- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 07 November 2014 16:04
- Hits: 1666
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
คาดว่า SET ยังมีสิทธิอ่อนตัวลงได้ จึงแนะนำให้ทยอยซื้อช่วงปรับลง...
กลยุทธ์ : เนื่องจาก FSS คาดว่า SET ยังมีโอกาสที่จะแกว่งพักตัวลงให้เป็นจังหวะในการเลือกหุ้นเข้าซื้อสะสมได้ในช่วงถัดจากนี้ ดังนั้นจึงยังเน้นรอซื้อช่วงอ่อนตัวไว้ก่อน โดยกลุ่มที่น่าสนใจ ได้แก่ กลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ โรงแรม ค้าปลีก โรงพยาบาล ยานยนต์ แบงก์ รับเหมาก่อสร้าง กลุ่มประกันชีวิต รวมทั้งสายการบินต้นทุนต่ำ เป็นต้น
หุ้นเด่นทางเทคนิค : RCL, PS , THAI(buy back)
แนวโน้ม : ผลประชุม ECB เมื่อคืนนี้ถือว่าไม่ได้ออกมาดีเท่าที่นักลงทุนหวังไว้ เพราะแม้ว่าประธาน ECB ยืนยันว่าจะเดินหน้าใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อย 2 ปี และมีความพร้อมในการที่จะเพิ่มเติมมาตรการขึ้นอีกได้ถ้าจำเป็น แต่ก็ยังไม่ได้มีมาตรการเพิ่มเติมใหม่ที่ชัดเจนในทันที จึงทำให้ตลาดหุ้นต่างประเทศไม่ได้บวกขึ้นแรงมากนัก ขณะที่การเคลื่อนไหวของ SET ในช่วงสัปดาห์นี้ก็มีจังหวะแกว่งตัวผันผวนมากขึ้น เนื่องจากช่วงก่อนหน้าดัชนีดีดตัวขึ้นมารอรับข่าวบวกไปพอสมควรแล้ว จึงเริ่มมีแรงขายทำกำไรลดความเสี่ยงออกมากดดัน หลังจากยังไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ๆ มากนัก รวมทั้งค่าเงินบาทก็ยังมีทิศทางอ่อนค่าต่อเนื่องแม้ว่าจะเริ่มมีจังหวะแกว่งทรงตัวได้บ้างก็ตาม ดังนั้น FSS จึงยังแนะนำให้รอเลือกหุ้นเข้าซื้อในช่วงตลาดปรับตัวย้อนลงน่าจะปลอดภัยกว่า โดยคาดว่าวันนี้นักลงทุนบางส่วนยังรอติดตามดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐด้วย เพราะช่วงหลังตัวเลขเศรษฐกิจที่ดีขึ้นเกินคาดของสหรัฐ ทำให้นักลงทุนกังวลว่าอาจจะไปกระตุ้นให้เฟดพิจารณาขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดอีกได้
แนวรับ 1576-1573 , 1570-1567 จุด แนวต้าน 1584-1586 , 1588-1592 จุด
Fund Flow วานนี้ไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคแต่ปริมาณเบาบาง โดยนักลงทุนซื้อสุทธิตลาดหุ้นไต้หวัน US$123.1 ล้าน อินโดนีเซีย US$28.8 ล้าน ไทย US$8.7 ล้าน ฟิลิปปินส์ US$1.1 ล้าน และเวียดนาม US$0.5 ล้าน แต่ขายเกาหลีใต้ US$59.9 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้อ่อนค่าเล็กน้อยตามยูโร Flow น่าจะยังไหลเข้าหลัง ECB พร้อมใช้ QE ในวงเงินกว่า 1 ล้านยูโร
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) BEAUTY เราคาดกำไรสุทธิ 3Q14 พุ่งทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 77 ล้านบาท +26% Q-Q, +60% Y-Y จากการขยายสาขาและออกสินค้าใหม่ เราปรับกำไรปี 2015-16 ขึ้น 11% และ 19% ทำให้กำไรเติบโตเฉลี่ยสูงถึง 20% ปรับราคาเป้าหมายปี 2015 ขึ้นเป็น 34.50 บาท จาก 28 บาท จุดเด่นของบรัทคือศักยภาพในการแข็งขัน การรุกตลาดแบรนด์ตัวเองด้วยฐานทุนต่ำ ทำให้สามารถสร้างอัตรากำไรและ ROE ได้สูงกว่าคู่แข่ง ยังคงแนะนำซื้อ
(+) CPALL กำไรสุทธิ 3Q14 ดีกว่าคาดเล็กน้อย +19% Q-Q, +4% Y-Y แต่ผลการดำเนินงานหลัก โดยเฉพาะธุรกิจ 7-11 ไม่สดใส ยอดขายสาขาเดิมที่พลิกกลับมาติดลบ และอัตรากำไรขั้นต้นอ่อนตัวลง และมีค่าใช้จ่าย Refinance Fee ก้อนใหญ่ เราคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2014 ทรงตัว และคาดโต 31% Y-Y ปี 2015 ถือเป็นการเติบโตครั้งแรกในรอบ 3 ปี คงราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 55 บาท (DCF) แนะนำซื้อลงทุน
(+) CHO แนวโน้มกำไร 3Q14 ออกมาดี น่าจะได้เกือบเท่าครึ่งปีแรกคือ 55 ล้านบาท และเป็น New high เพราะส่งมอบรถ Catering ที่ได้งานมาจากโอมาน คาดทั้งปี 2014 กำไร 120-130 ล้านบาท แนวโน้มปี 2015 กำไรน่าจะโต 20-30% เพราะขยายศูนย์ซ่อมบำรุงตามการขยายศูนย์กระจายสินค้าของ Lotus และคาดได้งานต่อรถเมล์ NGV โดยบริษัทคาดหวัง 500 คันจาก 3,200 คน และคาดได้งานต่อเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งอีก 2 ลำ หากอิง PE 27-30 เท่าเท่ากับตลาด mai มูลค่าหุ้นน่าจะเป็น 6-6.50 บาท
