- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 06 November 2014 17:34
- Hits: 1980
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market View : ฤทธิ์มีดสั้น
Technical : แนวรับ : 1,572 / 1,567 แนวต้าน 1,585 / 1,591
หุ้นแนะนำพิเศษ : KCE
หุ้นเด่นรายวัน : CSS
SET วานนี้ปรับตัวลง เนื่องจากธปท.เตรียมปรับลดเป้าส่งออก และ GDP ปี 57 และ 58 ลง หลังจากที่เศรษฐกิจ Q3/57 ขยายตัวช้ากว่าคาด ส่งผลให้กนง.คงดอกเบี้ยระดับต่ำ 2% ต่อไป อีกทั้งนลท.ชะลอการซื้อเพื่อรอผลการประชุม ECB ในวันที่ 6 พ.ย. โดย SET ปิดที่ 1,577.40 จุด (-7.75 จุด , -0.49%) Volume 5.6 หมื่นลบ. นักลงทุนต่างชาติ Net buy 2.4 พันล้านบาท
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
ปัจจัยบวกต่างประเทศที่ออกมาดีทั้ง พรรครีพับลิกันคว้าฐานอำนาจในการควบคุมวุฒิสภาและครองเสียงส่วนใหญ่ในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ , ตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐปรับตัวขึ้น รวมถึงความคาดหวังต่อการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของ ECB (ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง) เป็นแรงหนุนให้ SET วันนี้มีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้น อย่างไรก็ตามคาดว่าการดีดตัวจะยังคงมีจำกัดเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจ Q3/57 ของไทยขยายตัวช้ากว่าที่คาด ดังนั้นประเมินว่า SET จะปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,585 – 1,590 จุด แต่เน้นการเข้าซื้อเก็งกำไรรอบสั้นๆ จนกว่า SET จะทะลุ 1,600 จุดได้จึงจะเป็นการยืนยันสัญญาณขาขึ้นรอบใหม่
กลยุทธ์
จากทิศทางค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มส่งออก ดังนั้นแนะนำให้สะสมหุ้นกลุ่มส่งออกเช่น CPF TUF KCE CCET รวมถึงสะสมหุ้นที่คาดว่ากำไร Q3/14 เติบโต RML SYNTEC
AKR วันที่ 7 พ.ย. จัดงาน AKR Day เปิดเผยแนวโน้มทางธุรกิจในอนาคต
หุ้นแนะนำพิเศษ
KCE : ราคาปิด 39.75 บาท ราคาพื้นฐานเฉลี่ย consensus สูงสุดที่ 48 บาท
Consensus คาดกำไร Q3/57F ที่ 520 ล้านบาท เติบโตขึ้นทั้ง YoY และ QoQ จากยอดขาย PCB กลุ่มยานยนต์เพิ่มขึ้น และอานิสงส์ค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลง (คาดประกาศงบวันที่ 11 พ.ย.)
