 180 ตันผลปาล์มทะลายต่อชั่วโมง สูงสุดในจ.ชุมพร บริษัทมีสวนปาล์มของตนเอง ซึ่งใช้เป็นวัตถุดิบ 14% ของวัตถุดิบรวม ที่เหลือซื้อจากภายนอก และมีโรงไฟฟ้าขนาด 8.4MW เราคาดกำไรในปีนี้ทรงตัว แต่จะเพิ่มขึ้น 24% ในปี 2015 จากปริมาณขายที่เพิ่มและดอกเบี้ยจ่ายลดลง ที่ราคา IPO 2.70 บาทคิดเป็น PE 12.2 เท่า PBV 1.9 เท่าปีหน้า เราประเมินเป้าหมายปี 2015 ที่ 2.90 บาท (PE 13 เท่า) (FSS เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO ของ VPO)
(+) KBANK เป็นผู้นำการเติบโตของสินเชื่อเดือน ต.ค. +1% M-M ขณะที่ BBL +0.4% M-M และ SCB -0.4% M-M ส่วนแบงก์ในกลุ่มเช่าซื้อทั้ง TISCO ลดลง 1.1% M-M และ TCAP -0.9% M-M ทำให้งวด 10M14 สินเชื่อโตเพียง 1.5% YTD คาดว่าทั้งปีนี้น่าจะโต 4-5% ต่ำสุดในรอบ 5 ปี แต่ก็มี TMB และ KBANK ที่มีสินเชื่อโตดีสุดในปีนี้ เรายังแนะนำ KTB (ราคาเป้าหมาย 27.60 บาท) ส่วน KBANK แนะนำซื้อเมื่ออ่อนตัว
(+) CK เราปรับกำไรปกติปี 2014 ขึ้น 11% เป็นโต 24% Y-Y และปรับกำไรปี 2015 ขึ้น 18.7% เป็นโต 9% Y-Y เพราะบริษัทร่วมขาดทุนน้อยกว่าคาด ยังคงเป้าหมายที่ 30 บาทเพราะกำไรที่ปรับขึ้นมีผลต่อมูลค่าทางบัญชีของธุรกิจก่อสร้างน้อยมาก ยังคงแนะนำซื้อ
(0) HANA แม้กำไร 3Q14 จะน่าผิดหวัง แต่จะเห็นการฟื้นตัวตั้งแต่ 1Q15 หลังคำสั่งซื้อ IC กลับมาอีกครั้ง และเริ่มรับรู้รายได้จากการขยายกำลังการผลิตที่โรงงานใหม่ที่ลำพูน 2 ตั้งแต่ 2Q15 เราคงประมาณการกำไรปีนี้แต่เพิ่มกำไรปี 2015 ขึ้น 7% เพิ่มราคาเป้าหมายปี 2015 เป็น 42 บาท จาก 39 บาท แต่ราคาหุ้นมี upside จำกัด จึงยังคงแนะนำถือ
(+) IPO ใหม่ “KCM” บมจ.เค.ซี.เมททอลชีทเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กแผ่นรีดเย็นและโครงสร้างเหล็กสำเร็จรูป ที่ได้รับประโยน์จากการลงทุนที่จะฟื้นตัวในปีหน้า เราคาดกำไรสุทธิปี 2014 หดตัวแรง 66% Y-Y เหลือ 14 ล้านบาท แต่จะกลับมาโตก้าวกระโดด +462% Y-Y เป็น 81 ล้านบาทในปี 2015 ประเมินราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 1.80 บาท (FSS เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO ของ KCM)
การปรับหุ้นเข้า-ออกจาก MSCI Semi-Annual Index Review มีผล 25 พ.ย. นี้ ดัชนี MSCI Global Standard มีหุ้นเข้า 3 ตัวคือ DELTA, EA, TUF ไม่มีหุ้นออก ส่วนดัชนี MSCI Small Cap Index มีหุ้นเข้า 7 ตัวคือ AIRA, EFORL, ICHI, KTIS, PCSGH, SAWAD, SUPER หุ้นเอาออกมี 8 ตัว CENTEL, DELTA, DRT, EA, MCOT, M, PS, TFD

ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมายังปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้ต่อเนื่องหลังธนาคารกลางทั่วโลกได้เดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจ
ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนวันศุกร์ปิดบวกได้ค่อนข้างหลังหลังธนาคารกลางจีนประกาศลดดอกเบี้ย รวมถึงถ้อยคำแถลงของประธาน ECB ว่าจะเร่งผลักดันเงินเฟ้อของยูโรโซนให้สูงขึ้นเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ส่วนตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวในแดนบวกรับการที่ธนาคารกลางจีนปรับลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
ค่าเงินบาทยังคงแกว่งตัวออกทางข้าง ล่าสุดแกว่งตัวในกรอบ 32.70-32.85 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ม.ค. เพิ่มขึ้น 0.66 ดอลลาร์/บาร์เรล มาปิดที่ 75.51 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจีนลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามประเด็นที่ต้องจับตาคือการประชุม OPEC ปลายสัปดาห์นี้
ราคาทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปรับตัวขึ้น 6.80 ดอลลาร์/ออนซ์ มาปิดที่ 1,197.70 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยได้รับแรงหนุนจากการที่ธนาคารการจีนลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งคาดว่าจะส่งผลต่ออุปสงค์ทองคำที่จะเพิ่มขึ้น
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
24 พ.ย.
- ไทย: ดุลการค้า (ต.ค.), VPO เริ่มเทรด (IPO 2.70 บาท)
- สิงคโปร์: 3Q14 GDP
25 พ.ย.
- สหรัฐ: 3Q14 GDP, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (พ.ย.)
26 พ.ย.
- ไทย: MTLS เริ่มเทรด (ราคา IPO 5.50 บาท)
- สหรัฐ: คำสั่งซื้อสินค้าคงทน, ยอดขายบ้านใหม่ (ต.ค.)
27 พ.ย.
- ฟิลิปปินส์: 3Q14 GDP
- ยูโรโซน: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (พ.ย.)
- สหรัฐ: ตลาดการเงินปิดทำการ Thanksgiving Day
28 พ.ย.
- ไทย: ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน ต.ค.
- ไต้หวัน: 3Q14 GDP
- อินเดีย: 3Q14 GDP
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (พ.ย.)
1 ธ.ค.
- ไทย: อัตราเงินเฟ้อ (พ.ย.)
- จีน: Manufacturing PMI (พ.ย.)
- สหรัฐ: ISM Manufacturing (พ.ย.)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Research Dept. Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!