- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 17 November 2014 16:06
- Hits: 1508
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Thailand GDP
ประเด็นสำคัญวันนี้ ตลาดหุ้นไทยวันศุกร์แกว่งกรอบแคบ ปิดที่ 1,575.88 จุด ลบเล็กน้อย 1.33 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 47,053 ล้านบาท
ขณะที่ต่างชาติซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 เล็กน้อย 73 ล้านบาท คงการ Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 2 อีก 1,911 สัญญา คาดเป็นการปิดสถานะ Long หลัง S50Z14 ปิดสูงกว่า SET50 Index ต่อเนื่อง แต่ตลาดตราสารหนี้ขายสุทธิเล็กน้อย 707 ล้านบาท ภาพรวมเงินทุนต่างชาติยังคงเป็นกลางถึงบวกในความเห็นของเรา
ภาวะการลงทุนในวันนี้ขึ้นอยู่กับ GDP ใน 3Q57 ของไทยเป็นสำคัญ ณ ปัจจุบัน Bloomberg consensus คาด 1.0% yoy และ 1.5% qoq หาก
•GDP เช้าวันนี้ออกมาเท่ากับหรือดีกว่าคาด เราเชื่อว่า SET INDEX จะฟื้นตัวไต่ระดับขึ้นทดสอบแนว 1,585 จุด +/- ผลักดันด้วยหุ้น Big Cap โดยเฉพาะกลุ่มธนาคาร / ICT / ที่อยู่อาศัย
•GDP เช้าวันนี้ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ SET INDEX มีแนวโน้มปรับฐานลงสู่แนว 1,565 จุด +/- แต่จะเกิด Technical rebound ในที่สุดต่อการประชุมครม.ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเราให้น้ำหนักกับโอกาสนี้มากที่สุด
ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศขาดความโดดเด่นในวันนี้ ทำให้ภาพรวมตลาดหุ้นในเอเชียเป็นกลาง รวมถึงหุ้นขนาดเล็กที่รอความชัดเจนในการประชุมวันที่ 19 พ.ย.
กลยุทธ์การลงทุน เราแนะนำ “ทยอยสะสมหุ้น Big Cap ที่เกี่ยวข้องกับ Domestic Play หรือ หุ้นที่Laggard หรือผ่านจุดต่ำสุดของผลประกอบการไปแล้ว”
กลยุทธ์การลงทุนช่วงสั้น MBKET แนะนำ “สะสม” KTB และ “เก็งกำไร” VGI
Portfolio Top Pick in 4Q14: BEAUTY / IFEC/ LPN/ PTT/ VGI
HOLD: SAMART/ IFEC/ BTS/ SIM/ CK/ LPN/ VGI/ PTT/ KTB
Accumulative Buy: KTB
Speculative Buy: VGI
Action and Stock of the Day
SET INDEX ยังคงปิดยืนเหนือ 1,570 จุด อีกครั้ง
คาด SET INDEX วันนี้ขึ้นอยู่กับ GDP ใน 3Q57 ก่อนตลาดเปิด
หุ้น Big cap มีความน่าสนใจ
กลยุทธ์การลงทุน ทยอยสะสมหุ้น Big Cap หรือ หุ้นที่ผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุด ตลาดหุ้นเอเชียทั่วเอเชียวานนี้ ปิดบวก – ลบ สลับกันไป ต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 เนื่องจากเป็นการลงทุนวันสุดท้ายของสัปดาห์ อีกทั้งขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุนการลงทุน
ด้านตลาดหุ้นไทย แกว่งตัวในกรอบเช่นกัน ระหว่าง 1,575-1,585 จุด กลุ่มธนาคารยังคงเป็นกลุ่มที่ช่วยปิดความเสี่ยง Downside ของตลาดหุ้นไทยโดยรวม แม้ว่าจะมีแรงขายทำกำไรในกลุ่ม ICT และ กลุ่มพลังงานออกมาบ้างกตาม ขณะที่หุ้นขาดเล็กยังคงแกว่งแคบต่อเนื่อง ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX อยู่ที่ 1,575.88 จุด ลบเล็กน้อย 1.33 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 47,053 ล้านบาท
กลุ่มที่ยังปิดบวกดีที่สุด ได้แก่ กลุ่ม Professional +7.74%, กลุ่มเหมืองแร่ +1.66% และกลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ +1.45% ส่วนกลุ่มหลักกลุ่มธนาคาร +0.58%, กลุ่มอสังหาฯ +1.30% และกลุ่ม ICT -0.66%
ภาพตลาดหุ้นไทยวันนี้
ตลาดหุ้นเอเชีย (7.51 น.) เช้านี้ Nikkei เปิดลบเกือบ 1.50% เมื่อ GDP ใน 3Q57 หดตัวสวนทางกับที่ตลาดคาดการณ์ ขณะที่ Kospi เปิดทรงตัว
SET INDEX วันศุกร์ที่ผ่านมาแกว่งแคบพร้อมกับมูลค่าการซื้อขายที่ชะลอตัวลงจากวันก่อนหน้า ตามที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ SET INDEX ในวันนี้จะมีทิศทางที่ชัดเจนต่อเนื่องถึงสิ้นปีนี้ ว่าจะมีแนวโน้มปิดยืนทะลุ 1,600 จุดได้หรือไม่ คือ ตัวเลข GDP ใน 3Q57 ของไทย ช่วงเช้าวันนี้
ณ ปัจจุบัน Bloomberg consensus คาด +1.5% qoq และ 1.0% yoy เร่งขึ้นจาก GDP ใน 2Q57 เติบโต 0.4% qoq และ 0.9% yoy หาก
•หาก GDP ใน 3Q57 ออกมาขยายตัว qoq และ yoy ในระดับใกล้เคียงกับ 2Q57 อาจสร้างกระแสต่อการเก็งกำไรในเชิงบวกว่า
oรัฐบาล อาจมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดที่ 2 ตามมา จับตาการประชุม ครม. วันอังคารที่ 18 พ.ย. รมว.คลัง อาจเสนอแผนกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ต่อครม.เพื่อพิจารณา และให้ดำเนินการได้ทันในต้นเดือนธ.ค.
