- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 09 September 2021 12:21
- Hits: 8214
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 9-9-2021
AT THE OPEN (#ATO)
S T R A T E G Y R E P O R T / 9 กันยายน 2564
INVESTMENT STRATEGY
Sideways :
เกาะติดประชุม ECB
วันนี้คาด SET แกว่ง Sideways ในกรอบแนวรับ 1,630 จุด และแนวต้าน 1,650 จุด เน้นหุ้นที่แนวโน้มกำไรเด่น โดย ATO Picks แนะนำ “GLOBAL, BCH”
GLOBAL
คาดกำไร 3Q64 เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ YoY จากยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ในช่วง ก.ค.-ส.ค. ที่คาดเติบโต 14-15% รวมถึงอัตรากำไรขั้นต้นที่คาดเพิ่มขึ้นราว 150 bps และคาดผลประกอบการ 4Q64 มีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่องจากการคลายล็อกดาวน์ หนุนกำลังซื้อกลับมาเพิ่มขึ้น
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 27 บาท
BCH
แม้ว่าระยะสั้นตัวเลขการติดเชื้อของไทยจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับสูง เช่นเดียวกับการตรวจหาเชื้อที่ยังค่อนข้างมากเช่นกัน ดังนั้นคาดรายได้ที่เกี่ยวเนื่องกับ COVID จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญหนุนกำไร 3Q64 จะเติบโตทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 25 บาท
INVESTMENT THEME
เกาะติดประชุม ECB
จับตาประชุม ECB : ประเด็นสำคัญวันนี้แนะติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) โดยคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายทั้งดอกเบี้ยเงินฝากที่ -0.5%, ดอกเบี้ยเงินกู้ที่ 0.25% และดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ 0.0% แต่อย่างไรก็ดีในส่วนของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอาจเห็นโอกาสของการปรับลดลงวงเงินกระตุ้นได้ หลังอัตราเงินเฟ้อยูโรโซน รวมถึงภาคการผลิตมีการขยายตัวเด่นในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งหากมีการลดมาตรการกระตุ้นจริง อาจส่งผลให้ค่าเงินยูโรมีโอกาสแข็งค่าในระยะสั้นได้เช่นกัน
ตลาดหุ้นไทยยังแกว่งรอปัจจัยใหม่ : SET ในระยะสั้นยังมีหลายปัจจัยที่อาจเข้ามากระทบ เช่น การตัดสินใจของธนาคารกลางทั้ง ECB (วันนี้) และ FED (21-22 ก.ย.) ซึ่งหากมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายต่างๆ คาดจะส่งผลกระทบต่อค่าเงินบาทผันผวนได้ รวมถึงปัจจัยในประเทศที่ต้องจับตาการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ในวันศุกร์นี้ ที่อาจพิจารณายกเลิกพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 30 ก.ย.นี้ โดยอาจกลับไปใช้พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ค. 2558 แทน อีกทั้งยังต้องติดตามสถานการณ์ COVID-19 ในประเทศหลังการคลายล็อกดาวน์ ว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อจะกลับมาเพิ่มขึ้นหรือไม่
MARKET SUMMARY
วานนี้ SET ย่อก่อนฟื้นตัว โดยมีแรงขายทำกำไรระยะสั้น สลับกับแรงซื้อในหุ้นส่งออกหลังค่าเงินบาทอ่อนค่า โดย SET ปิดที่ 1,640.45 (+4.00 จุด) มูลค่าการซื้อขาย 90 หมื่นล้านบาท (เทียบกับวันก่อนหน้า 102 แสนล้านบาท)
โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทย 7,513 ลบ. (นักลงทุนสถาบันขาย 2,589 ลบ. ส่วนตลาด TFEX นักลงทุนต่างชาติเปิด Short Futures ที่ 4,755
