- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 25 June 2021 18:46
- Hits: 9785
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 25-6-2021
AT THE OPEN (#ATO)
S T R A T E G Y R E P O R T / 25 มิถุนายน 2564
INVESTMENT STRATEGY
ฟื้นจำกัด :
เศรษฐกิจ US ยังเติบโต
วันนี้คาด SET ฟื้นจำกัด ในกรอบแนวรับ 1,570 จุด และแนวต้าน 1,600 จุด เน้นหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัว โดย ATO Picks วันนี้แนะนำ “BCH, TU”
BCH
คาดแนวโน้มกำไร 2Q64 จะขยายตัวอย่างโดดเด่นทั้ง QoQ และ YoY แรงหนุนเชิงบวกจากการรับรู้รายได้การตรวจวัคซีนในช่วง 2Q64 ที่คาดเร่งตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สอดคล้องกับภาพการระบาดในประเทศที่ยังดูน่ากังวล ผสานกับรายได้เพิ่มเติมจาก Hospitel เป็นอีกปัจจัยหนุน
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 23 บาท
TU
คาดผลประกอบการ 2Q64 ยังดีต่อเนื่อง จากยอดขายอาหารทะเลแช่แข็งฟื้นตัวหลังสหรัฐฯ มีการเปิดเมืองมากขึ้น ต้นทุนวัตถุดิบปลาทูน่ายังต่ำ ผสานธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงขายได้ดี อีกทั้ง Red Lobster มีแนวโน้มฟื้นตัวจากการปรับโครงสร้างธุรกิจและการเปิดเมือง
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 20 บาท
INVESTMENT THEME
เศรษฐกิจ US ยังเติบโต
ส่งออกไทย ขยายตัวสูงสุดรอบ 11 ปี : กระทรวงพาณิชย์เผยมูลค่าการส่งออกไทยประจำเดือนพฤษภาคม ที่ระดับ 23,057 ล้านเหรียญ คิดเป็นการเติบโตสูงถึง +41.59%YoY มากสุดในรอบ 11 ปี ทำให้การส่งออก 5 เดือนแรกของไทยเติบโตถึง +10.78%YoY โดยมีแรงหนุนหลักจากเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าสำคัญเติบโตดี เช่น จีน สหรัฐฯ ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน เอเชียใต้ และอาเซียน โดยสินค้าที่ขยายตัวเด่น นำโดย สินค้าเกษตรและอาหาร (ผักผลไม้แช่แข็ง), ผลิตภัณฑ์ป้องกัน COVID-19, เคมีภัณฑ์, เม็ดพลาสติก, อาหารสัตว์เลี้ยง และรถยนต์ เป็นต้น เรายังคงคาดภาคการส่งออกจะเป็นกำลังสำคัญของการฟื้นตัวของ GDP ไทยในปีนี้ ซึ่งคาดส่งผลบวกต่อการเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มส่งออก เช่น อิเล็กทรอนิกส์, ยานยนต์ และอาหาร ต่อเนื่อง
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯยังแข็งแกร่ง : เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐฯรายงานตัวเลขยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน เดือนพฤษภาคม ขยายตัว +2.3%YoY จากเดือนเมษายนที่ -0.8% ถือเป็นการขยายตัวมากสุดในรอบ 5 เดือน เช่นเดียวกับภาคแรงงานที่ฟื้นตัวขึ้น สะท้อนจากยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ที่ผ่านมา ลดลงสู่ระดับ 4.11 แสนราย จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 4.18 แสนราย บ่งชี้เศรษฐกิจสหรัฐฯยังเดินหน้า เพิ่มแรงเก็งกำไรต่อสินทรัพย์เสี่ยง
MARKET SUMMARY
วานนี้ SET ย่อก่อนฟื้นตัว โดยมีแรงกดดันจากสถานการณ์ COVID-19 ในประเทศที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง โดย SET ปิดที่ 1,585.72 (-6.36) มูลค่าการซื้อขาย 8.9 หมื่นล้านบาท (เทียบกับวันก่อนหน้า 7.8 หมื่นล้านบาท)
โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทย 666 ลบ. (นักลงทุนสถาบันขาย 1,865 ลบ.) ส่วนตลาด TFEX นักลงทุนต่างชาติเปิด Short Futures ที่ 14,783 สัญญา)
EYES ON
25 มิ.ย. PCE Core Deflator, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ
TMT Steel (TMT)
2Q64 จะเด่นต่อ แต่ 2H2564 จะชะลอ
T-BUY
Share Price THB 10.20
12 m Price Target THB 13.00 (+27%)
Previous Price Target THB 13.00
ประเด็นการลงทุน
กำไร 2Q64 มีแนวโน้มจะยังเด่นต่อ 400 ล้านบาท ครึ่งหลัง 2564 กำไรจะกลับสู่ปกติ ไตรมาสละประมาณ 120-180 ล้านบาท รวมปี 2564 จะเด่นโตสูง 1,136 ล้านบาท เติบโต 111%YoY ปี 2565 จะลดลงจากปีนี้คาดกำไร 832 ล้านบาท ลดลง 27% แต่ยังเป็นระดับที่ดี ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขาย P/E ปีนี้ต่ำ 7.8 เท่า ปีหน้า 10.7 เท่า มีอัตราเงินปันผลตอบแทนปีนี้ 10.3% ปีหน้า 7.3% จึงน่าสนใจ นอกจากนี้ TMT ได้รับสถานะกิจการวิถียั่งยืน “ESG100 Company” ติดต่อกันเป็นปีที่ 6 เราคงแนะนำ TRADING BUY ประเมินเป้าหมายปีนี้ 13 บาท บนฐานค่าเฉลีย 10 ปี Forward P/E 10 เท่า
2Q64 มีแนวโน้มจะยังเด่นต่อ 400 ล้านบาท (+370%YoY)
ปริมาณขาย TMT ใน 2Q64 มีแนวโน้มจะชะลอตัวลงเหลือ 180,000 ตัน (-13%QoQ, -6%YoY) ในขณะที่ราคาขายของ TMT ในเดือน เม.ย. ปรับขึ้นต่อ 27,900 บาท/ตัน เดือน พ.ค. 30,920 บาท/ตัน และ 1-22 มิ.ย. 33,070 บาท/ตัน เทียบกับเดือน มี.ค. 25,480 บาท/ตัน ทำให้มูลค่ายอดขายคาดจะเพิ่มเป็น 5,504 ล้านบาท (+8%QoQ, +55%YoY) โดย TMT มีสต็อกประมาณ 1.5 เดือน ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 2Q64 คาด จะยังดีประมาณ 12.9% เทียบกับ 14.4% ในไตรมาสก่อน และ 6.6% ในปีก่อน ดังนั้นเราประเมินกำไร 2Q64 จะยังเด่น 400 ล้านบาท (-5%QoQ, +370%YoY)
ครึ่งหลัง2564กำไรจะกลับสู่ปกติ ปี2565จะลดลงจากปีนี้
ความต้องการเหล็กที่สูงในจีน และ ของโลก ผู้บริหารประเมินแนวโน้มราคาเหล็กในช่วงที่เหลือของปีจะไม่ทรุดลงมากนัก แต่จะไม่ปรับขึ้นแรงเหมือนครึ่งปีแรก คื่อ จะมีเสถียรภาพมากขึ้น ถ้าหากเหล็กราคาทรง เราประเมิน TMT จะมีกำไรปกติไตรมาสละประมาณ 120-180 ล้านบาท จะไม่เด่นเหมือนครึ่งปีแรกที่มีกำไรสูงถึง 400-423 ล้านบาทต่อไตรมาส รวมแล้วเราคาดกำไรในปี 2564 จะเท่ากับ 1,136 ล้านบาท โต 111% แต่ปี 2565 คาดกำไรจะลดลงเหลือ 832 ล้านบาท ลดลง 27% บนสมมติฐานราคาเหล็กทรงตัวทำให้อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับปกติประมาณ 8%
สถานการณ์เหล็กในจีนผันผวน เป็นปัจจัยเสี่ยง
จากข้อมูลของ Shanghai SteelHome ราคาเหล็กรีดร้อนชนิดม้วน (HRC) ล่าสุดปรับลดลงเหลือ 5,471 หยวน/ตัน หลังจากที่ขึ้นไปสูงสุดที่ 6,771 หยวน/ตัน เนื่องจากจีนมีเพิ่มความพยายามในการควบคุมราคาเหล็กที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ราคาเหล็กรีดร้อนจีนปัจจุบันคิดเป็นเงินบาทประมาณ 27,000 บาท/ตัน เทียบกับราคาเหล็กรีดร้อนในประเทศครึ่งแรกของเดือน พ.ค. เท่ากับ 35,000 บาท/ตัน จึงมีความเสี่ยงที่ราคาเหล็กรีดร้อนในประเทศครึ่งปีหลังจะปรับลดลงตามจีน โดยถ้าหากเหล็กรีดร้อนปรับลดลงจะกดดันกำไรของ TMT ในครึ่งปีหลัง
ความเสี่ยง : ราคาเหล็กผันผวน / อุตสาหกรรมเหล็กล้นตลาด / สัดส่วนหนี้ต่อทุนที่สูง
Surachai Pramualcharoenkit
(66) 2658 6300 ext 1470
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web