- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 12 November 2014 17:09
- Hits: 1690
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market View : ผันผวนในกรอบ
Technical : แนวรับ 1,563 / 1,550 แนวต้าน : 1,574 / 1,586
หุ้นแนะนำพิเศษ : CK
หุ้นเด่นรายวัน : PERM SPALI
วานนี้ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวนในกรอบแคบ โดยนลท.ยังมีความกังวลต่อการออกมาตรการสกัดหุ้นร้อน ส่งผลให้ภาวะตลาดเป็นการเก็งกำไรแบบ selective stock ที่มีประเด็นข่าวรายตัว ก่อนที่ SET จะปิดที่ 1,571.20 +3.86 จุด Volume 5.8 หมื่นลบ Foreign Net sell 527 ลบ. แต่ Net Long TFEX 5.1พันสัญญา
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
ภาวะตลาดหุ้นไทยช่วงนี้ยังคงขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุน ประกอบกับมีแรงขายลดความกังวลต่อการออกมาตรการสกัดหุ้นร้อน ทำให้บรรยากาศการลงทุนไม่สดใสมากนัก ดังนั้นคาดว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,560 – 1,580 จุด โดยคาดว่านักลงทุนจะเข้าเก็งกำไรในหุ้นที่มีประเด็นข่าวเฉพาะตัว ทั้งนี้หาก SET ผิดทางหลุดแนวรับสำคัญ 1,560 จุดลงมาควรพิจารณา stop loos
กลยุทธ์
แนะนำให้สะสมหุ้นที่คาดว่างบ Q3/14 เติบโต เช่น TUF CK RML และหุ้นที่คาดว่าจะเข้า SET 50 รอบใหม่ CK KTIS SPALI HEMRAJ (ประกาศกลางเดือนธ.ค.)
หุ้นแนะนำพิเศษ
CK ราคาปิด 26.50 บาท ราคาพื้นฐาน consensus ที่ 34 บาท
คาดงบออก 14 พ.ย. consensus คาดกำไร Q3/14F ที่ 1,200 ลบ. เติบโตขึ้นทั้ง YoY และ QoQ จากงานรฟฟ.สายสีม่วงสัญญา 1 และไชยะบุรี รวมถึงมีกำไรพิเศษจากการขายหุ้น BMCL ราว 1 พันลบ. (ก่อน tax) และมีเงินปันผลรับราว 330 ลบ.
ปัจจุบันมี Backlog ในมือสูงถึง 9.85 หมื่นลบ. รองรับงานในอนาคตได้อีก 3 ปี
Q4/14 เตรียมบุ๊กกำไรพิเศษขายหุ้น CKP ราว160 ลบ.
หุ้นเด่นรายวัน
PERM (ปิด 3.22 ซื้อเก็งกำไร) กำไรครึ่งปีแรก 57 ที่ 56 ล้านบาท (มากกว่าทั้งปี 56 ที่ 4 ล้านบาท), คาดโรงงานใหม่บ.ร่วม"เต๋อหลงฯ" แล้วเสร็จเม.ย. 58
มุมมองด้านเทคนิค - แนวรับ 3.18 แนวต้าน 3.40 , 3.60 จุด cut loss 3.10 กราฟสร้างฐานและกำลังโค้งตัวขึ้นเป็น U shape โดยราคายืนเกาะเส้น EMA 10 วันได้ต่อเนื่อง พร้อมทั้ง RSI + MACD ชี้ขึ้นเป็นสัญญาณซื้อ
SPALI (ราคาปิด 25.75 ซื้อ เป้าหมาย 32.20) Q3/57 มีกำไร 1,580 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 351%yoy และ 198%qoq กำไร 9M57 เท่ากับ 2,851 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 154% ดีกว่าคาดไว้ที่ 1.3 พันล้านบาท ส่วน 4Q57 มีแนวโน้มดีต่อเนื่องจากงานในมือรอโอนในระดับสูงและมีโอกาสทำสถิตินิวไฮรายไตรมาส ล่าสุดมีโครงการร่วมทุนกับบริษัทอสังหาในออสเตรเลียพัฒนาโครงการ
รายชื่อหลักทรัพย์ที่ติดเกณฑ์บัญชี Cash Balance
* MLINK มีผลบังคับใช้ 22 ก.ย. – 14 พ.ย. 57
*AJD / BGT / CEI / CGD / DNA / MILL / PE / PRECHA / TH / THANA / TPOLY มีผลบังคับใช้ 6 ต.ค. - 14 พ.ย. 57
* COLOR / SMART / EVER / RICH / SUPER / SOLAR / CWT / TMI / FVC มีผลบังคับใช้ 13 ต.ค. - 21 พ.ย. 57
* ACD / CIG / EMC / FOCUS / GENCO / NIPPON / SST / TAKUNI / TIES มีผลบังคับใช้ 20 ต.ค. - 28 พ.ย. 57
* BSM / PCA / SANKO / SVOA / TFI / WIN มีผลบังคับใช้ 27 ต.ค. - 4 ธ.ค. 57
* ABC / CCN / CSS / EVER / GENCO-W1 / KC / LOXLEY-W / RCI / RPC / WAT มีผลบังคับใช้ 3 พ.ย. – 12 ธ.ค. 57
* AEC/ AEC-W2 / CGD-W3 / CHOW / CKP / GEL-W4 / LIVE / MILL-W2 / PAE / PLE-W2 / RWI SPA / TEAM / TSE มีผลบังคับใช้ 10 พ.ย. - 19 ธ.ค. 57
***เนื่องจากการลงทุนในหลักทรัพย์ ดังกล่าวมีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาดดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : เพิ่มขึ้น 1.16 จุด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,614.90 จุด เพิ่มขึ้น 1.16 จุด หรือ +0.01% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,660.56 จุด เพิ่มขึ้น 8.94 จุด หรือ +0.19% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,039.68 จุด เพิ่มขึ้น 1.42 จุด หรือ +0.07% ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดที่มีการเปิดเผยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยนั้น สหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติของสหรัฐ (NFIB) เปิดเผยว่า ความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดเล็กของสหรัฐปรับตัวขึ้นในเดือนต.ค. จากมุมมองที่เป็นบวกเกี่ยวกับการจ้างงาน การใช้จ่ายด้านทุน และยอดขาย
ตลาดน้ำมัน NYMEX : เพิ่มขึ้น 0.54 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 54 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 77.94 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 67 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 81.67 ดอลลาร์/บาร์เรล นักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงเมื่อวันจันทร์ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาดูกลุ่มโอเปคจะจัดการประชุมในวันที่ 27 พ.ย.ที่กรุงเวียนา ประเทศออสเตรีย นายอาลี อัล-โอมาร์ รมว.พลังงานของคูเวตคาดการณ์ว่า โอเปคอาจจะยังไม่ปรับลดเพดานการผลิตในการประชุมครั้งนี้ ส่วนในช่วงก่อนหน้านี้ กลุ่มโอเปคคาดการณ์ว่า ความต้องการน้ำมันดิบจากกลุ่มโอเปคอาจจะลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 14 ปีที่ 28.2 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2560
Analyst :
วิลาสินี บุญมาสูงทรง
ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์
ชัยยศ จิวางกูร