- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 12 November 2014 17:00
- Hits: 1680
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
คาด SET ยังมีสิทธิแกว่งผันผวนและปรับพักตัวอีก...รอซื้อลบดีกว่า!!
กลยุทธ์ : FSS ยังคาดว่า SET มีโอกาสที่จะแกว่งพักตัวลงต่อเนื่องได้อีก ดังนั้นจึงยังไม่แนะนำให้รีบร้อนซื้อในลักษณะไล่ราคาช่วงบวก แต่แนะนำให้เป็นการรอดูจังหวะ SET ลบแล้วค่อยทยอยเข้าซื้อน่าจะดีกว่า เพราะตลาดยังมีความเสี่ยงจากการแกว่งตัวผันผวนและยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลงต่อได้ โดยกลุ่มที่น่าสนใจในการเลือกหุ้นเพื่อทยอยซื้อสะสม ได้แก่ กลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ โรงแรม ค้าปลีก โรงพยาบาล ยานยนต์ แบงก์ รับเหมาก่อสร้าง กลุ่มประกันชีวิต รวมทั้งสายการบินต้นทุนต่ำ เป็นต้น
หุ้นเด่นทางเทคนิค : DEMCO, RCL , BJCHI(buy back)
แนวโน้ม : ถึงแม้ว่าเมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐจะยังขยับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง หลังนักลงทุนยังมีมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐ โดยล่าสุดตัวเลขความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดเล็กของสหรัฐยังปรับตัวขึ้นได้ดีในเดือน ต.ค. และผลประกอบการของบริษัทเอกชนที่ยังออกมาแข็งแกร่งเกินคาดช่วยสนับสนุน แต่ก็เริ่มมีลักษณะแกว่งผันผวนในกรอบจำกัด ส่วนตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ยังเปิดมาอย่างไร้ทิศทาง ยกเว้นตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่ขยับขึ้นได้แรง ขณะที่เมื่อวานนี้แม้ว่า SET จะเริ่มแกว่งทรงตัวได้บ้างหลังปรับตัวลงแรงวันก่อน แต่แรงซื้อที่มีเข้ามาก็ยังถือว่าไม่ได้หนักแน่นนัก ทำให้ FSS คาดว่า SET ยังมีโอกาสที่จะปรับตัวลงต่อเนื่องได้อีก ดังนั้นเราจึงยังแนะนำให้รอเลือกหุ้น เพื่อทยอยเข้าซื้อในช่วงตลาดเป็นลบน่าจะปลอดภัยกว่า โดยคาดว่านักลงทุนบางส่วนยังรอติดตามผลประกอบการของบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ในสหรัฐช่วงค่ำวันนี้(12 พ.ย.) รวมทั้งตัวเลขค้าปลีกเดือน ต.ค.ในวันศุกร์ด้วย
แนวรับ 1567-1563 , 1560-1557 จุด แนวต้าน 1573-1576 , 1578-1582 จุด
Fund Flow วานนี้ยังไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคต่อเนื่องเป็นวันที่ 12 ในปริมาณที่เบาบาง โดยนักลงทุนซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไต้หวัน US$190 ล้าน เกาหลใต้ US$115.2 ล้าน อินโดนีเซีย US$76.8 ล้าน ฟิลิปปินส์ US$22.5 ล้าน แต่ขายตลาดหุ้นไทย US$16.1 ล้าน และเวียนดนาม US$0.2 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้ค่อนข้างนิ่ง Flow น่าจะยังไหลเข้าแต่เบาบาง
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(-) ค่าเงินสกุลเอเชียอ่อนค่าอีกครั้งจากแรงกดดันนอกประเทศ กระแสคาดการณ์ว่าญี่ปุ่นอาจชะลอแผนการขึ้นภาษี VAT ซึ่งมีกำหนดจะปรับขึ้นเป็น 10% (ปัจจุบัน 8%) ต.ค. ปีหน้า ออกไปก่อนเพราะเศรษฐกิจได้รับผลกระทบมากกว่าที่คาดหลังปรับขึ้น VAT เมื่อ เม.ย. 2014 ที่ผ่านมา คาดการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ค่าเงินเยนอ่อนค่าที่สุดในรอบ 7 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ค่าเงินบาทในระยะสั้นจึงมีแนวโน้มอ่อนค่าในทิศทางเดียวกัน
(+) KCE รายได้และกำไร 3Q14 ทำจุดสูงสุดใหม่ตามที่เราคาด โดยกำไรสุทธิ +28% Q-Q, +86% Y-Y ส่วนกำไรปกติ +12% Q-Q, +57% Y-Y แนวโน้ม 4Q14 จะชะลอลงตามฤดูกาล เรายังคงประมาณการกำไรปกติปี 2014-15 เติบโต 74% Y-Y และ 11% Y-Y ตามลำดับ คงราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 48 บาท (PE 14 เท่า) คงคำแนะนำซื้อ
(+) M กำไรฟื้นตามคาด +30% Q-Q, -1% Y-Y ส่วนกำไรปกติ +5% Q-Q, +7% Y-Y จากยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ฟื้นต่อเนื่องจาก -5.7% Y-Y ใน 2Q14 เหลือเพียง -1% Y-Y เราคาด SSSG ใน 4Q14 จะพลิกเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 7 ไตรมาส จากฐานต่ำในปีก่อนและสถานการณ์การบริโภคเริ่มดีขึ้น เราคงกำไรปกติปี 2014-15 เติบโต 7% Y-Y และ 19% Y-Y ตามลำดับ คงเป้าหมายปี 2015 ที่ 74 บาท คงคำแนะนำซื้อ