แนวโน้มกำไร Q4/57 ยังเติบโต จากกำลังการผลิตโรงงานใหม่เฟส 1 เข้ามา เพิ่มกำลังการผลิตอีก 7 แสนตารางฟุต/เดือน
ตั้งเป้ารายได้เติบโต 100% ใน 3 ปี จากกำลังการผลิตใหม่ที่เข้ามาทั้งหมดปลายปี 2559
หุ้นเด่นรายวัน
CSS : (ปิด 7.45 ซื้อเก็งกำไร)
ประเด็นข่าว : งบ Q 3/57 พุ่งหลังรับรู้รายได้จาก Backlog เพิ่มมากขึ้น ปี 2557 มั่นใจรายได้เข้าเป้า 4 พันล้านบาท (ที่มา : ทันหุ้น)
มุมมองด้านเทคนิค - แนวรับ 7.30 แนวต้าน 8.00 ,8.65 จุด cut loss 7.00 กราฟเป็นขาขึ้น sideway up โดยล่าสุดราคาดีดตัวจาก trendline ปิดเหนือเส้น EMA 10 วันเกิดเป็นสัญญาณซื้อ พร้อมทั้ง RSI + MACD ชี้ขึ้นสนับสนุน
TCAP : (ราคาปิด 34.75 ถือ เป้า consensus 38.36) จากการเข้าประชุมนักวิเคราะห์พบว่าสินเชื่อทั้งปีมีแนวโน้มหดตัวจากปีก่อนเล็กน้อยหรืออย่างดีแค่ทรงตัว โดย 9M57 หดตัว 2.43% เนื่องจากตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ยังไม่ฟื้นตัวและยังมีขาดทุนจากรถยึดทั้งนี้การขาดทุนรถยึดได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ด้านอัตราส่วน NPL ต่อสินเชื่อรวมที่ระดับ 4.66% สูงกว่าเป้าที่ 4% จากสัดส่วนสินเชื่อลดลงมากกว่าสัดส่วน NPL ที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดีถือว่าเป็นสถานการณ์ที่ต่ำที่สุดซึ่งอาจมองเห็นภาพการฟื้นตัวในปีหน้าจากกลยุทธ์ธุรกิจ SME ขนาดเล็ก
รายชื่อหลักทรัพย์ที่ติดเกณฑ์บัญชี Cash Balance
* EE มีผลบังคับ 15 ก.ย. – 7 พ.ย. 57
* MLINK มีผลบังคับใช้ 22 ก.ย. – 7 พ.ย. 57
* AQ / CYBER / IFEC / KTP / PRINC/ SLC / TGPRO / WIIK มีผลบังคับใช้ 29 ก.ย. - 7 พ.ย. 57
*AJD / BGT / CEI / CGD / DNA / MILL / PE / PRECHA / TH / THANA / TPOLY มีผลบังคับใช้ 6 ต.ค. - 14 พ.ย. 57
* COLOR / SMART / EVER / RICH / SUPER / SOLAR / CWT / TMI / FVC มีผลบังคับใช้ 13 ต.ค. - 21 พ.ย. 57
* ACD / CIG / EMC / FOCUS / GENCO / NIPPON / SST / TAKUNI / TIES มีผลบังคับใช้ 20 ต.ค. - 28 พ.ย. 57
* BSM / PCA / SANKO / SVOA / TFI / WIN มีผลบังคับใช้ 27 ต.ค. - 4 ธ.ค. 57
* ABC / CCN / CSS / EVER / GENCO-W1 / KC / LOXLEY-W / RCI / RPC / WAT มีผลบังคับใช้ 3 พ.ย. – 12 ธ.ค. 57
***เนื่องจากการลงทุนในหลักทรัพย์ ดังกล่าวมีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาดดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : เพิ่มขึ้น 100.69 จุด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,484.53 จุด เพิ่มขึ้น 100.69 จุด หรือ +0.58% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,023.57 จุด เพิ่มขึ้น 11.47 จุด หรือ +0.57% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,620.72 จุด ลดลง 2.92 จุด หรือ -0.06% ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ว่า พรรครีพับลิกันสามารถคว้าฐานอำนาจในการควบคุมวุฒิสภาจากพรรคเดโมแครตได้เป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี และยังสามารถครองเสียงส่วนใหญ่ในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐด้วยเช่นกัน นักวิเคราะห์กล่าวว่า พรรครีพับลิกันมีนโยบายที่เป็นมิตรต่อการทำธุรกิจมากกว่า ตลาดจึงขานรับผลการเลือกตั้งในครั้งนี้ นอกจากนั้น ชัยชนะของพรรครีพับลิกันได้จุดประกายความหวังเกี่ยวกับความคืบหน้าในการเจรจาการค้าเสรีในภูมิภาคแปซิฟิกระหว่างสหรัฐและญี่ปุ่นด้วย
ตลาดน้ำมัน NYMEX : ลดลง 1.59 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 1.49 ดอลลาร์ ปิดที่ 78.68 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 13 เซนต์ ปิดที่ 82.95 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมนดิบดีดตัวขึ้นหลังจาก EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 31 ต.ค. เพิ่มขึ้น 460,000 บาร์เรล แตะ 380.2 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค. อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะพุ่งขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรล
Analyst :
วิลาสินี บุญมาสูงทรง
ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์
ชัยยศ จิวางกูร