- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 20 November 2014 16:49
- Hits: 1885
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
มีโอกาสแกว่งแคบ
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มีปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ในที่สุดวานนี้ตลาดฯมีแรงขายทำกำไร ดัชนีฯปรับลง 3.72 จุด หรือ -0.24% ปิดที่ระดับ 1,577.55 จุด ปริมาณการซื้อขายเบาบางลงเป็น 40 พันล้านบาท แม้วานนี้ปัจจัยต่างประเทศกลับมาเป็นใจจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรปดีขึ้น ส่วนมาตรการสกัดหุ้นร้อนของตลาดฯเข้มงวดมากขึ้น โดยใช้เครื่องมือเดิมๆ แต่ไม่ถึงกับเป็นยาแรง เริ่มใช้ปี 58 แต่คาดว่าจะมีผลกระทบกับดัชนีฯและปริมาณการซื้อขายให้น้อยลงในปีหน้า ปีนี้กระทบน้อย เพราะยังไม่เริ่มใช้ ด้านผู้ซื้อสุทธิวานนี้คือ สถาบันและพอร์ตโบรกเกอร์ ส่วนขายสุทธิคือ ต่างประเทศและรายย่อยสำหรับวันนี้ปัจจัยต่างประเทศที่ดีคือ รายงานการประชุมเฟดเรื่องอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำ จากราคาน้ำมันที่น้อยลง และเศรษฐกิจทั่วโลกที่ฟื้นตัวช้า ทำให้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไม่เกิดขึ้นเร็ว แต่ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านไม่สดใส ส่วนเรื่องบวกเดิมๆคือ ตลาดยังมีความหวังกับแรงซื้อของกองทุน LTF ในช่วง 1-2เดือนสุดท้ายของปี และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ & กำไรบจ.ในปี 58 นอกจากนั้น Valuation ของตลาดหุ้นไทยยังต่ำเมื่อเทียบกับภูมิภาค แต่ก็พร้อมที่จะมีแรงขายทำกำไรสลับออกมา หลังวานนี้ดัชนีฯปรับขึ้นดี ดังนั้นเพื่อป้องกันความเสี่ยง จึงแนะนำว่าการเก็งกำไรไม่ควรหวัง Gap ที่มาก ส่วนการซื้อลงทุนระยะกลาง-ยาวควรเลือกหุ้นที่มีพื้นฐานดี เพื่อป้องกันความเสี่ยงไว้ก่อน หุ้นพื้นฐานแนะนำในวันนี้เป็น SCB
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดในระยะสั้นมากพลิกเป็นบวกเล็กๆ การซื้อใหม่จึงยังควรเป็น Follow Buy ด้วยค่าบวก แต่หากเป็นลบดูไม่ค่อยดีเพราะมีสิทธิอ่อนตัวลงต่อไปยังแนวเด้ง 1570, 1560 แต่ถ้ายืนเหนือ SMA10 ได้ก็ลุ้นถือต่อ หุ้นที่มีสัญญาณบวกทางเทคนิคและมีโอกาสทำ New highที่ยังอยู่ใน List คือ GENCO, MK, RATCH, KTIS หุ้นที่เข้ามาใหม่ เป็น BH, SOLAR, FSMART หุ้นที่หลุด List ไม่มี ส่วนหุ้นที่อยู่ในพื้นที่หาจังหวะTake profit คือ KTB
Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ
+สหรัฐฯ: เงินเฟ้อต่ำผ่อนคลายขึ้นดอกเบี้ย รายงานการประชุมประจำเดือนต.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐอาจจะปรับตัวลดลงในระยะเวลาอันใกล้นี้ เนื่องจากราคาน้ำมันชะลอตัวลง แต่ก็คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะดีดตัวขึ้นแตะระดับเป้าหมายที่ 2% ของเฟดในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าทั้งนี้ นักลงทุนมองว่า การที่เฟดได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่เคลื่อนไหวในระดับต่ำนั้น สะท้อนให้เห็นว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำต่อไปอีก ซึ่งจะช่วยหนุนตลาดหุ้นให้แข็งแกร่งมากขึ้น
-สหรัฐฯ: ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านไม่สดใส กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านปรับตัวลดลง 2.8% ในเดือนต.ค. แตะที่1.009 ล้านยูนิต ส่วนตัวเลขการอนุญาตก่อสร้าง ซึ่งเป็นมาตรวัดการก่อสร้างในอนาคตปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.8% แตะที่ 1.08 ล้านยูนิต เมื่อเทียบกับที่นักวิเคราะห์ที่คาดว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนต.ค. และตัวเลขการอนุญาตก่อสร้างจะเพิ่มขึ้น 0.6%
•สหรัฐฯ: ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจคืนนี้ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนต.ค. ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนพ.ย. และยอดขายบ้านมือสองเดือนต.ค.
