- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 13 May 2021 16:13
- Hits: 2172
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 13-5-2021
AT THE OPEN (#ATO)
S T R A T E G Y R E P O R T / 13 พฤษภาคม 2564
INVESTMENT STRATEGY
ย่อสร้างฐาน :
เงินเฟ้อ US ขึ้นมากกว่าคาด
วันนี้คาด SET ย่อสร้างฐาน กรอบแนวรับ 1,550 จุด และแนวต้าน 1,580 จุด เน้นหุ้นแนวโน้มกำไรเติบโตดี โดย ATO Picks วันนี้แนะนำ “NER, WICE”
NER (Upgrade)
ปรับประมาณการกำไรปี 2564 ขึ้น 27% หลังพบว่าออร์เดอร์เตรียมส่งมอบถึง ต.ค. 2564 มีแนวโน้มอัตรากำไรขั้นต้นในระดับสูงต่อจากไตรมาส 1/64 ที่ทำได้ดีมาก จากอุปสงค์ยางจากจีนที่สูง, matching ออร์เดอร์ขายและการผลิตที่ดี, การเตรียมการด้านวัตถุดิบล่วงหน้าที่ดี
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 7.7 บาท
WICE
คาดแนวโน้มงบไตรมาส 1/64 ยังคงยอดเยี่ยม และลุ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ได้อีกครั้งที่ 67 ลบ. +13.1% QoQ และ +122.0% YoY โดยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกทำให้บริษัทย่อยใน สิงคโปร์ ไทย จีน ฮ่องกง ซึ่งเป็นฐานการส่งออกไปยังผู้บริโภคทั่วโลก ทำงานได้เต็มที่ทุกจุด
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 7.6 บาท
INVESTMENT THEME
เงินเฟ้อ US เร่งขึ้นมากกว่าคาด : เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐฯรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ ประจำเดือนเมษายน ซึ่งพบว่าเร่งตัวขึ้น +4.2%YoY จากเดือนก่อนหน้าที่ +2.6%YoY สูงกว่าที่ตลาดประเมินไว้ที่ +3.6%YoY โดยตัวเลขนี้ถือว่าเป็นการขยายตัวมากสุดในรอบ 13 ปี โดยจุดสำคัญมาจากการปรับตัวขึ้นของ รถมือสองและรถบรรทุก กว่า +10% และราคาตั๋วเครื่องบิน ที่เพิ่มขึ้นกว่า +9.6% ภาพโดยรวมสะท้อนถึงเศรษฐกิจสหรัฐฯมีทิศทางที่ขยายตัวขึ้นดี ซึ่งประเด็นนี้อาจจนำมาซึ่งโอกาสในการปรับลด QE หรือการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯในช่วงถัดไปได้ โดยในด้านตลาดพันธบัตร พบว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีวานนี้ยังคงเร่งตัวขึ้นต่อเนื่องสู่ระดับ 1.69% และด้านตลาดหุ้นมีแรงขายต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นในกลุ่ม Growth Stock
ย่อสร้างฐาน : คาดแนวโน้มระยะสั้น SET ย่อสร้างฐานตอบรับความกังวลจากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯที่เร่งขึ้น โดยเชื่อว่าช่วง 1 เดือนนี้ ในการลงทุนทั้งในตลาดพันธบัตรและตลาดหุ้นจะให้ความสำคัญต่อปัจจัยระยะสั้นมากกว่าระยะไกล เพิ่มความระมัดระวังในกลุ่ม Growth Stock ที่อาจมีความไม่ชัดเจนในแนวโน้มกำไรที่คาดหวังไว้ แต่อย่างไรก็ดีด้วยโครงสร้างภาพใหญ่ของตลาดหุ้นไทยที่มีสัดส่วนกลุ่ม Value Stock สูง จึงคาดว่าในช่วง 1 เดือนนี้ ระดับ SET 1500 จุดจะยังเป็นแนวรับที่แข็งแกร่ง และรอติดตามการประชุม FED 15-16 มิถุนายน เพื่อกำหนด Policy สำคัญในช่วงถัดไป
MARKET SUMMARY
วานนี้ SET ย่อตัวในช่วงเช้าจากความกังวลเงินเฟ้อสหรัฐฯจะเร่งตัวขึ้น แต่มีแรงดีดกลับจากการปรับขึ้นเด่นของ DELTA โดย SET ปิดที่ 1,571.85 (-7.08) มูลค่าการซื้อขาย 1.17 แสนล้านบาท (เทียบกับวันก่อนหน้า 1.02 แสนล้านบาท)
โดยนักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทย 3,256 ลบ. (นักลงทุนสถาบันขาย 3,375 ลบ.) ส่วนตลาด TFEX นักลงทุนต่างชาติเปิด Short Futures ที่ 30,528 สัญญา)
EYES ON
13 พ.ค. ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ
14 พ.ค. ยอดค้าปลีกสหรัฐฯ, ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค สหรัฐฯ
Ichitan Group (ICHI)
หุ้นเกรดเอ ราคา Discount
BUY
Share Price THB 12.10
12 m Price Target THB 16.60 (+40%)
Previous Price Target THB 16.60
ประเด็นการลงทุน
บริษัทมีกำไร 1Q64 ที่ 122 ลบ. (-24%YoY,+45%QoQ) ใกล้เคียงตลาดคาด โดยขยายตัว QoQ จากยอดขายในประเทศโตแกร่งสวนโควิดระลอก 2 และคุมต้นทุนได้ดี ส่วนการหดตัว YoY มาจากฐานที่สูงปีก่อน คาดแนวโน้ม 2Q64 แม้เจอกับโควิดระลอก 3 แต่ยังคาดหวังการโต QoQ ต่อได้ จากบริษัทมีออกสินค้าใหม่, ออเดอร์ OEM เข้า และเป็น High season ของธุรกิจ ผสานกับแนวโน้มกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่จะเริ่มกลับมาใน 2H64 หลังมีการฉีดวัคซีน และ สินค้ากัญชง CBD ที่รอเปิดตัวใน 4Q64 ทำให้เราคาดยังเห็นกำไรปี 64-65 โต 30% (CAGR) บน PER64 ปัจจุบันเพียง 23 เท่า ยังมองเป็นโอกาสสะสมในจังหวะราคาหุ้นโดนผลกระทบโควิด-19 ซึ่งเป็นเพียงปัจจัยชั่วคราว คงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 16.60 บาท ด้วยวิธี DCF (WACC 10.7%, G.3%)
กำไร 1Q64 ดีตามคาด แม้โดนโควิด-19 ระลอก 2
โดยยังเห็นการเติบโต QoQ ได้ จากยอดขายที่ยืน Flat QoQ ได้แม้เจอผลกระทบโควิดระลอก 2 ด้วยอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในประเทศโดยเฉพาะน้ำวิตามิน ผสานกับการคุมต้นทุนที่ดี และมีการเร่งผลิตสินค้าออกใหม่สำหรับ 2Q64 ทำให้มีต้นทุนผลิตต่อหน่วยลดลง หนุน NPM ดีขึ้นเป็น 9.4% จาก 6.9% ในไตรมาสก่อน ส่วนการหดตัว YoY มาจากฐานที่สูงในปีก่อน และ มีสิทธิประโยชน์ทางภาษี BOI ที่หมดไป 7 ลบ.ตั้งแต่ 2Q63
โควิด-19 ระลอก 3 กระทบ แต่ Downside ไม่มาก
จาก (1)ลูกค้า OEM ขอเลื่อนส่งออเดอร์ไป 1 เดือน โดยเราประเมิน downside ต่อประมาณการกำไรจำกัดที่เพียง 1-2% และ (2)ตลาด CLMV โดยเฉพาะ กัมพูชา กับ ลาว เจอกับโควิด-19 ระลอกใหม่ในประเทศ ทำให้แนวโน้มการฟื้นตัวยังดูอ่อนแอ แต่คาดจะถูกชดเชยได้ด้วยกำไรจากธุรกิจ JV ในอินโดนีเซียที่ดีกว่าคาด โดยมีสัญญาณเจาะตลาดได้ และกำลังอยู่ในเฟสขยายช่องทางขาย คาดเห็นการโต QoQ ต่อเนื่องตลอดปี
แนวโน้มยังมี Catalyst หนุนตลอดปี ราคาย่อ มองเป็นโอกาสสะสม
โดยคาดแนวโน้ม 2Q64 จะประคองตัวถึงขยายตัวได้ QoQ แม้โดนผลกระทบโควิด-19 จาก(1)มีการเปิดตัวสินค้าใหม่เป็นน้ำวิตามิน 1 SKUs และเครื่องดื่มเทอร์ปีน 2 SKUs ที่ทำยอดขายช่วงต้นไตรมาสได้ตามเป้า (2)ออเดอร์ OEM จากลูกค้าใหม่ยังมีเข้ามาแม้เลื่อนไป 1 เดือน และ (3)การเป็น High season ของธุรกิจเครื่องดื่ม อีกทั้งคาดจะเห็นการฟื้นตัวใน 2H64 ตามการฉีดวัคซีน และมีสินค้า CBD ที่มีดีมานด์จากตลาดสูง และบริษัทเป็น First Mover ของอุคสาหกรรม รอเปิดตัวช่วง 4Q64 ทำให้เรายังคงประมาณการกำไรปี 64-65 ที่เดิม ที่โตเฉลี่ยต่อปี 30% CAGR ราคาที่อ่อนตัวลงมา ยังมองเป็นโอกาสสะสม กับบริษัทที่ยังมี Catalyst หนุนโมเมนตัมกำไรต่อเนื่องใน 2 ปีข้างหน้า