oและ/หรือ กนง.พิจารณาลดอัตราดอกเบี้ย RP 1 วัน เป็น 1.75% จากปัจจุบัน 2.00% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอีกด้านหนึ่ง ซึ่งการประชุมนัดสุดท้าย วันที่ 17 ธ.ค.
MBKET ให้น้ำหนักกับโอกาสที่จะเกิดขึ้นในกรณีนี้ ซึ่งเท่ากับว่า หุ้นที่เกี่ยวข้องกับการบริโภค / การลงทุนภายในประเทศจะได้อานิสงค์เชิงบวกต่อการเก็งกำไร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มธนาคาร / กลุ่มอสังหาฯ / กลุ่ม ICT
•แต่หาก GDP ใน 3Q57 ขยายตัวในอัตราเร่งขึ้นจาก 2Q57 ย่อมเป็นการยืนยันต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัว และมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้นใน 4Q57
MBKET ประเมินว่า หากเกิดในกรณีนี้ ความเชื่อมั่นของนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ จะกลับมาเป็นบวก และพร้อมกระจายเงินลงทุนเข้าสู่หุ้นหลักของตลาดหุ้นไทย
จะเห็นได้ว่า ไม่ว่าจะเกิดกรณีที่ดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจ หรือ กรณีที่ออกมาส่งสัญญาณเชิงลบ เราเชื่อว่าเงินทุนจากสถาบันทั้งในและต่างประเทศ รอทยอยสะสมหุ้นหลักของตลาดหุ้นไทย ผลักดันให้ SET INDEX ไต่ระดับขึ้นทดสอบ 1,600 จุด และให้น้ำหนักที่จะทะลุแนวดังกล่าวได้ภายในสิ้นปีนี้
ดังนั้นแผนการลงทุนในรอบนี้ เราแนะนำให้นักลงทุน อาจรอขายทำกำไรในหุ้นที่เก็งกำไรต่อผลการดำเนินงาน 3Q57 และปรับพอร์ต เข้าหาหุ้น Big Cap เพื่อดักกระแสเงินทุนทั้งจากสถาบันภายในประเทศ และนักลงทุนต่างชาติ เน้นหุ้น Big Cap ในกลุ่ม ธนาคาร, กลุ่ม ICT, กลุ่มอสังหาฯ
ปัจจัยสำคัญวันนี้
1.MSCI ปรับสมาชิกในรอบนี้ : โดยมีผลบังคับใช้ ณ ราคาปิดวันที่ 25 พ.ย.นี้
•ดัชนี MSCI Thailand:
i.เพิ่ม: DELTA / EA / TUF
ii.ออก: ไม่มี
•ดัชนี MSCI Global Small Cap
i.เพิ่ม: AIRA / EFORL / ICHI / KTIS / PCS / SAWAD / SUPER
ii.ออก: CENTEL / DELTA / DRT / EA / MCOT / M / PS/ TFD
2.เช้านี้ติดตาม GDP ใน 3Q57 ของไทย: Bloomberg consensus คาดการณ์ +1.5% qoq และ 1.0% yoy ทั้งนี้มีแนวโน้มที่ตัวเลขจะออกมาต่ำกว่าคาด หลัง ผู้ว่าการ ธปท. ส่งสัญญาณ
3.เศรษฐกิจญี่ปุ่นใน 3Q57 หดตัวสวนทางกับคาดการณ์ของตลาด: ส่งผลให้เช้านี้ตลาดหุ้น Nikkei เปิดลบกว่า 1.0% ทั้งนี้เป็นผลจากการขึ้นภาษี VAT ของรัฐบาลในเดือนเม.ย. ทำให้เกิดโอกาสที่รัฐบาลภายใต้การนำของนายกฯ Abe ตัดสินใจยุบสภา เพื่อเปิดให้มีการเลือกตั้งในเดือนธ.ค.