(0) CSL ประกาศขาดทุนสุทธิ 464 ล้านบาทจากการตั้งด้อยค่าเงินลงทุนในธุรกิจสมุดหน้าเหลือง (บมจ.เทเลอินโฟมีเดีย) หากไม่มีรายการนี้ จะเป็นกำไรปกติ 86 ล้านบาท ต่ำกว่าปกติ 15% ส่วนกำไรของ THCOM จะถูกกดดันไปด้วย แต่ไม่กระทบการจ่ายเงินปันผลของทั้ง 2 บริษัทเพราะไม่กระทบกระแสเงินสด การปรับลงของราคาหุ้น THCOM ในวันนี้จะเป็นโอกาสในการซื้อ ส่วน CSL แนะนำถือรับปันผล
(+) PTTGC กำไรสุทธิ 3Q14 +25% Q-Q, -21% Y-Y ส่วนกำไรปกติ +1% Q-Q, -33% Y-Y แม้ว่าโรงกลั่นจะขาดทุนจะขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน 2.8 พันล้านบาท แต่ธุรกิจโอเลฟินส์มีกำไรเพิ่มขึ้น ส่วนธุรกิจอะโรเมติกส์ก็ทำกำไรได้เล็กน้อย (ต่างจาก TOP ที่ขาดทุนเพราะวัตถุดิบต่างกัน) เราคงประมาณการกำไรปี 2014 ลดลง 16% ปี 2015 เพิ่มขึ้น 9% คงราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 62 บาท แนะนำซื้อ
(+) IPO ใหม่ ‘TPCH’ บมจ. ทีพีซี เพาเวอร์โฮลดิ้งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากชีวมวล มีผู้ถือหุ้นใหญ่คือกลุ่ม TPOLY ปัจจุปัน TPCH มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับกฟผ.และกฟภ.แล้ว 26.4 MW มีโรงไฟฟ้าชีวมวลที่ดำเนินการแล้ว 1 โครงการขนาด 9.2 MW ที่เหลืออยู่ระหว่างการก่อสร้างโดยคาดเริ่มทยอยเปิดดำเนินการไปจนถึงปี 2016 ซึ่งจะทำให้กำไรในช่วง 2 ปีข้างหน้าโตเฉลี่ยปีละ 138.7% เราประเมินมูลค่าเหมาะสมปี 2015 ที่ 13.51 บาท (FSS เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO ของ TPCH)
ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมายังปิดทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวิติการณ์ต่อเนื่องหลังตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดีกว่าตลาดคาด รวมถึงความเป็นไปได้ที่เพิ่มขึ้นจากฝั่งยุโรปในเรื่องของการกระตุ้นเศรษฐกิจหากจำเป็น
ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนส่วนใหญ่ปิดในแดนบวกหลังประธาน ECB ให้ความหวังเกี่ยวกับการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในอนาคตหากจำเป็น
ส่วนตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวในแดนบวกได้ตามตลาดหุ้นภูมิภาคอื่นจากถ้อยคำแถลงของประธาน ECB ที่สร้างความมั่นใจเรื่องการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหากมีความจำเป็น
ค่าเงินบาทเมื่อวานนี้ยังอ่อนค่าลงต่อเนื่อง ล่าสุดแกว่งตัวในกรอบ 32.80-33.00 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ลดลง 0.77 ดอลลาร์/บาร์เรล มาปิดที่ 77.91 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังดอลลาร์สหรัฐฯยังแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องรวมถึงอุปทานที่ยังคงมาก
ราคาทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ลดลง 3.10 ดอลลาร์/ออนซ์ มาปิดที่ 1,142.60 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลงเป็นวันที่ 7 ติดต่อกันหลังดอลลาร์สหรัฐฯยังแข็งค่าต่อ รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจที่ดีเกินคาดทำให้นักลงทุนลดการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
7 พ.ย. - สหรัฐ: การจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราว่างงาน (ต.ค.)
8 พ.ย. - จีน: ดุลการค้า (ต.ค.)
10 พ.ย. - จีน: สินเชื่อใหม่ (ต.ค.)
11 พ.ย. - ไทย: NCL เริ่มเทรด (ราคา 1.80 บาท)
12-13 พ.ย. - ASEAN Summit
13 พ.ย. - จีน: Retail sales, Industrial production (ต.ค.)
- อินโดนีเซีย: ธนาคารกลางประชุม
- เกาหลีใต้: ธนาคารกลางประชุม
14 พ.ย. - ฮ่องกง: 3Q14 GDP
- สหรัฐ: ยอดค้าปลีก (ต.ค.)
- ยูโรโซน: GDP 3Q14, อัตราเงินเฟ้อ (ต.ค.)
17 พ.ย. - ไทย: 3Q14 GDP, ยอดขายรถ (ต.ค.)
- ญี่ปุ่น: 3Q14 GDP
19 พ.ย. - ญี่ปุ่น: BOJ ประชุม
Contact person : Somchai Anektaweepon
Research Dept. Tel: 02-646-9967, 02-646-9852