WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 18-8-2021May

AT THE OPEN (#ATO)

S T R A T E G Y   R E P O R T / 18 สิงหาคม 2564

INVESTMENT STRATEGY

ผันผวน :

ท่ามกลางปัจจัยบวกสลับลบ

วันนี้คาด SET แกว่งผันผวน ในกรอบแนวรับ 1,530 จุด และแนวต้าน 1,555 จุด เน้นหุ้นปรับคาดการณ์กำไรขึ้น โดย ATO Picks แนะนำ “WICE, SAT”

WICE

ปรับราคาเหมาะสมปี 2564 ขึ้น 31% เป็น 15.45 บาท/ หุ้น อิง P/E 25 เท่า หลังการประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ทำให้เรามั่นใจว่าจะเห็นกำไรสุทธิรายไตรมาสสูงสุดเป็นสถิติใหม่ครั้งที่ 7 ติดต่อกันใน 3Q64 จากการเข้าสู่ช่วง High Season และความต้องการเพิ่มมากขึ้นหลังศรษฐกิจทั่วโลกฟื้นตัว

เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 15.45 บาท

SAT

คำสั่งซื้อของลูกค้าค่ายรถยนต์ยังเติบโตดีคาดยอดขาย ใน 3Q64 จะดีกว่า 2Q64 นอกจากนี้ได้รับคำสั่งซื้อใหม่เพลาข้างไปสหรัฐฯเข้ามาเสริม เราจึงปรับประมาณยอดขายและกำไรปี นี้เพิ่มขึ้น 4% และ 7% ตามลำดับ ดังนั้นคาดยอดขายปี 64 จะ +43% และกำไรโต 178% ทำสถิติสูงสุดใหม่

เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 25.5 บาท

INVESTMENT THEME

ผันผวนท่ามกลางปัจจัยบวกสลับลบ

ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯผสมผสาน : เมื่อคืนที่ผ่านมา สหรัฐฯรายงานตัวเลขยอดค้าปลีกประจำเดือนกรกฎาคม ลดลง -1.1% จากเดือนก่อนหน้าที่ +0.6% และแย่กว่าคาดที่ -0.3% แต่ทางด้านตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือนกรกฎาคม ขยายตัว +0.9%MoM จาก +0.4%MoM ในเดือนมิถุนายน และดีกว่าคาดที่ +0.5%MoM โดยสรุปสหรัฐฯรายงานตัวเลขออกมาค่อนข้างผสมผสาน ซึ่งคงต้องติดตามตัวเลขอื่นๆอย่างใกล้ชิด เนื่องจากจะมีผลต่อการตัดสินใจปรับลด QE ในช่วงถัดไป

กังวลเดลต้ามากขึ้น : การแพร่ระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์เดลต้า ที่แพร่กระจายเป็นวงกว้างในสหรัฐฯมากขึ้น เริ่มเป็นปัจจัยที่เพิ่มความกังวลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯในระยะสั้น กดดันตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้ย่อตัว -0.8% รวมถึงราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปิดหลุดระดับ 70 เหรียญต่อบาร์เรล

คาดวัคซีนไฟเซอร์ 30 ล้านโดส ช่วง 4Q64 : ครม.เห็นชอบโครงการจัดหาวัคซีนไฟเซอร์เพิ่มอีก 20 ล้านโดส โดยอนุมัติกรอบวงเงินราว 9,372 ล้านบาท มีกำหนดส่งมอบช่วง 4Q64 (ปลายกันยายน-ต้นตุลาคม) อีกทั้งยังจะจัดซื้อวัคซีนไฟเซอร์อีก 10 ล้านโดส รวมเป็นทั้งสิ้น 30 ล้านโดส ประเด็นนี้คาดจะเพิ่มจิตวิทยาบวกต่อสถานการณ์ COVID-19 ในประเทศในระยะกลางมีความหวังมากขึ้น แต่ในระยะสั้นยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

MAKET SUMMARY

วานนี้ SET ฟื้นตัว โดยมีแรงหนุนจากความคาดหวังบวกหลัง ครม. อนุมัติการซื้อวัคซีนไฟเซอร์ ส่งมอบ 4Q64 โดย SET ปิดที่ 1,544.22 (+12.98 จุด) มูลค่าการซื้อขาย 8.3 หมื่นล้านบาท (เทียบกับวันก่อนหน้า 7.7 หมื่นล้านบาท)

โดยนักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทย 1,066 ลบ. (นักลงทุนสถาบันซื้อ 3,091 ลบ. ส่วนตลาด TFEX นักลงทุนต่างชาติเปิด Long Futures ที่ 4,757 สัญญา)

EYES ON

18 ส.ค. ยอดสร้างบ้านใหม่ US, FED Minutes, ดัชนี CPI ของยูโรโซน

19 ส.ค. ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ US

Indorama Ventures (IVL TB)

ปิดดีล HVA อีกราย

BUY

Share Price               THB 42.00

12 m Price Target     THB 56.00 (+33%)

Previous Price Target THB 56.00

ดีล Oxiteno ผ่านฉลุย ไม่ต้องเพิ่มทุน

IVL ประกาศเข้าซื้อกิจการ Oxiteno ผู้ผลิตสารลดแรงตึงผิวรายใหญ่ที่สุดในละตินอเมริกา มูลค่า 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยจะใช้แหล่งเงินทุนจากการยืดระยะเวลาการชำระบางส่วนและใช้เงินสดส่วนเกิน ซึ่งน่าจะลดความกังวลของตลาดได้เนื่องจากการเพิ่มทุนยังคงไม่แน่นอน IVL จะชำระเงินรอการตัดบัญชีจำนวน 150 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2567 โดย D/E สุทธิในไตรมาส 1/65 จะเพิ่มขึ้นเป็น 1.4 เท่า การประชุมนักวิเคราะห์เป็นไปในเชิงบวก เนื่องจาก IVL 1) สร้างพอร์ตโฟลิโอ HVA ที่แข็งแกร่งขึ้น 2) ใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมที่แข็งแกร่งของ Oxiteno และการวิจัยและพัฒนา 3) ขยายขอบเขตการเข้าถึงทางภูมิศาสตร์ 4) การทำงานร่วมกันที่เป็นไปได้ 5) Oxiteno ทำคะแนนได้สูงกว่าในตัวชี้วัดความยั่งยืนส่วนใหญ่ 6) ข้อตกลงคือการเพิ่มรายได้ เราประเมินการเข้าซื้อกิจการ EV/ EBITDA ที่ปรับปรุงแล้ว (2563) ที่ 8.6 เท่า และ 10.3 เท่า (2561-63) อยู่ในกรอบที่ยอมรับได้เนื่องจากเป็นธุรกิจ HVA อย่างไรก็ตาม เรายังคงระมัดระวังเนื่องจากความผันผวนใน EBITDA ของ Oxiteno อาจเป็นเรื่องที่น่ากังวล คงแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมายที่ 56 บาท (EV/EBITDA ปี 64 ที่ 10.5 เท่า)

ผนึกกำลัง – สหรัฐฯ เป็นเป้าหมายที่ทำได้ก่อน

ผู้บริหารประเมิน synergy มูลค่า 30 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 66 และ 100 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 68 การผนึกกำลัง 30 ล้านเหรียญสหรัฐจะได้รับแรงหนุนจากการหยุดซ่อมบำรุงตามแผนในธุรกิจปลายน้ำในสหรัฐอเมริกา (EOD) ของ Oxiteno ซึ่งรายงาน EBITDA ที่ -15 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 63 โดย Oxiteno เข้าสู่สหรัฐอเมริกาเมื่อ 2 ปีที่แล้วและมีแหล่งผลิต 4 แห่ง (โครงการกรีนฟิลด์) IVL จะสนับสนุนการดำเนินงานของ Oxiteno ในสหรัฐอเมริกา โดย 1) จัดหาวัตถุดิบ EO ให้กับ Oxiteno (ปัจจุบันไม่ใช่ลูกค้า) โดยใช้ประโยชน์จากห่วงโซ่อุปทานแบบบูรณาการ 2) เปรียบเทียบ Oxiteno กับการดำเนินงานของ IVL 3) ใช้ประโยชน์จากฐานลูกค้าเพื่อผลักดันผลิตภัณฑ์ของ Oxiteno ลดความเหลื่อมล้ำทางภูมิศาสตร์ คือ อเมริกาเหนือ (NA) อเมริกาใต้ (SA) ยุโรปและจีน มีโอกาสที่จะขายสินค้าได้ทั้ง NA และ SA

เราเห็นการเปลี่ยนแปลงใน DNA ของ IVL หรือไม่?

