- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 17 November 2014 16:23
- Hits: 1540
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(-/+) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA -18.05, NASDAQ +8.40, S&P +0.49, FTSE +18.92, CAC +14.51 และ DAX +4.43 ภายใต้การซื้อขายที่เป็นไปอย่างซบเซา หลังดัชนีทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์หลายครั้งในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจโดยรวมเป็นบวก (1) ยอดค้าปลีก – ตค. เพิ่มขึ้น 0.3% สูงกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% จากราคาน้ำมันที่ลดลงช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของภาคครัวเรือน นขณะที่สหรัฐฯ เริ่มเข้าสู่ฤดูกาลจับจ่ายซื้อของเนื่องในเทศกาลวันหยุด (2) สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ – กย. เพิ่มขึ้น 0.3% และ (3) ความเชื่อมั่นผู้บริโภค – พย. อยู่ที่ระดับ 89.4 สูงสุดในรอบกว่า 7 ปี นับแต่ กค.’50
.....ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปถูกกดดันจากแรงขายหุ้นกลุ่มบริการสุขภาพ และกลุ่มเหมือง ขณะเดียวกันมีการเปิดเผยตัวเลข GDP – 3Q/57 ขยายตัวขึ้นเล็กน้อย โดยกลุ่มประเทศที่ใช้เงินยูโร 18 ประเทศขยายตัว 0.2% ซึ่งการฟื้นตัวยังคงเป็นไปอย่างซบเซา
…..ราคาปิดน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ธค. +US$1.61 อยู่ที่ US$75.82 ต่อบาร์เรล ส่วนหนึ่งจากการเข้าเก็งกำไร หลังราคาน้ำมันลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบสี่ปีเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้มีการคาดการณ์ว่ากลุ่มโอเปคอาจตัดสินใจลดกำลังการผลิตเพื่อหนุนราคาน้ำมันที่ร่วงลงต่ำกว่า 80 ดอลลาร์/บาร์เรลเป็นครั้งแรกในรอบสี่ปี
....ทางด้านราคาทองคำ ส่งมอบเดือน ธ.ค. +US$24.1 อยู่ที่ US$1,185.6 ต่อออนซ์ ส่วนหนึ่งจากเงินสหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงิน
ยูโรเป็นวันที่สอง
(+) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ +73 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปี -14,343 ล้านบาท (สิ้นปี’56 มียอดขายสุทธิสะสม 193,911 ลบ)
ทิศทางตลาด
ทิศทางตลาด : Sideway? คาดเคลื่อนไหวทั้ง +/- ตามตลาดต่างประเทศ (ยกเว้น NIKKEI เช้านื้ที่ลดลงกว่า 1.7% เนื่องจากตัวเลข GDP – 3Q/57 หดตัว 1.6%) โดยที่ยังไม่มีปัจจัยชี้นำใหม่ๆ ขณะที่อยู่ในช่วงท้ายของการประกาศงบการเงิน – 3Q/57 ซึ่งอาจมีการขายทำกำไร (Sell on Fact) นอกจากนี้อยู่ระหว่างรอดูตัวเลข GDP ทั้งปี’57 ที่มีการประเมินว่าอาจจะมีการปรับลงจากเป้าหมายครั้งก่อน (1.5%) เป็นประมาณ 1.1 – 1.2%
....อย่างไรก็ตามตลาดมียังมีปัจจัยบวกจากแรงซื้อของกองทุน LTF และ RMF (+)
.....ยังแนะติดตามความชัดเจนเกี่ยวกับวงเงินลงทุนกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระยะเวลา 8 ปี (ปี’ 58 – 65) ซึ่งกระทรวงคมนาคมจะสรุปในเดือน พ.ย. หลัง (21/10/57) ครม. อนุมัติแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม ในปี ’58 – ’65 เช่น รถไฟรางคู่ รถไฟฟ้า การขยายถนน และการขยายสนามบินฯ เป็นต้น เพื่อช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์ และเพิ่มศักยภาพของประเทศ ให้รองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ซึ่งคาดกลุ่มรับเหมาก่อสร้างน่าจะได้รับผลดีต่อเนื่องในระยะยาว
....รวมถึงประเด็นการเร่งรัดเปิดประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ ที่คาดยังเป็นปัจจัยบวกต่อภาพรวมกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง หลังมีการยื่นซองประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว เส้นทางหมอชิต – คูคต เมื่อ 30/9/57 ซึ่งมีผู้ยื่นซองทั้งหมด 4 ราย (ITD, CK, STEC และ UNIQ) คาดใช้ระยะเวลา 1 – 3 เดือน ทราบผลการประมูล คาดอย่างเร็วคาดสามารถลงนามสัญญาและเริ่มก่อสร้างในช่วง 1H/58
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.03 อยู่ที่ 2.32% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) -0.48 อยู่ที่ 13.31
หุ้นแนะนำ : HEMRAJ
ประเด็นที่ต้องติดตาม (17 พย.’57)
17/11/57 : สภาพัฒน์ฯ แถลงตัวเลข GDP – 3Q/57(คาด +1.8%qoq และ +1.0%yoy)
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ 02-684-8788