- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 13 September 2021 18:43
- Hits: 1285
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 13-9-2021
AT THE OPEN (#ATO)
S T R A T E G Y R E P O R T / 13 กันยายน 2564
INVESTMENT STRATEGY
ฟื้นตัว :
จับตาการเปิดเมืองเพิ่มเติม
วันนี้คาด SET ฟื้นตัว ในกรอบแนวรับ 1,630 จุด และแนวต้าน 1,650 จุด เน้นหุ้นที่อิงการเปิดเมือง โดย ATO Picks แนะนำ “AOT, CENTEL”
AOT
พัฒนาการที่ดีขึ้นสะท้อนจากตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศที่ชะลอตัว ผสานการฉีดวัคซีนและการจัดหาวัคซีนที่เดินหน้าต่อเนื่อง ถือเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนการเดินหน้าสู่การเปิดประเทศในระยะถัดไป 5 จังหวัด เป็นบวกต่อแนวโน้มนักท่องเที่ยวในช่วงถัดไป และบวกโดยตรงต่อธุรกิจสนามบิน
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 72 บาท
CENTEL
การคลายล็อกดาวน์บางส่วน ส่งผลให้เกิด Pent-up demand ในธุรกิจร้านอาหารปรับตัวสูงขึ้น ผสานกับโอกาสในการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวภายใน จากมาตรการกระตุ้น “เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3” ซึ่งจะเริ่ม 1 ตค. นี้ เป็นอีกแรงหนุนต่อการฟื้นตัวของผลประกอบการ CENTEL
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 35 บาท
INVESTMENT THEME
จับตาการเปิดเมืองเพิ่มเติม
ดัชนีราคาผู้ผลิตเร่งขึ้น หนุนการลด QE : วันศุกร์ที่ผ่านมาสหรัฐฯรายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนสิงหาคมขยายตัว +0.7%MoM ดีกว่าคาด +0.6%MoM สะท้อนเศรษฐกิจสหรัฐฯยังคงมีทิศทางการเติบโตที่แข็งแกร่งต่อเนื่อง ส่งผลให้ตลาดกลับมากังวลเกี่ยวกับการปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) มากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับถ้อยแถลงล่าสุดของนางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐสาขาคลีฟแลนด์ ในวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งสนับสนุนให้ FED เริ่มปรับลดวงเงิน QE ในปีนี้
จับตาการเปิดเมืองเพิ่มเติม : แม้ว่าศบค.ชุดใหญ่ยังคงมีมติให้คง พ.ร.ก ฉุกเฉิน เช่นเดิม โดยยังคงห้ามออกนอกเคสถานตั้งแต่เวลา 21.00-04.00 น. ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (พื้นที่สีแดงเข้ม) จำนวน 29 จังหวัด แต่อย่างไรก็ดีจากแนวโน้มตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ดีขึ้น ผสานกับการฉีดวัคซีนและการจัดหาวัคซีนที่เดินหน้าต่อเนื่องคาดจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญนำไปสู่แผนการเปิดพื้นที่ระยะที่ 2 อีก 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ ชลบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และเชียงใหม่ หลังจากนำร่องระยะที่ 1 ในรูปแบบแซนด์บ็อกซ์ ได้แก่ ภูเก็ต พังงา กระบี่ และสุราษฎร์ธานี ไปแล้ว ได้ผลตอบรับที่ดี ดังนั้นคาดจะเป็นปัจจัยบวกหลักต่อหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว และการบริโภคในประเทศ เช่น AOT, CENTEL, CPN เป็นต้น
MARKET SUMMARY
วันศุกร์ที่ผ่านมา SET ย่อก่อนฟื้นตัว ได้แรงหนุนภาคบ่ายจากการที่ผู้นำจีนและสหรัฐฯได้มีการหารือกัน โดย SET ปิดที่ 1,635.35 (+6.23 จุด) มูลค่าการซื้อขาย 92 หมื่นล้านบาท (เทียบกับวันก่อนหน้า 91 หมื่นล้านบาท)
โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทย 716 ลบ. (นักลงทุนสถาบันซื้อ 209 ลบ. ส่วนตลาด TFEX นักลงทุนต่างชาติเปิด Short Futures ที่ 3,737 สัญญา)
