- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 03 November 2021 20:59
- Hits: 12870
บล.ไทยพาณิชย์ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 3-11-2021
แกว่งในกรอบ 1610-1625 จุด รอประชุมเฟด
กลยุทธ์การลงทุน:
คาด SET ยังแกว่งในกรอบระหว่าง 1610-1625 จุด เพื่อรอผลประชุมเฟดช่วงดึกคืนนี้ ที่คาดจะมีการประกาศลด QE และตลาดรอประเมินสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยในปีหน้า ขณะที่ในช่วงนี้ตลาดดูขาดปัจจัยหนุนใหม่ ด้านภาพรวมแนวโน้มราคา ติดตามบริเวณ 1600 จุด หากยืนได้คาดจะเริ่มฟื้นตัวกลับ และในภาพรวมเป็นการเคลื่อนไหวในกรอบ 1600-1660 จุด เหมือนเช่นเคย กลยุทธ์การลงทุนใช้การ Selective Buy หรือเก็งกำไรอย่างระมัดระวัง
ล็อคเป้าลงทุน:
> ดัชนีมีแนวโน้มแกว่งในกรอบ ตามภาพรวมเศรษฐกิจที่ชะลอตัว แนวโน้มผลประกอบการ 3Q64 สะท้อนต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
> พอร์ตหลัก 1) หุ้น Defensive ที่ราคาหุ้นยัง laggard เลือก ADVANC BEM BGRIM GPSC 2) หุ้นที่คาดกำไร 3Q64 ดีทั้ง YoY, QoQ เลือก BDMS RJH
> พอร์ตเทรดดิ้ง เก็งกำไรหุ้นกลุ่มพลังงานเมื่อย่อตัวจากประชุม OPEC+ และการเจรจานิวเคลียร์อิหร่าน เลือก PTTEP
> Conviction Call แนะนำซื้อ/Long KBANK มีแนวโน้ม re-rate valuation (เหมือน SCB) ขึ้นจากการก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทเทคโนโลยีทางการเงิน (นอกจาก SCB) แนะนำขาย/Short หุ้นเดินเรือ BDI ปรับลง 9 วัน และหุ้นธีม EV ได้ sentiment ลบระยะสั้น
ประเด็นสำคัญ
# ตลาดหุ้นสหรัฐขยับขึ้น ยุโรปปิดผสมผสาน ราคาน้ำมันร่วง
ตลาดหุ้นสหรัฐขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ หนุนจาก บจ. ใน S&P500 ที่รายงานงบแล้วกว่า 55.8% และมีกว่า 82% ที่รายงานงบดีกว่าคาด แม้มีการคาดการณ์ว่าถ้อยแถลงของ ปธ. Fed ในวันนี้จะประกาศลดวงเงิน QE ลงเดือนละ 1.5 หมื่นล้านเหรียญ ก็ตาม ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดผสมผสาน ราคาน้ำมันปรับลง นลท. จับตาประชุม OPEC+
# หุ้น EV อาจได้ sentiment เชิงลบหลังหุ้น Tesla ร่วงแรง
หลังมีข่าวเรียกคืนรถยนต์ไฟฟ้ากว่า 11,700 คันเนื่องจากปัญหาระบบเบรก นอกจากนี้ Elon Musk ระบุว่ายังไม่ได้มีการเซ็นสัญญากับบริษัทรถยนต์เช่ารายใหญ่ของโลก Hertz เพื่อจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าจำนวน 100,000 คันแต่อย่างใด เรามองว่าเป็น sentiment เชิงลบระยะสั้นต่อหุ้นธีม EV ของไทยที่ถูกเก็งกำไรไปในช่วงก่อนหน้า แนะนำทยอยขายทำกำไรแล้วหาจังหวะเข้าซื้อใหม่เมื่อราคาอ่อนตัว
# ศบค.ประเมิน 15 วันหลังจากนี้ ก่อนคลายล็อกดาวน์เพิ่มเติม
หากสถานการณ์ดีขึ้น จะพิจารณาเปิดผับบาร์ในพื้นที่นำร่อง รวมถึงขยายเวลานั่งดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถึงเวลา 22.00 หรือ 23.00 น.ตามปกติ ทั้งนี้ คาดว่า 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ จะมี นทท. ต่างชาติเดินทางเข้าไทยราว 6 แสนคน และในปี 65 จะเพิ่มเป็น 10 ล้านคน ซึ่งคาดว่าจะมียอดการใช้จ่ายเฉลี่ย 5 หมื่นบาทถึง 1 แสนบาท/คน
Wealth Strategy
แนะนำกองทุน ASP-POWER โดยกองทุนหลักเน้นลงทุนในหุ้นพลังงานสะอาดและรถยนต์ไฟฟ้า ตามกระแสทั่วโลกให้ความสำคัญกับนโยบายรักษ์โลก
บทวิเคราะห์วันนี้
กลุ่มปิโตรเคมี – ส่วนต่างราคา integrated PET/PTA สูงสุดในรอบ 3 ปี
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