ตั้งแต่ปี 2540 IVL ได้ควบรวมกิจการมากกว่า 60 ดีล IVL เชี่ยวชาญในธุรกิจสินค้าโภคภัณฑ์ ปริมาณมาก ซึ่งประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงกระบวนการผลิต พอร์ตโฟลิโอ HVA ของ IVL กำลังเติบโต แต่ยังต้องพิสูจน์ต่อไป ธุรกิจ Fibers ได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่สูงเกินไป แต่เริ่มเห็นกำไรดีขึ้นในโครงการ Olympus ศักยภาพมูลค่าเต็มของ Huntsman (M&A ปี 63) ยังไม่เกิดขึ้นเนื่องจากการหยุดชะงักที่คาดไม่ถึงในปี 63/1H64 ทั้งนี้ การผลักดัน rPET ของ IVL ประสบความสำเร็จ การผสมผสานระหว่างโมเดลธุรกิจที่มีปริมาณมากและแบบบูรณาการของ IVL กับการมุ่งเน้นลูกค้าและนวัตกรรมของ Oxiteno อาจมีประสิทธิภาพหากประสบความสำเร็จ ตลาดจะติดตามการพัฒนาอย่างใกล้ชิด

ความผันผวนของ Oxiteno EBITDA เป็นเรื่องที่น่ากังวล

EBITDA ในอดีตของ Oxiteno มีความผันผวน (กราฟที่ 7) เนื่องจากขาดทุนจากการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน รายได้และต้นทุนผันแปรของ Oxiteno เชื่อมโยงกับ USD ในขณะที่ต้นทุนคงที่อยู่ในสกุลเงินเรียลบราซิล แม้เมื่อ USD ปรับขึ้น เราสังเกตว่า EBITDA มีความผันผวนสูงซึ่งอาจเห็นการแกว่งของกำไรสุทธิ อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงนี้เป็นการเพิ่มรายได้และคาดว่าจะเพิ่ม EBITDA ที่ 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 12% ของประมาณการปี 65 ของเรา

Kaushal Ladha, CFA, CESGA

[email protected]

(66) 2658 5000 ext 1392  

Somboon Advance Technology (SAT)

2Q64 ชะลอตัว 3Q64&2564 จะเติบโต

BUY

Share Price               THB 21.30

12 m Price Target     THB 25.50 (+20%)

Previous Price Target THB 24.00

ประเด็นการลงทุน

กำไร 2Q64 ชะลอตัว 237 ล้านบาท (-26%QoQ) หลังจากไตรมาสแรกทำสถิติสูงสุดใหม่   ปัจจุบันแม้ว่าไทยจะเผชิญกับการแพร่ระบาดของ Covid-19 อย่างหนัก แต่คำสั่งซื้อของลูกค้ายังสูง จากอุตสาหกรรมรถยนต์มีการส่งออกที่เติบโตสูง ทำให้ ปี 2564 ผู้บริหารคงเป้าหมายยอดผลิตรถยนต์ 1.65-1.7 ล้านคัน โต 15-20% ยอดขาย SAT จะโตกว่าอุตสาหกรรมจากได้รับคำสั่งซื้อใหม่เข้ามา เราปรับประมาณการขึ้นอีก คาดกำไรปกติ 1,030 ล้านบาท โต 178% ทำสถิติสูงใหม่ เราปรับราคาเป้าหมายขึ้น 25.5 บาท จาก 24 บาท บนฐาน ค่าเฉลี่ย10 ปี Forward P/E เท่ากับ 10.5 เท่า คงแนะนำ ซื้อ    

