บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 14-6-2021

Details: Category: บทวิเคราะห์; Published: Monday, 14 June 2021 21:35; Hits: 4422

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 14-6-2021

AT THE OPEN (#ATO)

S T R A T E G Y R E P O R T / 14 มิถุนายน 2564

INNESTMENT STRATEGY

ฟื้นตัว :

คลายล็อค 5 กิจกรรม กทม.

วันนี้คาด SET ฟื้นตัว ในกรอบแนวรับ 1,625 จุด และแนวต้าน 1,650 จุด เน้นหุ้นแนวโน้มกำไรเด่น โดย ATO Picks วันนี้แนะ “SMT, CKP”

SMT

การขยับเข้าสู่สินค้า megatrend อย่าง Fiber Optics ที่มีอายุสินค้ายาว และมุ่งสู่บริการงานที่เป็นระบบ (Box Build) มากกว่างานเดิมที่เป็นชิ้นส่วน(Components) หนุนมาร์จิ้นทำจุดสูงสุดใหม่ และคาดกำไร 2Q64 จะเติบโต QoQ, YoY ยืนยันด้วยยอดจองกว่า 96% ของเป้ารายได้

เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 8.0 บาท

CKP

เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 6.5 บาท

INVESTMENT THEME

คลายล็อค 5 กิจกรรม กทม.

คลายล็อค 5 กิจกรรมใน กทม. วันนี้ : พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. เห็นชอบผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคสำหรับสถานที่ 5 ประเภทในเขตกรุงเทพมหานคร คือ 1) พิพิธภัณฑ์ และโบราณสถาน 2) สวนสาธารณะ สวนพฤกษศาสตร์ 3) คลีนิกเสริมความงาม 4) สถานประกอบการนวดเพื่อสุขภาพ (เฉพาะนวดฝ่าเท้า) 5) ร้านเล็บและร้านสัก เนื่องจากประเมินว่าสถานการณ์แพร่ระบาดอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ และประชาชนใน กทม. ได้รับการฉีดวัคซีนเป็นจำนวนพอสมควรแล้ว โดยการผ่อนคลายทั้งหมดจะมีผลตั้งแต่วันนี้ (14 มิ.ย.64) ประเด็นนี้คาดจะเป็นแรงหนุนต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศมากขึ้น ถือเป็นปัจจัยหนุนต่อการเก็งกำไรในหุ้นธีมเปิดเมือง

ความกังวลเงินเฟ้อในระยะสั้นน้อยลง : แม้ในสัปดาห์ที่ผ่านมาทิศทางเงินเฟ้อสหรัฐฯจะเร่งตัวขึ้น แต่ตลาดเชื่อว่าการปรับตัวขึ้นนี้จะเป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น เนื่องจาก 1) ฐานในช่วงที่ผ่านมาที่ต่ำมาก 2) มาตรการกระตุ้นทางการคลังของสหรัฐฯ หลายโครงการจะหมดลงในช่วง 3Q64 3) ราคาพลังงานเริ่มชะลอตัว MoM จึงทำให้ตลาดยังไม่ได้กังวลตัวเลขเงินเฟ้อที่เร่งขึ้นในระยะสั้น สอดคล้องกับตลาดพันธบัตรที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯล่าสุดปรับตัวลงทำจุดต่ำสุดในรอบ 3 เดือน ดังนั้นอาจบ่งชี้ว่าการประชุม FED ในสัปดาห์นี้ (15-16 มิ.ย) ตลาดมองว่าที่ประขุม FED น่าจะยังคงการดำเนินนโยบายตามเดิม ซึ่งจะยังเป็นบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง

MARKET SUMMARY

วันศุกร์ที่ผ่านมา SET แกว่งขึ้นโดยมีแรงซื้อในหุ้นที่ได้อานิสงส์บวกจากการเปิดเมือง และกลุ่มถ่านหิน โดย SET ปิดที่ 1,636.56 (+11.29) มูลค่าการซื้อขาย 1.06 แสนล้านบาท (เทียบกับวันก่อนหน้า 1.06 แสนล้านบาท)

โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทย 1,570 ลบ. (นักลงทุนสถาบันขาย 381 ลบ.) ส่วนตลาด TFEX นักลงทุนต่างชาติเปิด Long Futures ที่ 7,051 สัญญา)

EYES ON

14 มิ.ย. ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ยูโรโซน

15 มิ.ย. ยอดค้าปลีก US, ดัชนี PPI ของ US, ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม US, ดุลการค้า ยูโรโซน

16 มิ.ย. การประชุม FOMC, ยอดการเริ่มสร้างบ้าน US, ใบอนุญาตก่อสร้างบ้าน US, ยอดค้าปลีกจีน, ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม จีน