-ดาวโจนส์: ปรับลงเล็กน้อย ข้อมูลเศรษฐกิจซบเซา ดาวโจนส์ปิดที่17,685.73 จุด ลดลง 2.09 จุด หรือ -0.01% ดัชนี NASDAQ ปิดที่4,675.71 จุด ลดลง 26.73 จุด หรือ -0.57% ดัชนี S&P500 ปิดที่2,048.72 จุด ลดลง 3.08 จุด หรือ -0.15%
-น้ำมัน: อ่อนลง สต็อคน้ำมันดิบสัปดาห์ที่แล้วสูงเกินคาด สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 3 เซนต์ ปิดที่ 74.58 ดอลลาร์/บาร์เรลส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 37 เซนต์ ปิดที่ 78.1ดอลลาร์/บาร์เรล
•โอเป็ค: ติดตามการประชุม 27 พ.ย.นี้ นักวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนลีย์คาดการณ์ว่า โอเปคอาจจะปรับลดเพดานการผลิตในการประชุมครั้งนี้ เวเนซูเอลาและอิหร่านมีความเห็นว่าควรจะปรับลดการผลิต แต่ซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่สุดในกลุ่มโอเปค เลือกที่จะใช้วิธีการปรับลดราคาน้ำมันเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาด แทนการปรับลดเพดานการผลิต
-ทองคำ: ปิดลบ $3.2 จากคาดการณ์แบงก์ชาติสวิสไม่สำรองทองคำเพิ่มสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 3.2 ดอลลาร์ หรือ 0.27% ปิดที่ 1,193.9 ดอลลาร์/ออนซ์+ดัชนีค่าระวางเรือ: ปรับเพิ่มเล็กน้อย ดัชนี BDI วานนี้เพิ่มขึ้น 10 จุด หรือ0.72% ปิดที่ 1,306 จุด
ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหลักทรัพย์เด่น
-/• ตลาดหลักทรัพย์: มาตรการสกัดหุ้น 3 มาตรการประกอบด้วย 1. หุ้นที่ติด TRADING ALERT ให้ใช้เกณฑ์ CASH BALANCE ติดต่อกัน 3 สัปดาห์ , 2.หากหุ้นที่ติด TRADING ALERT ครั้ง 2 ไม่ให้นำเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน และ3.หากหุ้นติด TRADING ALERT ครั้ง 3 ห้ามใช้ NET SETTLEMENT เสนอให้คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. พิจารณาอีกครั้งในเดือนนี้ ทั้งนี้คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ได้ในปี 58 เราคาดว่าจะทำให้กิจกรรมการซื้อขายหุ้นเก็งกำไรลดลง และมูลค่าการซื้อขายในตลาดลดฯ เมื่อมีการบังคับใช้
+ อสังหาริมทรัพย์: แนวโน้มปี 58 เติบโตดีขึ้น นายกสมาคมอาคารชุดไทยกล่าวว่า ภาพรวมอสังหาฯปี 58 คาดว่าจะโตได้ 5% จากปีนี้ หรือคิดเป็นมูลค่า3.15 แสนล้านบาท จากปีนี้ที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์คาดว่าจะติดลบ 11-14% y-oyหรือเป็นมูลค่า 3-3.1 หมื่นล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากความไม่สงบสถานการณ์ทางการเมืองในครึ่งปีแรกทำให้กระทบความเชื่อมั่นและกำลังซื้อประกอบกับกระทบกับการเปิดโครงการใหม่และยอดขายของผู้ประกอบการ ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ติดลบ
ความเห็น: หลักทรัพย์กลุ่มที่อยู่อาศัยยังมีความน่าสนในปี 58 จากภาพการฟื้นตัวคาดว่าอัตราการเติบโตเฉลี่ยของกำไรปี 58 เป็น 13.7% ระยะสั้นได้รับผลลบจากแรงขายเมื่อมีข่าวจริง (sell on fact) แม้ประกาศกำไร 3Q57 ออกมาดี แต่ระยะยาว คาดว่าจะปรับตัวขึ้นได้ Top Pick คือ AP, PS และ SPALI
+ หุ้น RS: ปี 58 มีแนวโน้มสดใส เพราะจะปรับเพิ่มอัตราค่าโฆษณา DigitalTV เป็น 2.8 เท่าตัวจาก 1.8 หมื่นบาทต่อนาที เพิ่มเป็น 5 หมื่นบาทต่อนาทีปัจจุบันช่อง 8 ใน DTV มี rating เป็นอันดับ 7 แล้วในปัจจุบันมีผู้ชมเพิ่มถึง 3เท่าตัวในปีที่ผ่านมา บริษัทมองว่าตั้งแต่ 3Q57 ก็จะเริ่มทำกำไรได้แล้ว ซึ่งเร็วกว่าที่นักวิเคราะห์คาด ปัจจุบันช่อง 8 เป็นสัดส่วนรายได้ถึง 70% สำหรับคำแนะนำในConsensus ให้ราคาพื้นฐานตั้งแต่ 10.60-15.10 บาท
-TOP: แนวโน้ม 4Q57 มีโอกาสขาดทุน ผลประกอบการไตรมาส 4/57 บริษัทอาจจะยังคงขาดทุนต่อเนื่องจากสต๊อกน้ำมันดิบ เนื่องด้วยราคาน้ำมันดิบดูไบปรับตัวลดลงตามภาวะอุปทานล้นตลาด ซึ่งหากราคาน้ำมันยังอยู่ในระดับ 75-80เหรียญ/บาร์เรลก็อาจทำให้ผลประกอบการปี 57 ขาดทุนได้
ความเห็น: คาด 4Q57 ขาดทุนสุทธิอีกหลังราคาน้ำมันดิบยังลดลงต่อเนื่องและ PX Spread ลดลงเป็น 250 เหรียญสหรัฐ/ตัน ตั้งแต่ต.ค.57 แต่ปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้น QoQ เพราะใน 3Q57 มีการปิดซ่อมบำรุง แนะนำถือ ให้ราคาพื้นฐาน 45 บาท อิงกับ P/BV ปี 58 ที่ 1.0 เท่า ความเสี่ยง คือค่าการกลั่นที่มีแนวโน้มต่ำต่อในปี 58 เพราะจะมีกำลังการผลิตโรงกลั่นใหม่เข้ามาจากจีนและตะวันออกกลางราว 800kbd ในปี 58 จากที่เข้ามา500kbd ในปี 57
นักวิเคราะห์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : Tel 7835 [email protected]