ผลประกอบการ 2Q64 ชะลอตัว

SAT ประกาศผลประกอบการ 2Q64 มีกำไรที่ชะลอตัวลงเหลือ 237 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อน -26%QoQ ซึ่งทำสถิติสูงสุด 321 ล้านบาท แต่ดีขึ้นจากปีก่อนที่ขาดทุน 143 ล้านบาท ผลประกอบการตามทิศทางยอดขายซึ่งเท่ากับ 2,041 ล้านบาท (-8%QoQ, +171%YoY) ดีกว่าอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ยอดผลิตรถยนต์เท่ากับ 378,768 คัน (-19%QoQ, +148%YoY) เนื่องจากได้รับคำสั่งซื้อใหม่ และ ส่วนรถเทรกเตอร์ก็โตดีเพิ่มขึ้น 127% และ อัตรากำไรขั้นต้นชะลอตัวลงเหลือ 19.4% จาก 21.1% ในไตรมาสก่อน จากการใช้กำลังการผลิตที่ลดลง แต่ดีขึ้นจากปีก่อนที่ติดลบ -5.4%

ผู้บริหารคงเป้าผลิตรถ 1.65-1.7 ล้านคัน SAT จะโตดีกว่าอุตสาหกรรม

แม้ว่าไทยจะเผชิญกับการแพร่ระบาดของ Covid-19 อย่างหนัก กระทบตลาดรถยนต์ในประเทศ แต่ตลาดส่งออกรถยนต์ไทยยังแข็งแกร่ง คำสั่งซื้อของลูกค้าค่ายรถยนต์ยังสูง ทำให้ผู้บริหารยังคงเป้าหมายผลิตรถยนต์ในปีนี้ 1.65-1.7 ล้านคัน หรือ โต 15-20% โดย SAT จะโตได้ดีกว่าอุตสาหกรรมรถยนต์ เพราะ ได้รับคำสั่งซื้อใหม่ประมาณ 300 ล้านบาท และ ลูกค้า Kubota ที่เติบโตดี แต่ราคาเหล็กที่ปรับขึ้น ผู้บริหารประเมินอัตรากำไรขั้นต้นในครึงปีหลังจะลดลงจากครึ่งปีแรก แต่ SAT ก็สามารถทยอยปรับราคาขายเพื่อสะท้อนราคาเหล็กที่ปรับขึ้นได้ชดเชยในภายหลัง

ไตรมาส3Q64จะดีขึ้นจาก2Q64 ปรับประมาณการขึ้นอีก

จากคำสั่งซื้อของลูกค้าค่ายรถยนต์ปัจจุบันที่ยังดีผู้บริหารประเมินยอดขายของ SAT ใน 3Q64 จะดีกว่า 2Q64 และ จากผลประกอบการครึ่งปีแรก ยอดขายและกำไร คิดเป็นสัดส่วนถึง 53% และ 57% ตามลำดับ ของประมาณการทั้งปี บวกปี 2564 จะได้รับคำสั่งซื้อใหม่เพลาข้างไปสหรัฐฯเข้ามาเสริม เราปรับประมาณยอดขายและกำไรปี 2564 เพิ่มขึ้น 4% และ 7% ตามลำดับ คาดปี 2564 ยอดขายจะฟื้นตัว 8,380 ล้านบาท โต 43% และ มีกำไรเท่ากับ 1,030 ล้านบาท โต 178% ทำสถิติสูงสุดใหม่

ความเสี่ยง : ภาวะอุตสาหกรรมรถยนต์ทั้งในและต่างประเทศ / ต้นทุนวัตถุดิบ

Surachai Pramualcharoenkit

[email protected]

(66) 2658 6300 ext 1470

Wice Logistics (WICE)

จ่อทำสถิติใหม่อีกครั้ง

BUY

Share Price               THB 12.90

12 m Price Target     THB 15.45 (+20%)

Previous Price Target THB 11.80

คำชี้แจงสำคัญ : บมจ.หลักทรัพย์เมย์แบงก์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) อาจมีธุรรมร่วมกับ บมจ.ไวส์ โลจิสติกส์ (WICE)

ประเด็นการลงทุน

เราปรับราคาเหมาะสมปี 2564 ขึ้น 31% เป็น 15.45 บาท/ หุ้น อิง P/E 25 เท่า หลังการประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ทำให้เรามั่นใจว่าจะเห็นกำไรสุทธิรายไตรมาสสูงสุดเป็นสถิติใหม่ครั้งที่ 7 ติดต่อกันใน 3Q64 นี้ โดยเป้ารายได้ใหม่ของผู้บริหารยังคงเป็นเป้าที่อนุรักษ์นิยมแต่สามารถทะลุได้เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” ตามเดิม