17 มิ.ย. ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรก สหรัฐฯ, ดัชนี CPI ของยูโรโซน

CK Power (CKP)

พายุเข้า+น้ำมาก หนุนกำไรเด่น

T-BUY (Prior:HOLD)

Share Price THB 5.70

12 m Price Target THB 6.50 (+14%)

Previous Price Target THB 5.60

ประเด็นการลงทุน

แนวโน้มผลประกอบการ 2Q64 จะโดดเด่น และ 3Q64 เพิ่มมากขึ้น แรงหนุน จีนปล่อยน้ำจากเขื่อนลงแม่น้ำโขงมาก ปีนีฝนเริ่มตกซุก และ ล่าสุดพายุโซนร้อน Koguma ได้เคลื่อนเข้าสู่สปป.ลาวตอนบน ซึ่งเป็นที่ตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ ไซยะบุรี และ น้ำงึม2 จะหนุนน้ำเพิ่มขึ้นอย่างมาก คาดกำไรปี 2564 จะทำสถิติสูงสุดใหม่ 2,160 ล้านบาท เติบโต 449% เรากลับมาแนะนำ TRADING BUY ประเมินราคาเป้าหมายด้วยวิธี Sum of the Part ส่วนลดกระแสเงินสดของโครงการต่างๆ ได้เท่ากับ 6.5 บาท

ปีนี้เริ่มมีสัญญาณดีจากพายุลูกแรก Koguma เข้าตอนบน สปป.ลาว

พายุโซนร้อน Koguma ได้เคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนเมื่อวาน และ ได้เคลื่อนเข้าสปป.ลาวตอนบน ทำให้เกิดภาวะฝนตกหนัก ซึ่งจะส่งผลบวกต่อโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำของ CKP สองแห่งในสปป.ลาว คือ ไซยะบุรี (XPCL) และ น้ำงึม2 (NN2) โดยปีนี้ฝนเริ่มตกซุกมากขึ้น การที่เริ่มมีพายุลูกแรกเข้าตอนเหนือของลาว จึงมีแนวโน้มที่จะมีพายุอีกหลายลูกพัดเข้าตามมา เนื่องจากปีนี้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนระบุจะเป็นปี LaNina ทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าโรงไฟฟ้าไซยะบุรี และ น้ำงึม2 มากขึ้น

แนวโน้มผลประกอบการ 2Q64 จะโดดเด่น และ 3Q64 เพิ่มมากขึ้น

โรงไฟฟ้าไซยะบุรี ในเดือน เม.ย. – พ.ค. มีปริมาณน้ำไหลเข้าโรงไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากจีนปล่อยนำมากขึ้น ทำให้ยอดขายไฟเดือน เม.ย. – พ.ค. สูงถึง 1,290GWh และ ไตรมาส 2Q64 มีโอกาสจะขึ้นมาถึงระดับ 2,000GWh (+70%QoQ, +49%YoY) หนุนโรงไฟฟ้าไชยะบุรีกำไร 1,335 ล้านบาท โดย CKP ถือ 37.5% จะรับรู้กำไรเข้ามา 500 ล้านบาท ส่วนโรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 ได้ประกาศขายไฟไว้ที่ 510GWh (+24%QoQ, +156%YoY) เมื่อรวมโรงไฟฟ้า BIC และ BKC ที่คาดจะทรงตัวจาก1Q64 ดังนั้น เบื้องต้นเราคาด CKP จะมีกำไร2Q64 ที่เด่น 750 ล้านบาท โต 555%QoQ และ ดีกว่าปีก่อนที่ขาดทุน 95 ล้านบาท สำหรับแนวโน้มไตรมาส 3Q64 จะดีขึ้นอีก เนื่องจากเป็นฤดูที่พายุเข้า และน้ำหลากของทุกปี จะทำให้ CKP มีกำไรที่สูงถึง 900-1,000 ล้านบาท

ผลประกอบการปี 2564 จะทำสถิติ โรงไฟฟ้าหลวงพระบางคาดสรุป2H64

จากผลประกอบการไตรมาส 2Q64 และ 3Q64 จะโดดเด่น สูงถึง 750 ล้านบาท และ 900-1,000 ล้านบาท ตามลำดับ เราคาดกำไรปี 2564 จะทำสถิติสูงสุดใหม่ 2,160 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนถึง 449% สำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำหลวงพระบาง 1,410 MW (CKP ถือหุ้น 42%) มูลค่าโครงการใกล้ไซยะบุรี คือ ประมาณ 1.35 แสนล้านบาท คาดจะได้ข้อสรุปและลงนามได้ในครึ่งปีหลัง