- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 28 October 2021 23:12
- Hits: 10071
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 28-10-2021
AT THE OPEN (#ATO)
S T R A T E G Y R E P O R T / 28 ตุลาคม 2564
INVESTMENT STRATEGY
Sideways :
ราคาพลังงานปรับตัวลง
วันนี้คาด SET แกว่ง Sideways ในกรอบแนวรับ 1,620 จุด และแนวต้าน 1,640 จุด เน้นหุ้นที่แนวโน้มกำไรดี โดย ATO Picks แนะนำ “COM7, NER”
COM7
แม้ 3Q64 จะโดนผลกระทบจากการปิดเมือง แต่คาดกำไรยังอยู่ที่ 501 ล้านบาท (+35%YoY, -15%QoQ) จากยอดขาย Pop-up store นอกห้าง และช่องทาง Online ที่ดี ส่วนกำไร 4Q64 คาดฟื้นแรง +40%QoQ กลับมาทำจุดสูดสุดใหม่รายไตรมาส จากกระแส iPhone13 ที่แข็งแกร่ง
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 82 บาท
NER
คาดกำไร 3Q64 โดดเด่นที่ 441 ล้านบาท (+0.6% QoQ +189.7% YoY) จากปริมาณขายผลิตภัณฑ์ยางแปรรูปคาด 1.25 แสนตัน (+7.6% QoQ +17.6% YoY) และปีหน้าจะได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากธุรกิจปลายน้ำ “แผ่นรองนอนวัว” ขณะที่ปัจจุบันเทรด PE ปี 65 ที่เพียง 6.8 เท่า
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 9.0 บาท
INVESTMENT THEME
สต๊อกน้ำมันสหรัฐฯแย่กว่าคาด : เมื่อคืนที่ผ่านมาราคาน้ำมันดิบโลกชะลอตัวลง โดย WTI –2.4% ลงสู่ระดับ 82.6 เหรียญต่อบาร์เรล ตอบรับสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯรายสัปดาห์ปรับตัวเพิ่มขึ้น +4.26 ล้านบาร์เรล ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดไว้ที่ +1.52 ล้านบาร์เรล ส่วนด้านสต๊อกน้ำมันกลั่น ลดลง -4 แสนบาร์เรล น้อยกว่าคาดที่ประเมินจะลดลงมากถึง -2.1 ล้านบาร์เรล ส่วนด้านสต๊อกน้ำมันดิบเบนซิน ปรับลดลง -1.99 ล้านบาร์เรล ใกล้เคียงคาด โดยรวมบ่งชี้ว่าความต้องการในตลาดน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมาต่ำกว่าที่ตลาดประเมินไว้ ซึ่งอาจสร้างแรงกดดันเพิ่มเติมต่อหุ้นในกลุ่มพลังงานได้ ดังนั้นในระยะสั้นยังคงแนะนำหลีกเลี่ยงการเก็งกำไรกลุ่มพลังงาน
ผันผวนตามผลประกอบการ และประชุมธนาคารกลาง : ทิศทางการลงทุนในระยะสั้นตลาดอาจยังคงผันผวนตามการรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยรอสะสมหุ้นที่แนวโน้มกำไร 3Q64 อ่อนแอ แต่มีแนวโน้มฟื้นตัวดีในช่วงถัดไป ส่วนปัจจัยต่างประเทศแนะติดตามการประชุมธนาคารกลาง โดยวันนี้จะมีการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) แนะติดตามการผ่อนคลายนโยบายกระตุ้นต่างๆ เช่น โครงการซื้อสินทรัพย์ PEPP ของ ECB รวมทั้งจับตาถ้อยแถลงเกี่ยวกับทิศทางเงินเฟ้อ และภาพเศรษฐกิจในช่วงถัดไป
MARKET SUMMARY
วานนี้ SET ย่อตัว ตลาดหุ้นไทยยังคงขาดปัจจัยหนุนใหม่ ส่งผลให้มีแรงขายทำกำไรต่อเนื่อง โดย SET ปิดที่ 1,627.61 (-8.36 จุด) มูลค่าการซื้อขาย 6.9 หมื่นล้านบาท (เทียบกับวันก่อนหน้า 7.9 หมื่นล้านบาท)
โดยนักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทย 2,428 ลบ. (นักลงทุนสถาบันขาย 253 ลบ. ส่วนตลาด TFEX นักลงทุนต่างชาติเปิด Short Futures ที่ 16,402 สัญญา)
EYES ON