วานนี้ วันก่อนหน้า
PER14 PER15 PER14 PER15
SET INDEX 16.45 14.04 16.49 14.09
PSE 20.36 17.61 20.29 17.55
JSE 16.60 14.18 16.57 14.15
KOSPI 12.87 10.58 12.86 10.48
TAIEX 14.15 13.03 14.14 13.02
Straits Time 14.46 13.38 14.41 13.34
SHCOMP 10.12 9.01 10.14 9.03
ที่มา: Bloomberg
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ “ทยอยสะสม” ได้แก่
1.KTB : ราคาปิด 23.20 บาท ราคาเหมาะสม 27.00 บาท
a)MBKET คาด KTB จะได้รับอานิสงค์เชิงบวกต่อการแถลงแผนลงทุนระยะ 10 ปี มูลค่า 3 ล้านล้านบาทของกระทรวงคมนาคม ต่อการประชุมครม. วันพรุ่งนี้ พร้อมกับการเสนอร่าง MoU โครงการรถไฟรางคู่ ระหว่างรัฐบาลไทย และ จีน จำนวน 3 เส้นทาง ซึ่ง KTB มีแนวโน้มที่จะได้ประโยชน์ทางตรงจากประเด็นดังกล่าว
b)ทิศทางสินเชื่อ 4Q57 เติบโตสูง และคาดว่าจะทำใกล้เคียงกับเป้าหมายทั้งปีของผู้บริหารที่ 6-8% (9M57 เติบโต +6.3% YTD) จากแรงหนุนของการปล่อยสินเชื่อให้กับโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐฯ เนื่องจากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณเป็นเป้าหมายสำคัญของรัฐบาลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
c)คาดกำไรสุทธิปี 2558 เติบโต +12.9% yoy เป็น 38,054 ล้านบาท และมี Valuation ที่ยังไม่สูงมากนัก โดยซื้อขายระดับ PBV 2558 ที่ 1.3 เท่า ต่ำกว่าธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ เช่น KBANK 1.87x, SCB 1.93x และ BAY 1.99x
d)ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์โดยคาดว่าจะจ่ายเงินปันผลปี 2557 หุ้นละ 1.00 บาท คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผล 4.31% และโดดเด่นกว่าธนาคารใหญ่ในกลุ่มเนื่องจาก KTB จ่ายเงินปันผลปีละ 1 ครั้ง ขณะที่ธนาคารใหญ่ที่เหลือได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 1H57 แล้วส่วนนึง
และ “เก็งกำไร”
2.VGI: ราคาปิด 12.00 บาท ราคาเหมาะสม 20.80 บาท
a)The Nielsen รายงานตัวเลขอุตสาหกรรมโฆษณา เดือน ต.ค. กลับเข้าสู่ทิศทางขยายตัว +3.2% mom และสื่อนอกบ้าน (Out of Home Media) ฟื้นตัวโดดเด่นกว่าอุตสาหกรรม โดยเพิ่มขึ้น +7.3% mom
b)MBKET ประเมินว่าเป็นบวกต่อ VGI เนื่องจากเป็นผู้นำธุรกิจสื่อนอกบ้าน ทั้ง สื่อในระบบขนส่ง, สื่อในห้าง และ สื่อกลางแจ้ง ดังนั้น การขยายตัวของเม็ดเงินโฆษณาคาดว่าจะส่งผลบวกโดยตรงต่อผลประกอบการของบริษัท และส่งผลให้ราคาหุ้นฟื้นตัว
c)และการเซ็นสัญญาบริหารพื้นที่โฆษณา Non Sale Floor กับ Tesco Lotus จะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ มี.ค. 2558 เชื่อว่าจะส่งผลให้ตลาดคลายกังวลหลัง Tesco Lotus ไม่ต่อสัญญาพื้นที่โฆษณา Sale Floor กับ VGI เนื่องจากรายได้การบริหารพื้นที่โฆษณาระหว่าง Non Sale Floor กับ Sale Floor ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก
d)ราคาหุ้น VGI มี Downside Risk ที่ค่อนข้างจำกัด หลังปรับตัวลง -13.3% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา เทียบกับ BEC +5.3%, MCOT -5.3%, MAJOR +7.6% และกลุ่มสื่อ +0.4%
e)คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2558/2559 เติบโต 29.9% yoy เป็น 1,872 ล้านบาท และกำไรเติบโตเฉลี่ย 3 ปีข้างหน้า (CAGR) สูงถึงปีละ 29% ผลักดันให้ ROE เพิ่มขึ้นจาก 64% ในปี 2557/2558 เป็น 73% ในปี 2559/2560 และเป็นหุ้นที่มี ROE สูงที่สุดในกลุ่ม Media
What will DJIA move tonight? คืนนี้มีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญได้แก่ ดัชนี Empire state ภาคการผลิต, ผลผลิตภาคอุตฯ
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