EYES ON
9 ก.ย. การประชุม ECB, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทย, ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ US, สต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของ US
Nawarat Patanakarn (NWR)
Backlogสูง แต่ปีนี้จะขาดทุน
HOLD
Share Price THB 1.03
12 m Price Target THB 1.00 (-3%)
Previous Price Target THB 1.20
ประเด็นการลงทุน
2Q64 ขาดทุนหนัก จากต้นทุนก่อสร้างที่มากกว่าประมาณการ ปีนี้จะขาดทุนถูกกระทบจาก Covid-19 มีการปิดไซต์งานก่อสร้าง NWR ประมูลได้งานโครงการขนาดใหญ่ต่อเนื่อง ทำให้ Backlog ทำสถิติสูงสุดใหม่ 4 หมื่นล้านบาท หนุนปีหน้าจะโตสูง และฟื้นตัวมีกำไร เราปรับประมาณการลดลง ทำให้ราคาเป้าหมายซึ่งเท่ากับมูลค่าตามบัญชีลดลงจาก 1.20 บาท เหลือ 1 บาท ราคาหุ้นปัจจุบันได้ทรุดลงมาบริเวณราคาเป้าหมาย เราจึงเพิ่มเกรดเป็น ถือ จากเดิม ขาย
2Q64 พลิกมาขาดทุนหนัก
NWR มีผลประกอบการ 2Q64 ที่ขาดทุนหนักถึง 612 ล้านบาท เทียบกับที่มีกำไร 52 ล้านบาทในไตรมาสก่อน และ มีกำไร 37 ล้านบาทในปีก่อน เนื่องจากไตรมาสนี้มีการปรับต้นทุนโครงการก่อสร้างเพิ่มขึ้น จากความล่าช้าของโครงการ มีการแก้ไขแบบก่อสร้าง และ ผลจากราคาวัสดุก่อสร้างโดยเฉพาะเหล็กปรับขึ้น รวมถึง การแพร่ระบาดของ Covid-19 ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นติดลบถึง -16.4% เทียบกับบวก 8.9% ในไตรมาสก่อน และบวก 11.3% ในปีก่อน และ ทำให้ยอดรับรู้รายได้ชะลอตัวเหลือ 2,518 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อน 15%QoQ แต่ยังโตจากปีก่อน 6%
ได้งานใหม่ต่อเนื่อง หนุน Backlog ทำสถิติสูงสุดใหม่
ปีนี้ NWR ได้งานใหม่ต่อเนื่องจากปีก่อน ตั้งแต่ต้นปีได้งานใหม่แล้ว 14,279 ล้านบาท ปีนี้ตั้งเป้าหมายจะได้งานใหม่ 16,000 ล้านบาท ปัจจุบันมีงานที่กำลังติดตาม 34,099 ล้านบาท ทำให้ปัจจุบัน NWR มี Backlog ที่สูงถึง 40,781 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดใหม่ สามารถรองรับรายได้ถึง 3-4 ปี ด้านรายได้ปี 2564 ผู้บริหารปรับลดเป้าหมายลงเหลือประมาณ 10,500-11,000 ล้านบาท เติบโต 7%-12% จากเป้าหมายเดิม 12,000-13,000 ล้านบาท ซึ่งเติบโต 20%-30% เนื่องจากการแพร่ระบาดของ Covid-19 มีการปิดแคมป์คนงาน และ ไซต์งานก่อสร้าง แต่ปี 2565 จะเติบโตสูงมากกว่า 20%
3Q64จะยังขาดทุนต่อ แต่4Q64จะดีขึ้น ปรับประมาณการลง
การเปิดแคมป์คนงานและไซต์งานก่อสร้างนเดือน ก.ค. กระทบงานก่อสร้างประมาณ 50% ส่วนเดือน ส.ค. สามารถกลับมาก่อสร้างได้มากขึ้น แต่จากมาตรการคุมเข้มทำไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ เราคาดผลประกอบการไตรมาส 3Q64 จะขาดทุนต่อ แต่จะขาดทุนน้อยลง แต่ 4Q64 คาดจะมี่การเร่งงานมากขึ้น ทำให้ผลประกอบการคาดจะฟื้นตัวกลับมามีกำไร แต่รวมปีนี้จะขาดทุนหนัก เราปรับประมาณการลดลง คาดรายได้รวมปีนี้ 10,515 ล้านบาท โต 7% แต่ผลประกอบการจะขาดทุนหนัก 549 ล้านบาท ส่วนปีหน้าจาก Backlog ที่สูงจะหนุนรายได้เติบโตสูง 26% สู่ระดับ 13,255 ล้านบาท และ คาดจะฟื้นตัวมีกำไรเท่ากับ 136 ล้านบาท
ความเสี่ยง : อุปสรรคในการก่อสร้าง ต้นทุนวัสดุก่อสร้าง ปัญหาแรงงาน งานล่าช้า
Surachai Pramualcharoenkit
(66) 2658 6300 ext 1470
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