EYES ON
14 ก.ย. ดัชนี CPI ของ US
15 ก.ย. ดัชนี Empire Manufacturing, ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม US, สต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ US
16 ก.ย. ยอดค้าปลีกของ US, ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ US
17 ก.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค US, ดัชนี CPI ของยูโรโซน, การปรับ FTSE Rebalancing
Diamond Building (DRT)
Covid-19 กระทบจำกัด ปีนี้จะเติบโต
BUY
Share Price THB 7.30
12 m Price Target THB 8.00 (+10%)
Previous Price Target THB 8.00
ประเด็นการลงทุน
Covid-19 กระทบผลประกอบการ 3Q64 ไม่รุนแรง คาดกำไรจะประคองตัวใกล้เคียงปีก่อน แต่จะลงจากไตรมาส 2Q64 จากผลของฤดูกาล การคลายล็อกดาวน์จะทำให้ แนวโน้ม 4Q64 ดีขึ้น รวมปี 2564 จะเติบโตตามเป้าประมาณ 5% ผลของการซื้อหุ้นคืน จะทำให้กำไรต่อหุ้นเติบโตได้ดี 13% หุ้นปันผลดี คาดปีนี้จะปันผลเพิ่มเป็น 0.48 บาท คิดเป็นอัตราเงินปันผลตอบแทน 6.5% คงแนะนำ ซื้อลงทุน เป้าหมาย 8 บาท
Covid-19 กระทบผลประกอบการ 3Q64 ไม่รุนแรง
DRT ได้จัดงานบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุนในช่วงปลายสัปดาห์ก่อน ผู้บริหารระบุการแพร่ระบาดของ Covid-19 มีการปิดแคมป์คนงาน และ ไซต์งานก่อสร้างในเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา รวมถึงมีการล็อกดาวน์ ปิดโมเดิร์นเทรดบางสาขา ได้ส่งผลกระทบต่อยอดขายของ DRT ในส่วนลูกค้าโครงการ (สัดส่วน9%) และ โมเดิร์นเทรด(สัดส่วน16%) บ้าง แต่ไม่มากนัก ผู้บริหารประเมินยอดขาย 3Q64 จะใกล้เคียงปีก่อน แต่จะอ่อนตัวลงจากไตรมาสก่อน จากผลของฤดูกาลเข้าสู่ช่วงหน้าฝนซึ่งปกติจะเป็นช่วงโลซีซั่น ดังนั้น แนวโน้มผลประกอบการ 3Q64 เราประเมินจะประคองตัวมีกำไรที่ใกล้เคียงปีก่อน 111 ล้านบาท แต่จะต่ำกว่าไตรมาส 2Q64 ที่มีกำไร 179 ล้านบาท
ผู้บริหารคงเป้าหมายปีนี้จะเติบโต 5%
ปีนี้ผู้บริหารคงเป้าหมายยอดขายจะเติบโต 5% อัตรากำไรขั้นต้นระหว่าง 27%-29% หลังครึ่งปีแรกเติบโตมากกว่าเป้า คือ มียอดขายโต 8% และ มีกำไรสุทธิ 374 ล้านบาท โต 7% แรงหนุน ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์สามารถนำไปก่อสร้างบ้านได้ทั้งหลัง และช่องทางการจำหน่ายทั้ง 4 ช่องทางมีการเติโต คือ โครงการ โมเดิร์นเทรด เอเย่นต์ และ ส่งออก ส่วนการปรับขึ้นของต้นทุนวัตถุดิบ เช่นเยื้อกระดาษ จะกระทบต่ออัตรากำไรขั้นต้นบ้าง แต่สามารถบริหารจัดการได้ และ มีการปรับขึ้นสินค้าบางรายการ เราประเมินยอดขายปี 2564 เท่ากับ 4,565 ล้านบาท เติบโต 4% และ มีกำไร 569 ล้านบาท เติบโตเล็กน้อย 2% แต่ผลของการซื้อหุ้นคืนทำให้จำนวนหุ้นลดลง 10% จะทำให้กำไรต่อหุ้นเติบโตได้ดี 13% ประมาณการของเราค่อนข้างอนุรักษ์นิยมเพราะกำไรครึ่งปีแรกจะคิดเป็น 66% ของประมาณการทั้งปี
หุ้นปันผลดี คาดจ่ายปีนี้เพิ่มเป็น 0.48 บาท
ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขาย P/E ปีนี้ต่ำ 11 เท่า และ เป็นหุ้นที่มีการจ่ายปันผลดี จำนวนหุ้นลดลงทำให้กำไรต่อหุ้นเติบโตดี DRT ได้จ่ายปันผลกำไรครึ่งปีแรกเพิ่มเป็น 0.22 บาท ปีนี้คาดจะปันผลเพิ่มเป็น 0.48 บาท คิดเป็น อัตราเงินปันผลตอบแทน 6.5% เราประเมินราคาเป้าหมาย 8 บาท ให้เท่ากับค่าเฉลี่ย Forward PE 10 ปีเท่ากับ 12.5 เท่า คงแนะนำ ซื้อลงทุนรับปันผล
ความเสี่ยง : ต้นทุนวัตถุดิบและพลังงาน , ประเด็นเรื่องใยหินจะห้ามในอนาคต
Surachai Pramualcharoenkit
(66) 2658 6300 ext 1470
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