- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 08 June 2021 21:39
- Hits: 3775
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 8-6-2021
AT THE OPEN (#ATO)
S T R A T E G Y R E P O R T / 8 มิถุนายน 2564
INVESTMENT STRATEGY
Sideways :
กังวลปัญหาเงินเฟ้อ
วันนี้คาด SET Sideways กรอบแนวรับ 1,600 จุด และแนวต้าน 1,620 จุด เน้นหุ้นอิงเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัว โดย ATO Picks วันนี้แนะ “HMPRO, KBANK”
HMPRO
คาดกำไร 2Q64 จะเติบโตสูง YoY จากฐานต่ำและมีโอกาสเพิ่มขึ้น QoQ จากยอดขายฟื้นตัวและควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี โดยปัจจุบัน SSSG ช่วงเดือน เม.ย. - พ.ค. ปรับตัวขึ้นราว 15-20% และสาขาในมาเลเซียคาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุนในปีนี้หลังจากขาดทุนมาต่อเนื่องมา 7 ปี
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 16 บาท
KBANK
คาดกำไรปี 2564-65 เติบโต 8-11% คาดรายได้ค่าธรรมเนียมสูงขึ้น ผสานคุณภาพสินทรัพย์ที่จะค่อยๆฟื้นตัวขึ้นในระยะกลาง สอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่มีพัฒนาการเชิงบวกขึ้น ผสานกับราคาหุ้นปัจจุบันที่เทรดเพียง PBV 0.6 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่น่าสนใจในการทยอยสะสม
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 160 บาท
INVESTMENT THEME
กังวลปัญหาเงินเฟ้อ
ปัญหาเงินเฟ้อยังวนเวียนซ้ำๆ : แนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ขยายตัวขึ้นอย่างโดดเด่นสอดรับกับการกระจายการฉีดวัคซีนทั่วโลกที่ปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หนุนให้ความต้องการสินค้า และราคาสินค้าปรับตัวขึ้น สะท้อนถึงอัตราเงินเฟ้อมีทิศทางที่ปรับตัวขึ้น ซึ่งจะเป็นที่มานำไปสู่การทยอยปรับลดมาตรการกระตุ้นต่างๆ เช่น วงเงินการดำเนินนโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หรือท้ายที่สุดคือการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ดังนั้นคงต้องติดตามการรายงานตัวเลขเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด โดย วันที่ 9 มิย. จะมีการรายงานตัวเลข CPI จีน เดือนพฤษภาคม และวันที่ 10 มิ.ย. จะเป็นตัวเลข CPI ของสหรัฐฯ ซึ่งตลาดคาดว่าจะเร่งตัวขึ้นสู่ระดับ +4.7%YoY จากเดือนเมษายนที่ระดับ +4.2%YoY อาจเป็นแรงกดดันระยะสั้นต่อตลาดสินทรัพย์เสี่ยง
อาจนำไปสู่การปรับลด QE : แนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯที่เร็วเกินคาด จนสามารถกลับสู่ระดับก่อนเกิด COVID-19 น่าจะนำไปสู่การพิจารณาถอดถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดน่าจะให้น้ำหนักกับการส่งสัญญาณการทำ QE Tapering ที่อาจจะเกิดขึ้นใน Key Event สำคัญช่วง 2H64 ดังนี้ การประชุม FOMC เดือน มิ.ย. (15-16 มิ.ย.), เดือน ก.ย. (21-22 ก.ย.) และเดือน ธ.ค. (15-16 ธ.ค.), การประชุมที่ Jackson Hole Symposium 27 ส.ค.
MARKET SUMMARY
วานนี้ SET แกว่งผันผวน แรงหนุนจากความคาดหวังเชิงบวกต่อการฉีดวัคซีนในประเทศที่จะเร่งขึ้น โดย SET ปิดที่ 1,612.59 (+1.06) มูลค่าการซื้อขาย 8.8 หมื่นล้านบาท (เทียบกับวันก่อนหน้า 1.06 แสนล้านบาท)
โดยนักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทย1,214 ลบ. (นักลงทุนสถาบันขาย 64 ลบ.) ส่วนตลาด TFEX นักลงทุนต่างชาติเปิด Short Futures ที่ 453 สัญญา)
EYES ON
8 มิ.ย. ดุลการค้าสหรัฐฯ (เม.ย.), 1Q64 GDP ของยูโรโซน
9 มิ.ย. ดัชนี CPI จีน (พ.ค.)
10 มิ.ย. ดัชนี CPI สหรัฐฯ (พ.ค.), ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทย (พ.ค.), การประชุม ECB
11 มิ.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นสหรัฐฯ (มิ.ย.)
