บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 5-8-2021

กดไลน์-แชร์ให้เพื่อนๆด้วยครับ

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 5-8-2021

AT THE OPEN (#ATO)

S T R A T E G Y R E P O R T / 5 สิงหาคม 2564

INVESTMENT STRATEGY

Sideways :

GDP ไทยมี Downside

วันนี้คาด SET แกว่ง Sideways ในกรอบแนวรับ 1,530 จุด และแนวต้าน 1,555 จุด เน้นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากส่งออก โดย ATO Picks แนะนำ “NER, SAPPE”

NER

คาดกำไรสุทธิ 2Q64 โดดเด่นที่ 434 ลบ. (+18.3% QoQ และ +92.8% YoY) สูงสุดเป็นสถิติใหม่ โดยมีแรงหนุนจากปริมาณการขายและส่งมอบที่ยังคงสูงมากจากกลุ่มลูกค้าโรงงานผลิตยางรถยนต์จีน ส่วนปี 65 คาดจะได้แรงหนุนจากผลิตภัณฑ์ปลายน้ำ ซึ่งมีมาร์จิ้นที่สูงขึ้น

เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 9.0 บาท

SAPPE

คาดแนวโน้มกำไร 2Q64 จะเติบโตได้ทั้ง QoQ และ YoY ในระดับ +30 ถึง 40% โดยได้รับแรงหนุนบวกจากฝั่งส่งออกไปยังคู่ค้าที่เติบโตได้ดี เช่น US , EU และตะวันออกกลาง ซึ่งสัดส่วนของการส่งออกคิดเป็น 60% ของรายได้ทั้งหมด ผสานค่าเงินบาทยังอ่อนค่าต่อเนื่องเป็นปัจจัยหนุนเสริม

เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 31 บาท

INVESTMENT THEME

GDP ไทยมี Downside

กนง. มีมติ 4:2 คงดอกเบี้ย : ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วานนี้มีมติ 4 ต่อ 2 เสียง คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.5% ตามเดิม (ถือเป็นครั้งแรกตั้งแต่ พ.ค. 63 ที่เสียงแตก) โดยรอบนี้คณะกรรมการเสียงข้างน้อย 2 ท่าน เสนอให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% เพื่อช่วยรองรับความเสี่ยงสูงของเศรษฐกิจไทยในช่วงถัดไป

ปรับลดคาดการณ์ GDP ไทย : สำหรับมุมมองการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย กนง. ประเมินว่าเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 มากกว่าที่ประเมินไว้ จึงได้มีการปรับลดคาดการณ์ GDP ไทยปีนี้ลงสู่ระดับ 0.7% จากคาดเดิมที่ 1.8% และปรับลด GDP ปี 65 ลงสู่ 3.7% จากคาดเดิมที่ 3.9% จากบทสรุปของที่ประชุม กนง. สอดคล้องกับมุมมองของเราที่ประเมินว่าความเสี่ยงของเศรษฐกิจไทยยังมี Downside และหากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไทยยังคงยืดเยื้อต่อไป ซึงจะทำให้การขยายเวลา Lockdown ต่อไปอีก อาจส่งผลกระทบในกรณีที่ร้ายแรง เช่น การนำไปสู่การเกิด Double Dips หรือ GDP ไทยมีโอกาสหดตัวสองปีติดต่อกันได้ (2563 GDP -6.1%) ดังนั้นจึงควรระมัดระวังในการลงทุนมากยิ่งขึ้น

MARKET SUMMARY

วานนี้ SET แกว่งขึ้นตามตลาดภูมิภาค โดยมีแรงซื้อเด่นในกลุ่มไฟแนนซ์ และโรงไฟฟ้า โดย SET ปิดที่ 1,545.86 (+5.35 จุด) มูลค่าการซื้อขาย 6.7 หมื่นล้านบาท (เทียบกับวันก่อนหน้า 6.9 หมื่นล้านบาท)

โดยนักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทย 1,918 ลบ. (นักลงทุนสถาบันซื้อ 2,211 ลบ. ส่วนตลาด TFEX นักลงทุนต่างชาติเปิด Long Futures ที่ 6,364 สัญญา)

EYES ON

5 ส.ค. ตัวเลขเงินเฟ้อไทย, ดุลการค้า US, ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ US

6 ส.ค. การจ้างงานนอกภาคเกษตร US, อัตราการว่างงาน US

Srinanaporn Marketing (SNNP)

กำไร 2Q64 ดีตามคาด แนวโน้มเติบโตต่อ

BUY

Share Price THB 12.08

12 m Price Target THB 13.50 (+5%)

Previous Price Target THB 13.50

คำชี้แจงที่สำคัญ : บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ของ บมจ. ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง (SNNP)

ผลประกอบการ 2Q64

กำไร 2Q64 เพิ่มขึ้น 56% QoQ เป็น 77 ล้านบาท และพลิกจากขาดทุน 9 ล้านบาทใน 2Q63 เนื่องจากทั้งยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น อีกทั้งค่าใช้จ่ายลดลงอย่างมีนัยยะหลังจากไม่ต้องรวมงบการเงินของบริษัทสิริโปร ซึ่งทำธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้า โดย SNNP มีสัดส่วนถือหุ้นสิริโปรลดลงตั้งแต่กลางเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา หลังจากบริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง เข้ามาถือหุ้นส่วนหนึ่ง แม้ไม่ได้รวมรายได้จากสิริโปรเหมือนปีก่อน แต่ยอดขายเพิ่มขึ้น 7% YoY จากการเติบโตของยอดขายทั้งในประเทศ 11% YoY และต่างประเทศ 13% YoY อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 127 bps YoY เป็น 25.6%จากการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต และการออกสินค้าใหม่ นอกจากนั้น ค่าใช้จ่ายลดลง 35% YoY เนื่องจากไม่ต้องรับรู้ค่าใช้จ่ายจากสิริโปร โดยค่าใช้จ่ายด้านพนักงานและค่าขนส่งลดลง สัดส่วนค่าใช้จ่ายต่อยอดขาย ลดลงเป็น 14.8% จาก 24.3% ใน 2Q63

แนวโน้มผลประกอบการ

เราคาดว่ากำไร 2H64 ดียิ่งขึ้น เนื่องจากยอดขายยังมีแนวโน้มเติบโตในเกณฑ์ดีทั้งในประเทศและส่งออกซึ่งบริษัทได้มีการจองตู้คอนเนอร์ล่วงหน้าซึ่งช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลน การทยอยเพิ่มสัดส่วนยอดขายทาง Traditional Trade และการออกสินค้าใหม่ที่เป็นการเพิ่มมูลค่าของสินค้า อีกทั้งอาจมีการออกสินค้าใหม่เกี่ยวกับกัญชง ดอกเบี้ยจ่ายคาดว่าจะลดลงหลังจากนำเงินที่ได้จาก IPO ส่วนหนึ่งไปชำระคืนหนี้สิน

คำแนะนำการลงทุน

กำไร 1H64 คิดเป็น 41% ของคาดการณ์กำไรปีนี้ เราคาดว่ากำไรจะเร่งตัวดียิ่งขึ้นใน 2H64 โดยยังคงประมาณการเดิมที่คาดว่ากำไรปกติปีนี้จะเติบโต 229% และเพิ่มขึ้น 44% ในปีหน้าจากการมีแบรนด์แข็งแกร่งและสินค้าหลากหลาย SNNP ยังได้ประกาศจ่ายเงินปันผล 1H64 จำนวน 0.10 บาท/หุ้น เราคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 13.50 บาท (DCF, WACC 7.7%, G. 2%)