พร้อมทำสถิติใหม่ เป็นไตรมาสที่ 7 แล้ว

หลัง WICE มีกำไรสุทธิสูงสุดเป็นสถิติใหม่ครั้งที่ 6 ที่ 111 ลบ. +37.2% QoQ และ +101.3% YoY สูงกว่าคาด 21% พร้อมขยายอัตรากำไรขั้นต้นสู่ 17.7% เพิ่ม +280bps จากปีก่อน พร้อมๆกับการเข้าสู่ฤดูกาลส่งออกของไทย และพื้นที่ต่างๆในเอเชียที่ WICE ไปลงหลักปักฐานไว้ (จีน ฮ่องกง สิงคโปร์) ขณะที่กลางปี WICE มีการขยายการให้บริการ Cross boarder +17% เป็น 1,400 ตู้/ เดือน และ มีพื้นที่คลังสินค้าเพิ่ม +66% โดยคลังสินค้าใหม่แห่งที่ 3 เช่นเดียวกับอัตราค่าระวางทุกประเภททรงตัวในระดับสูง เหล่านี้จึงทำให้มีโอกาสสูงที่ WICE จะทำสถิติใหม่ครั้งที่ 7 ติดต่อกันได้ใน 3Q64 ผู้บริหารจึงปรับเป้ารายได้จากเดิม 4.8 (+20%) เป็น 5.8 พัน ลบ. +45% YoY ปีนี้ และเป้าอัตรากำไรสุทธิจาก 6.0% เป็น 7.0%

เป้าใหม่ +45% YoY ของ ผบห. ยังคงเป็นเป้าอนุรักษ์นิยมอีกแล้ว

เรามองว่าเป้ารายได้ 5.8 พัน ลบ. ต่ำเกินไปเมื่อเทียบกับศักยภาพบริษัท และสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศที่คึกคัก เนื่องจาก 1H64 บริษัททำรายได้ 2.98 พัน ลบ. เกินครึ่งทางของเป้าไปแล้ว ซึ่ง ผบห. ก็ยอมรับในการประชุมนักวิเคราะห์ว่า เป้าใหม่นี้มีโอกาสทะลุได้ โดยเรามองว่าเป้าที่อนุรักษ์นิยมนี้ได้กลายเป็นวัฒนธรรมของบริษัทไปแล้ว ซึ่ง WICE เองก็ทำได้เกินเป้าตนเองทุกครั้ง เราจึงปรับปรุงสมมติฐานรายได้ขึ้น 16% เป็น 6.1 พัน ลบ. +49% YoY ส่วน NPM อยู่ที่ 6.6% ได้กำไรสุทธิ 403 ลบ. +100.0% YoY ปรับเพิ่มขึ้นมา +4.6%

ปรับราคาเหมาะสมขึ้น 31% สะท้อนเป็น PEG เพียง 0.25 เท่า

จากการที่บริษัทแสดงผลกำไรที่ดีสม่ำเสมอ ดีกว่าคาด มีการขยายการให้บริการอย่างต่อเนื่อง และโดยเฉพาะการยกระดับอัตรากำไรขึ้นมาระดับสูงได้ ทำให้เรามีความมั่นใจว่าทิศทางใน 2H64 ยังคงสดใสมาก เราจึงปรับปรุงราคาเหมาะสมขึ้นจากเดิม 31% เป็น 15.45 บาท/ หุ้น ซึ่งนอกจากจะมาจากการปรับประมาณการกำไรแล้ว เราได้ยก P/E เป้าหมายปี 2564 ขึ้นจาก 20 เป็น 25 เท่า (ค่าเฉลี่ย 4 ปีย้อนหลัง) สะท้อนเป็น PEG เป้าหมายเพียง 0.25 เท่า

Jaroonpan Wattanawong

[email protected]

(66) 2658 6300 ext 1404

COREHOON

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

 

EXIM One 720x90 C J

BITKUB Ad

SAM720x100px bgGC 790x90

smed banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!