North East Rubber (NER)
เป้าปี 64-65 เริ่มนำหน้าประมาณการแล้ว
BUY
Share Price THB 6.85
12 m Price Target THB 7.70 (+12%)
Previous Price Target THB 7.70
ประเด็นการลงทุน
เรามีมุมมอง “บวก” ต่องานแถลงผลประกอบการ Opportunity Day วานนี้ โดยเป้ารายได้ที่ ผบห. มอบให้นักลงทุนเป็นการสะท้อนมุมมองของผู้ประกอบการว่า ทิศทางราคายางในปี 2564 จะยืนอยู่ในระดับสูงกว่าสมมติฐานของเรา และอาจหมายรวมถึงในปี 2565 อีกด้วย ขณะที่ธุรกิจแผ่นรองนอนปศุสัตว์ก็กลับมาเดินหน้าสู่แผนการรับรู้รายได้ในปี 2565 ตามประมาณการแล้วเช่นกัน เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 7.70 บาท/ หุ้น อิง P/E 8.0 เท่า โดยเราจะทบทวนประมาณการอีกครั้งหลังผลประกอบการไตรมาส 2/64 รายงาน
เป้าปี 2564-65 สะท้อนมุมมองราคายางที่สูงกว่าสมมติฐาน 11% และ 28%
ผู้บริหารปรับเป้ายอดขายปี 2564 ขึ้น +7% เป็น 4.4 แสนตัน ส่วนปี 2565 เป็น 5 แสนตัน สอดคล้องกับประมาณการของเราก่อนหน้าที่ 4.65 และ 5.1 แสนตัน ตามลำดับ ขณะที่การตั้งเป้ารายได้ที่ 24,450 และ 28,780 ลบ. ในปี 2564 และ 2565 ตรงนี้สามารถสะท้อนเป็นราคายางขายได้ที่ 55,568 และ 57,560 บาท/ ตัน ซึ่งจะเห็นว่า สูงกว่าสมมติฐานของเราถึง 11% และ 28% ตามลำดับ โดยเรามองว่า มุมมองในปี 2564 นี้ มีความเป็นไปได้สูง เนื่องจาก NER มีออร์เดอร์ยาวไปถึงไตรมาส 4/64 แล้ว จึงมีความมั่นใจได้ ส่วนปี 2565 อาจจะต้องจับตาดูอีกระยะ จากเรื่อง อุปสงค์จากอุตสาหกรรมยานยนต์จะต่อเนื่องไปปี 2565 หรือไม่ สภาวะฝน อากาศ รวมถึงอุปทานใหม่ที่จะเข้าตลาด แต่โดยรวม เป้าหมายนี้ถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อประมาณการในปี 2564
ธุรกิจแผ่นรองนอนปศุสัตว์เดินตามแผนต่อ ปี 2565 รับรู้รายได้
ผู้บริหารเผยว่าหลังการฉีดวัคซีนโควิด-19 เรียบร้อย ก็จะเดินทางไปทำสัญญาซื้อเครื่องจักร เพื่อนำมาติดตั้งในไตรมาส 4/64 เพื่อเริ่มผลิตและส่งออกในปี 2565 โดยตั้งเป้า 3 แสนแผ่นในปีแรก คิดเป็นเงิน 560 ลบ. (ต่ำกว่าสมมติฐานของเรา 12%) โดยตลาดส่วนใหญ่ เช่น อินเดีย ญี่ปุ่น จีน เป็นต้น ซึ่งหากเป็นไปตามแผนธุรกิจทั้งหมด เป้ารายได้รวมในปี 2565 จะแตะ 29,340 ลบ. ซึ่งสูงกว่าประมาณการของเราถึง 32% โดยเราจะทบทวนประมาณการปี 2565 อีกครั้งในช่วงหลังรายงานงบการเงินไตรมาส 2/64
ความเสี่ยง
ราคายางอาจมีการผันผวนได้ เมื่อปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลกพุ่งสูงขึ้น จนทำให้อุปสงค์ยางพาราจากอุตสาหกรรมถุงมือยางลดต่ำลงมา อย่างไรก็ดี NER มีออร์เดอร์ล่วงหน้ายาวถึงเดือน ต.ค. 2564 แล้ว ทำให้ความเสี่ยงนี้ต่อประมาณการปี 2564 จึงมีจำกัด ขณะที่ปัจจุบันราคายางแผ่น RSS3 อยู่ที่เกือบ 70 บาท/ กก. ซึ่งสูงกว่าปีก่อน 30-40%
Jaroonpan Wattanawong
(66) 2658 6300 ext 1404
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web