เงินทุนต่างชาติวานนี้กลับมาขายสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 14 วันทำการ US$177 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$292 ล้าน
ตลาดหุ้น วานนี้(US$ ล้าน) วันก่อนหน้า(US$ ล้าน) YTD(US$ ล้าน) 2556(US$ ล้าน)
TAIEX 83.8 140.1 12,810.9 9,188.0
KOSPI -236.1 119.7 5,831.8 4,875.1
JSE -18.7 12.3 4,211.2 -1,806.4
PSE 2.5 12.1 788.8 678.4
ตลาดหุ้นเวียดนาม -10.6 -5.1 162.4 263.2
SET INDEX 2.2 12.6 -416.0 -6,210.5
Foreign Investors Action วานนี้
กระแสเงินทุนต่างชาติชะลอตัว
วานนี้ วันก่อนหน้า
ตลาดหุ้น (ล้านบาท) +73 +412
SET50 Index Futures (สัญญา) -1,911 -4,177
SSF (สัญญา) +203 +203
Metal Futures (สัญญา) +169 +169
ตลาดตราสารหนี้ (ล้านบาท) -707 +590
นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 อีกเล็กน้อย 73 ล้านบาท รวม 3 วันทำการซื้อสุทธิ 990 ล้านบาท ทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิลดลงเล็กน้อย เหลือ 15,195 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Short สุทธิเป็นวันที่ 2 อีก 1,911 สัญญา รวม 2 วันทำการ Short สุทธิ 6,088 สัญญา คาดว่าปิดสถานะ Long เพื่อทำกำไร เมื่อ S50Z14 ปิดสูงกว่า SET50 Index เป็นวันที่ 11 อีก 2.53 จุด จากวันก่อนหน้า Premium กว้างถึง 3.91 จุด
ขณะที่ตลาดตราสารหนี้ไทย นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมาขายสุทธิเล็กน้อย 707 ล้านบาท ส่งผลให้ราคาพันธบัตรรัฐบาลไทย ลดลงเป็นวันที่ 2 โดยผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 2 อีก 1.47bps ปิดที่ 3.039%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling เท่ากับ 490 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 469 ล้านบาท
Stock Total Value(mn Bt) % of trading Volume Avg.Price(Bt)
PTT 158.71 8.62% 389.85
PTTEP 60.22 7.79% 143.71
ITD 49.25 2.85% 6.26
KBANK 32.74 5.84% 237.27
LH 30.66 22.76% 9.83
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิ เป็นวันที่ 13 กลับมาเน้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์อีกครั้ง
การซื้อขายผ่าน NVDR วานนี้ซื้อสุทธิอีก 344 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 532 ล้านบาท รวม 13 วันทำการซื้อสุทธิ 14,286 ล้านบาท เน้นสะสมกลุ่มธนาคาร ภาพการลงทุน NVDR สรุปได้ดังต่อไปนี้
1.กลุ่มปิโตรเคมี ถูกซื้อสุทธิสูงสุด 168 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มพลังงาน ซื้อสุทธิ 155 ล้านบาท กลุ่มไฟแนนซ์ ซื้อสุทธิ 117 ล้านบาท และกลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ ซื้อสุทธิ 113 ล้านบาท
2.ด้านกลุ่ม ICT ถูกขายสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 2 อีก 210 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มธนาคาร ขายสุทธิ 134 ล้านบาท กลุ่มขนส่ง ขายสุทธิ 133 ล้านบาท และกลุ่มอสังหาฯ ขายสุทธิ 80 ล้านบาท
ซื้อสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการซื้อขาย ขายสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการขาย
BBL 195.66 28.11 SCB -250.18 22.15
PTTGC 168.38 31.54 ADVANC -167.03 31.90
SAWAD 123.53 11.40 BTS -87.77 10.80
BEC 107.54 48.20 JAS -81.44 7.15
INTUCH 85.14 35.18 LH -50.23 22.18
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA
Strategist / Analyst
662-6586300 x 1440
Padon Vannarat
Equity Analyst
662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham
Assistant Analyst
662-6586300 x 1530
Twitter Channel
http://twitter.com/YipNgenYipTong