28 ต.ค. ประชุม ECB, BOJ, ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ US, GDP 3Q64 ของ US
29 ต.ค. รายงานเศรษฐกิจไทยรายเดือนจาก ธปท., ดัชนี Core PCE ของ US, GDP 3Q64 ของยูโรโซน
Com7 PCL (COM7)
ภาพของหุ้นเติบโตยังชัดเจน
BUY
Share Price THB 72.75
12 m Price Target THB 82.00 (+15%)
Previous Price Target THB 82.00
ประเด็นการลงทุน
เราให้น้ำหนักกับแนวโน้มกำไร 4Q64 ที่จะทำสถิติใหม่ (All time high) มากกว่าภาพระยะสั้นใน 3Q64 ที่มีการปิดสาขา การเติบโตใน 1-2 ปีข้างหน้ายังชัดเจนและไม่น้อยกว่า 20% ต่อปี จากการเกิดขึ้นของเทคโนโลยีใหม่ต่อเนื่องตาม megatrend ของโลก ควบคู่กับกลยุทธ์เติบโตที่เพิ่มส่วนแบ่งตลาด และขยายอัตรากำไรไปพร้อมกัน ทำให้ COM7 ยังคงความเป็นหุ้น Growth stock ที่แข็งแรงไว้ได้ เราคงคำแนะนำ ซื้อ ประเมินราคาเหมาะสมปี 2565 ที่ 82.00 บ./หุ้น อิง DCF (WACC 6.2%) เทียบเท่า P/E 35x ณ ค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี +2SD
คาดกำไร 3Q64 เท่ากับ 501 ลบ. -15%QoQ,+35%YoY
คาดรายได้การขายเท่ากับ 10,000 ลบ. -13%QoQ,+11%YoY ได้รับผลกระทบจากการปิดสาขาไปราว 2 เดือน แต่การขยาย Pop-up store นอกห้าง และผ่านช่องทาง Online ที่ผู้บริโภคเริ่มคุ้นชินทำให้ผลกระทบที่จำกัดลง ขณะ GPM ทรงตัวในระดับสูงเทียบ QoQ เท่ากับ 13.5% ด้วยอุปสงค์ที่แข็งแรงในช่วงสินค้ามีจำกัด ทำให้ราคาขายยืนสูงและมีส่วนลดน้อย เช่นเดียวกับ Product mix ที่ดีจากอุปกรณ์เสริม แม้ว่า SG&A/Sale ปรับขึ้นจากบริการขนส่งและการประหยัดต่อขนาดที่ลดลง %NPM ลดลงเล็กน้อย 8bps แต่สามารถยืนระดับ 5% ได้เป็นไตรมาสที่สอง หนุน 9M64 มีกำไรคิดเป็น 72% ของประมาณการทั้งปี 2,311 ลบ. +55%YoY
4Q64 คาดทำจุดสูงสุดใหม่ และต่อเนื่องไปยังปี 2565-66
แนวโน้มกำไร 4Q64 แนวโน้มเห็นการฟื้นตัวแรง +35-40%QoQ และกลับมาทำสถิติสูงสุดใหม่รายไตรมาส รับอานิสงส์ iPhone 13 และสินค้าอื่นๆจาก Apple ที่กระแสตอบรับสูงและเปิดตัวได้เร็วกว่าปีก่อน ทั้งนี้เราเชื่อว่าการเติบโตของกำไรจะดำเนินต่อไปในปี 2565-66 ไม่น้อยกว่า +20%YoY มาจาก i) การขยายสาขาจาก 1,000 สาขา เป็น 1,500 สาขาในระยะยาวทั้งในรูปแบบสาขาตนเอง(ในห้าง,Standalone) และพันธมิตร (BIGC,True shop) เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาดจาก 15% เป็น 20-25% ii) อุปสงค์สินค้า IT โดยเฉพาะ Gaming ,Cryptocurrency สินค้า PC,NB เป็นที่ต้องการและรอการส่งมอบ รวมถึงสินค้า IoTs,5G iii) การขยายธุรกิจในสินค้าหมวดอื่น เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ผ่านสาขาของ ILM ,ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) เป็นต้น
Metaverse อาจจะเป็น New S-Curve ใหม่
Facebook ได้ประกาศแผนลงทุนเพื่อเปลี่ยนแปลงจากบริษัท Social media สู่การผสานโลก Digital และโลกจริงเข้าไว้ด้วยกัน ผ่านเทคโนโลยี AR/VR ผ่านอุปกรณ์อย่างแว่นตา หรือริสแบนด์ โดยในอนาคตคาดว่าจะมีหลายบริษัทระดับโลกเริ่มพัฒนาสินค้าและบริการตามมาในภายหลัง (รวมถึง Xiaomi,Apple) เรามองเป็นโอกาสของ COM7 ที่เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีก IT จะได้ประโยชน์จากการเข้าสู่ S-Curve ของกำไรรอบใหม่ที่จะเริ่มต้นในปี 2565 ถัดจากสมาร์ทโฟนที่ชะลอลง ทำให้ราคาหุ้นยังรักษา P/E สูงกว่า 30 เท่า ณ กรอบบนกลุ่มค้าปลีกได้ต่อเนื่อง