(+) GFPT กำไรสุทธิ 3Q14 ใกล้เคียงคาด +5% Q-Q เพราะเป็น high season ของไก่ส่งออก แต่ลดลง 17% Y-Y เพราะวัตถุดิบ (ข้าวโพดและกากถั่วเหลือง) แพงขึ้น เราคงกำไรสุทธิปี 2014-15 โต 24% Y-Y และ 12% Y-Y ตามลำดับ คงเป้าหมายปี 2015 ที่ 22 บาท ปรับคำแนะนำขึ้นเป็นซื้อ จากถือ เพราะราคาหุ้นปรับลงจนมี upside กว้างขึ้น
(+) ERW ขาดทุนมากกว่าคาดเล็กน้อย โดยขาดทุนจากการดำเนินงานปกติ 91 ล้านบาท ลดลงจาก 2Q14 ที่ขาดทุน 133 ล้านบาท เราคาดผลประกอบการจะพลิกเป็นกำไรใน 4Q14-1Q15 เพราะเป็น High Season เราปรับประมาณการปี 2014 ลงจากขาดทุนจากการดำเนินงาน 125 ล้านบาท เป็นขาดทุน 161 ล้านบาท แต่คงประมาณการปี 2015 ที่คาดเป็นกำไรปกติ 277 ล้านบาท คงเป้าหมายปี 2015 ที่ 5.70 บาท คงคำแนะนำซื้อ
(0) BANPU มีกำไรสุทธิเพียง 131 ล้านบาท -81% ทั้ง Q-Q และ Y-Y จากรายการพิเศษที่เป็นขาดทุนรวม 1.1 พันล้านบาท หากตัดรายการดังกล่าวออก กำไรปกติเป็น 1,267 ล้านบาท +111% Q-Q, +7% Y-Y จากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น ชดเชยราคาถ่านหินที่ลดลงได้ แนวโน้ม 4Q14 ชะลอเพราะเหมืองออสเตรเลียหยุดและโรงไฟฟ้า BLCP หยุดซ่อม เราปรับกำไรปีนี้ลง 17% แต่คงกำไรปี 2015 คงเป้าหมายปี 2015 ที่ 29.50 บาท ปรับคำแนะนำขึ้นเป็นถือ จากขายเพราะราคาหุ้นปรับลงจน upside กว้างขึ้น
(-) BEC กำไร 3Q14 -8% Q-Q, -22% Y-Y ใกล้เคียงคาด จากต้นทุนทีวีดิจิตอล 3 ช่องที่รับรู้เต็มไตรมาสเป็นไตรมาสแรก คงคำแนะนำขาย ราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 43 บาท
ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในระดับใกล้เคียงเดิมแต่ยังทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้ต่อเนื่อง โดยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่ที่ออกมาดียังเป็นปัจจัยหนุนตลาด
ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในแดนบวกได้เช่นกันท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนระหว่างวัน โดยได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้น Vodafone
ส่วนตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ยังปรับตัวในแดนบวกแต่กรอบการบวกไม่ได้กว้างนักหลังตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดบวกเพียงแคบๆ
ค่าเงินบาทยังแกว่งตัวอยู่ในทิศทางอ่อนค่า ล่าสุดแกว่งตัวในกรอบ 32.75-32.91 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 0.54 ดอลลาร์/บาร์เรล มาปิดที่ 77.94 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังร่วงลงในวันก่อนหน้า อย่างไรก็ตามตลาดยังจับตาดูผลการประชุม OPEC ในเดือนนี้ว่าจะมีการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบหรือไม่
ราคาทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ขยับขึ้น 3.20 ดอลลาร์/ออนซ์ มาปิดที่ 1,163.00 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยมีแรงซื้อกลับเข้ามาให้เห็นบ้างหลังจากร่วงแรงในช่วงหลายวันก่อนหน้า
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
12-13 พ.ย. - ASEAN Summit
13 พ.ย. - ไทย: FIRE เริ่มเทรด (ราคา IPO 3 บาท)
- จีน: Retail sales, Industrial production (ต.ค.)
- อินโดนีเซีย: ธนาคารกลางประชุม
- เกาหลีใต้: ธนาคารกลางประชุม
14 พ.ย. - ฮ่องกง: 3Q14 GDP
- สหรัฐ: ยอดค้าปลีก (ต.ค.)
- ยูโรโซน: GDP 3Q14, อัตราเงินเฟ้อ (ต.ค.)
17 พ.ย. - ไทย: 3Q14 GDP, ยอดขายรถ (ต.ค.)
- ญี่ปุ่น: 3Q14 GDP
19 พ.ย. - ญี่ปุ่น: BOJ ประชุม
- สหรัฐ: Housing starts, Building permits (ต.ค.)
20 พ.ย. - จีน: HSBC China Manufacturing PMI (พ.ย.)
- สหรัฐ: อัตราเงินเฟ้อและยอดขายบ้านเก่า (ต.ค.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (พ.ย.)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Research Dept. Tel: 02-646-9967, 02-646-9852