- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 17 November 2014 16:06
- Hits: 1614
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
คาด SET ยังเสี่ยงผันผวน ดังนั้นถ้าจะซื้อ...น่ารอช่วงตลาดอ่อนลง!!
กลยุทธ์ : สัปดาห์ที่แล้ว SET ยังอยู่ในช่วงแกว่งตัวลงต่อเนื่องอยู่ ถึงแม้ว่าในช่วงท้ายสัปดาห์จะเริ่มมีจังหวะดีดกลับขึ้นมาได้บ้าง แต่กรอบบวกยังจำกัดและมีแรงขายกดดันอยู่ ทำให้ FSS คาดว่า SET ยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลงให้เป็นจังหวะเลือกหุ้นเข้าซื้อได้ใหม่ โดยเรายังมีมุมมองต่อภาวะตลาดหุ้นไทยในช่วงท้ายปีนี้ไปจนถึงปีหน้าในเชิงบวก ดังนั้นหลังจากเลือกหุ้นทยอยซื้อช่วงลบไปแล้วก็สามารถถือต่อเนื่องได้ แต่ถ้าเป็นส่วนเทรดดิ้งตามรอบ ก็ควรหาจังหวะทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยงในช่วงบวกด้วย เพื่อรอซื้อกลับเมื่อตลาดปรับตัวลงอีกครั้ง
หุ้นเด่นทางเทคนิค : CENTEL, MAJOR , LOXLEY(buy back)
แนวโน้ม : เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา SET ยังแกว่งตัวผันผวนและมีจังหวะปรับย้อนลงไปเคลื่อนไหวเป็นลบอีกครั้ง หลังจากยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามาหนุน ขณะที่ช่วงเย็นแม้ว่าตัวเลข GDP ของยูโรโซนจะขยายตัวขึ้นได้ในไตรมาส 3 แต่ก็เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยแสดงถึงการฟื้นตัวที่ยังเป็นไปอย่างซบเซา ทำให้นักลงทุนส่วนหนึ่งเริ่มชะลอการเข้าลงทุน ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐกลับมาปิดเป็นลบเล็กน้อย และตลาดหุ้นยุโรปยังแกว่งตัวค่อนข้างผันผวน ทำให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เปิดเป็นลบ ซึ่งคาดว่าน่าจะกดดันให้ SET กลับมามีจังหวะปรับตัวลงต่อเนื่องอีกครั้งได้ด้วย ดังนั้น FSS จึงยังแนะนำให้รอเลือกหุ้นเพื่อทยอยเข้าซื้อในช่วงตลาดเป็นลบเช่นเดิมดีกว่า โดยส่วนที่เป็นหุ้นถือลงทุนหลังจากซื้อแล้วสามารถถือต่อเนื่องได้ แต่ถ้าเป็นส่วนเทรดดิ้งตามรอบ ก็ควรหาจังหวะขายทำกำไรบ้าง เพื่อลดความเสี่ยงจากการผันผวนของตลาด
แนวรับ 1572-1570 , 1565-1560 จุด แนวต้าน 1578-1582 , 1585-1588 จุด
Fund Flow สัปดาห์ที่ผ่านมาไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคต่อเป็นสัปดาห์ที่ 3 ปริมาณหนาแน่นขึ้นเป็น US$1,108 ล้าน เพิ่มจาก US$654 ล้านสัปดาห์ก่อน ส่วนวันศุกร์เงินทุนกลับไหลออกหลังไหลเข้าติดต่อกัน 15 วันแต่ปริมาณเบาบางมาก ต่างชาติขายเกาหลีใต้ US$236 ล้าน อินโดนีเซีย US$19 ล้าน และเวียดนาม US$11 ล้าน แต่ซื้อไต้หวัน US$84 ล้าน ฟิลิปปินส์ US$2.5 ล้าน ไทย US$2 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้ค่อนข้างนิ่ง Flow น่าจะเบาบางต่อ
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(-) กำไรส่วนใหญ่ต่ำกว่าคาด มีโอกาสที่ GDP 3Q14 จะต่ำกว่าคาด Bloomberg consensus คาด GDP 3Q14 +1.9% Q-Q, +1.1% Y-Y แต่มีโอกาสต่ำกว่าคาด สะท้อนจากกำไรปกติใน 3Q14 ที่น่าผิดหวัง -10% Q-Q, -11% Y-Y การบริโภคในต่างจังหวัดหรือระดับรากหญ้าฟื้นช้ากว่าที่หลายฝ่ายคาดมาก ธุรกิจที่มีฐานลูกค้าในกลุ่มดังกล่าวจึงมีกำไรแย่กว่าที่คาด หาก GDP ต่ำกว่าคาดจะกดดันตลาดระยะสั้น และอาจเลยไปถึงกลางสัปดาห์ที่อาจมีมาตรการดับหุ้นร้อนจากตลท. สำหรับหุ้นขนาดกลาง-ใหญ่ที่พื้นฐานดี การปรับลงของราคายังเป็นโอกาสในการสะสม
(+) TUF เราปรับเพิ่มเป้าหมายปี 2015 เป็น 95 บาท (หลังแตกพาร์เป็น 24 บาท) จาก 84 บาท โดย Re-rate PE ขึ้นจากเดิม 15 เท่าเป็น 17 เท่า หลังบริษัทสามารถยกระดับการทำกำไรให้สูงขึ้นและมีเสถียรภาพมากขึ้น นับตั้งแต่การซื้อแบรนด์ระดับโลก MWB ในปี 2011 การซื้อ MerAlliance และ King Oscar ซึ่งจะรวมผลการดำเนินงานเข้ามาเต็มปีในปี 2015 และมีแผนซื้อกิจการอีกในอนาคต พัฒนาการต่างๆสะท้อนมาที่กำไรปกติปี 2011-14 ที่โตเฉลี่ย 9% สูงกว่าปี 2001-10 ที่โตเฉลี่ย 4% กว่า 2 เท่า ยังแนะนำซื้อ