Thanatphat Suksrichavalit
(66) 2658 5000 ext 1401
Synnex (Thailand) (SYNEX)
รอเรื่องตื่นเต้นใหม่ในปีหน้า
HOLD
Share Price THB 24.70
12 m Price Target THB 25.40 (+5%)
Previous Price Target THB 25.40
ประเด็นการลงทุน
การเติบโตของกำไรใน 3Q-4Q64 ยังคงอยู่ในกรอบปีนี้ที่เราประเมินไว้ +27%YoY แม้การเติบโตจากธุรกิจเดิมอาจลดลงเหลือ +6-10% ในปีหน้า แต่เรายังไม่รวม Upside risk จากความคืบหน้า 3 ประเด็น (New brand - House brand – VC ) ที่จะเป็นส่วนเพิ่มของประมาณการกำไร และมูลค่าของบริษัทที่จะมี premium ที่สูงขึ้นกว่าธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้า IT เดิม รอติดตามความชัดเจนที่จะเกิดในปี 2565 แนะนำ ถือ ราคาเหมาะสม 25.40 บาท อิง P/E 25 เท่า
คาดกำไรสุทธิ 3Q64 184 ลบ. -13%QoQ ,+8%YoY
ประเมินรายได้ 8,150 ลบ. -3%QoQ,+10%YoY เป็นไปตามความต้องการสินค้า IT ที่ยังอยู่ในระดับสูง แม้ลูกค้าจะได้รับผลกระทบระหว่างปิดเมืองและปัจจัยฤดูกาล ขณะ %GPM อ่อนตัวเล็กน้อยที่ 4.5% ตาม Product mix อ่อนลงชั่วคราว เนื่องจากสินค้าใหม่ขาดการเปิดตัว สัดส่วน SG&A/Sale ยังใกล้เคียงไตรมาสก่อน ทำให้ %NPM อยู่ที่ 2.3% -26bps vs QOQ
ติดตามธุรกิจใหม่เป็น Upside risk ต่อประมาณการ
คาด 9M64 กำไร 570 ลบ. คิดเป็น 70% ของประมาณการกำไรปีนี้ ซึ่งในช่วงโค้งสุดท้าย 4Q64 ยังมีโอกาสสูงที่ทำได้ตามเป้า เนื่องจากการเปิดตัวสินค้าใหม่ของ Apple (iPhone,iPad) ที่ปัจจุบันเป็นสัดส่วนอันดับหนึ่งของยอดขาย มีการเปิดตัวและได้รับกระแสตอบรับดีอย่างมาก
อย่างไรก็ดีการเติบโตข้างหน้าของ SYNEX มาจาก 3 ประเด็น คือ i) การได้เป็นพันธมิตรกับ Suppliers แบรนด์ใหม่ๆหลัง SYNNEX Corp (NYSE) เข้าควบกิจการกับ Tech Data ii) การเปิดตัวสินค้าแบรนด์ตนเอง (House brand) 3 สินค้าหลักได้แก่ อุปกรณ์เสริมมือถือ , ต่อพ่วงเกมมิ่ง ,คอมพิวเตอร์ ซึ่งทั้งหมดมี GPM สูงกว่าค่าเฉลี่ยบริษัทในปัจจุบัน 4.4-4.7% โดยจะมีการเปิดตัวใน 4Q64 iii) จัดตั้ง บ.ย่อย ซินเน็ค อินคิวท์เบชั่น ตั้งงบ 100 ลบ. เพื่อลงทุนใน startup ที่มีศักยภาพ ล่าสุดได้เข้าลงทุนใน SWOPMART เพื่อพัฒนา platform สำหรับซื้อ-ขายสินค้า IT มือสอง เป็นการร่วมลงทุนกับ SCB10X (คาดมีสัดส่วน 60:40) แม้ในช่วงแรกอาจมีผลขาดทุนและใช้เงินสดเพื่อเติบโต แต่หากจำนวนผู้ใช้เร่งตัวขึ้น จะทำให้ถึงจุดคุ้มทุนได้เร็ว
คงคำแนะนำ ถือ บนราคาเหมาะสม 25.40 บาท
การปรับโมเดลธุรกิจเข้าสู่ธุรกิจที่มีมูลค่ามากขึ้น (High value added) จึงสมควรที่ราคาหุ้นจะทยอยถูก re-rate P/E ขึ้นจากเดิม เราประเมินราคาเหมาะสมปี 65 เท่ากับ 25.40 บาท อิง P/E 25 เท่า ณ ค่าเฉลี่ย +3SD ปัจจุบันราคาหุ้นได้ปรับขึ้นมาสะท้อนประเด็นดังกล่าวไปแล้ว นักลงทุนจึงควรรอติดตามความสำเร็จ ซึ่งจะสะท้อนโอกาสการปรับเป้ากำไร ไปพร้อมกับราคาหุ้นที่ควรซื้อขายในระดับ P/E ที่สูงขึ้น (premium) เพื่อสะท้อนมูลค่าโดยเฉพาะ Startup ในมือ
Thanatphat Suksrichavalit
(66) 2658 5000 ext 1401
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