(+) กำไรปกติของกลุ่มโรงพยาบาลออกมาดี +21% Q-Q ตามฤดูกาล และเพิ่ม 8% Y-Y จากการเติบโตของ BGH และ BH ทั้งการขยายตัวของรายได้ที่แข็งแกร่งและคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ อัตรากำไรขั้นต้นจึงเพิ่มขึ้นทั้งคู่ ขณะที่ BCH และ VIBHA น่าผิดหวัง โดยเฉพาะ VIBHA ที่กำไรหดแรง (-42% Y-Y) เราปรับกำไรปี 2014-15 ลงปีละ 16% ปรับเป้าเหลือ 15.6 บาทจาก 19 บาท ลดคำแนะนำเป็นขาย ส่วน BCH เราปรับกำไรปี 2014-15 ลง 16% ปรับเป้าเหลือ 8.5 บาทจาก 9 บาท แนะนำขาย
(+) SIRI กำไรปกติเพิ่ม 47% Q-Q และ 80% Y-Y ดีกว่าคาด 12% จากรายได้โอนที่สูงขึ้นมากกว่าคาด (+20% Q-Q, +3% Y-Y) แนวโน้มกำไร 4Q14 จะดีขึ้นและเป็นจุดสูงสุดของปี คงราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 2.20 บาท ปรับคำแนะนำเป็นซื้อ จากเดิมถือ
(+) CK กำไรปกติ +25% Q-Q, +60% Y-Y ดีกว่าคาดถึง 46% ส่วนกำไรสุทธิ +285% Q-Q, +28% Y-Y เพราะมีกำไรจากการขาย BMCL ยังแนะนำซื้อ เป้าปี 2015 ที่ 30 บาท
(-) EA กำไรลด 9% Q-Q ตามฤดูกาล แต่เพิ่ม 1,252% Y-Y เพราะโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ 90MW ที่นครสวรรค์เริ่มผลิตตั้งแต่ 23 ธ.ค. 2013 เทียบกับก่อหน้านั้นที่มีเพียง 8MW กำไรงวด 9M14 คิดเป็น 75% ของประมาณการทั้งปีที่คาดโต 524% Y-Y และคาดปีหน้าโต 95% อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นเกินพื้นฐานที่ 22 บาทแล้ว แนะนำขาย
(-) LANNA กำไรปกติ -51% Q-Q, -65% Y-Y ต่ำกว่าคาดมาก เราปรับกำไรปี 2014-15 ลง 32% และ 50% ปรับเป้าหมายปี 2015 ลงเหลือ 11 บาทจากเดิม 15 บาท ลดคำแนะนำจากถือ เป็นขาย
ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดในกรอบแคบๆท่ามกลางภาวะการซื้อขายที่เงียบเหงาโดยนักลงทุนจะลอการลงทุนหลังจากที่ตลาดหุ้นพุ่งขึ้นติดต่อกันหลายวันก่อนหน้า
ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนวันศุกร์ปิดในกรอบแคบๆเช่นกันโดยตัวเลขเศรษฐกิจในยูโรโซนที่ดีกว่าคาดถูกหักล้างไปกับราคา Commodity ที่ร่วงลง
ส่วนตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวในแดนลบหลังญี่ปุ่นเปิดเผยตัวเลข GDP เบื้องต้นของไตรมาส 3 ออกมาต่ำกว่าคาด
ค่าเงินบาทแกว่งตัวแข็งค่าขึ้นได้เล็กน้อย ล่าสุดแกว่งตัวในกรอบ 32.74-32.85 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปรับตัวขึ้น 1.61 ดอลลาร์/บาร์เรล มาปิดที่ 75.82 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยมีแรงซื้อกลับเข้ามาหลังจากราคาน้ำมันดิบร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปีในวันก่อนหน้า
ราคาทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 24.10 ดอลลาร์/ออนซ์ มาปิดที่ 1,185.60 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร รวมถึงแรงซื้อจากการ short-covering
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
17 พ.ย. - ไทย: 3Q14 GDP, ยอดขายรถ (ต.ค.)
- ญี่ปุ่น: 3Q14 GDP
19 พ.ย. - ไทย: JSP เริ่มเทรด (ราคา IPO 2.60 บาท)
- ญี่ปุ่น: BOJ ประชุม
- สหรัฐ: Housing starts, Building permits (ต.ค.)
20 พ.ย. - จีน: HSBC China Manufacturing PMI (พ.ย.)
- สหรัฐ: อัตราเงินเฟ้อและยอดขายบ้านเก่า (ต.ค.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (พ.ย.)
21 พ.ย. - ไทย: CBG เริ่มเทรด (ราคา IPO 28 บาท)
24 พ.ย. - ไทย: ดุลการค้า (ต.ค.), VPO เริ่มเทรด (ราคา IPO 2.70 บาท)
- สิงคโปร์: 3Q14 GDP
25 พ.ย. - สหรัฐ: 3Q14 GDP
26 พ.ย. - ไทย: MTLS เริ่มเทรด (ราคา IPO ยังไม่สรุป)
- สหรัฐ: คำสั่งซื้อสินค้าคงทน, ยอดขายบ้านใหม่ (ต.ค.)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Research Dept. Tel: 02-646-9967, 02-646-9852