Thanatphat Suksrichavalit
(66) 2658 5000 ext 1401
Thanalop Preedamanoch
(66) 2658 5000 ext 1511
North East Rubber (NER)
สัญญาณมาร์จิ้นระดับสูงทั้งปี
BUY
Share Price THB 6.60
12 m Price Target THB 7.70 (+17%)
Previous Price Target THB 5.25
ผลการดำเนินงานช่วงที่เหลือ คาดจะดีกว่าไตรมาส 1
เราปรับประมาณการกำไรปี 2564 ขึ้น 27% หลังพบว่า ออร์เดอร์ที่เตรียมส่งมอบจนถึง ต.ค. 2564 มีแนวโน้มจะได้อัตรากำไรขั้นต้นในระดับสูงต่อจากไตรมาส 1/64 ที่ทำได้ดีมาก 12.8%ซึ่งผลักดันมาจากอุปสงค์ยางจากประเทศจีนที่สูง, การ matching ออร์เดอร์ขายและการผลิตที่ดี, การเตรียมการด้านวัตถุดิบล่วงหน้าที่ดี ตย. การชนะประมูลยางเก่า กยท. 1 แสนตัน และการได้ economies of scale ของโรงงานผลิต เรายก P/E ขึ้นจาก 7.0 เป็น 8.0 เท่า เพื่อสะท้อนการเติบโตที่แข็งแกร่ง +88.7% YoY ปีนี้ ได้ราคาเหมาะสมใหม่ 7.70 บาท/ หุ้น (fully diluted จาก NER-W1 คงเหลือ 223 ลห.) คงเหลือ upside 15% เพิ่มคำน้ำหนักจาก ถือ เป็น “ซื้อ”
ไตรมาส 1 ดีแล้ว ไตรมาส 2 คาดจะดีกว่า
หลังรายงานงบไตรมาส 1/64 ที่สดใส กำไรสุทธิ 366 ลบ. -13.1% QoQ และ +511.9% YoY ดีกว่าตลาดคาด 4% ผลักดันจากอัตรากำไรขั้นต้นระดับสูง 12.8% (vs 9.3% ไตรมาสก่อน) หักล้าง Low season และ ปัญหาตู้สินค้าส่งออกขาดแคลนได้ ผบห.เผยในการประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ว่า ปริมาณการส่งออกไตรมาส 2 จะฟื้นดีกว่าทุกปีเนื่องจากมีสินค้าตกค้างมาจากไตรมาส 1/64 ทำให้คาดปริมาณขายจะเพิ่มราว +10% QoQ ได้ ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นยังคงยืนสูงตามทิศทางราคายางพาราตลาดที่ยังยืนค้างต่อจากไตรมาส 1/64 ผลักดันจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งของอุตสาหกรรมยางรถยนต์ในจีน เบื้องต้นเราคาดกำไรปกติราว 450+/- ลบ. +8% QoQ +182% YoY แนวโน้มสดใสต่ออีกไตรมาส
ปี 2565 ได้กำลังการผลิตใหม่มาอีก 11%
ผู้บริหารเผยว่า ปัจจุบันบริษัทมีออร์เดอร์ถึงเดือน ต.ค. 64 ขณะที่การชนะประมูลซื้อยางเก่า 1 แสนตัน จาก กยท. ก่อนหน้า เสมือนช่วยให้บริษัทเตรียมวัตถุดิบราคาถูกไว้อย่างมั่นคงอีกด้วย แม้จะมีประเด็นอุตสาหกรรมถุงมือยางดูดอุปทานออกไป ผบห. มั่นใจว่า อัตรากำไรขั้นต้น 10-14% จะทำได้ในปีนี้ ส่วนกำลังการผลิตใหม่ 50,000 ตัน/ ปี เงินลงทุนรวม 130 ลบ. ก็จะมาในปลายปี ทำให้กำลังการผลิตรวมปี 2565 จะเพิ่มอีก +11% เป็น 5.15 แสนตัน/ ปี ดังนั้นการเติบโตในเชิงปริมาณ เชื่อจะเห็นได้ต่อไป ส่วนขนาดของกำไรนั้น จะต้องติดตามทิศทางราคายางพารา และ อัตราแลกเปลี่ยน ปัจจุบันทั้ง 2 อยู่ในทิศทางที่ดี ยางแผ่นรมควันชั้น 3 สูงกว่าปีก่อนราว 70% และ ค่าเงินบาทอ่อนค่ามาแล้ว 3.8%
ปรับประมาณการกำไรปกติขึ้น 27% สู่ 1.78 พัน ลบ.
เราคงสมมติฐานปริมาณขายปี 2564/65 ไว้เท่าเดิม 450,000/480,000 ตัน แต่ปรับสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นขึ้นจาก 11.5% เป็น 12.5% หลัง ผบห.เผยว่า ออร์เดอร์, ราคา และ วัตถุดิบ ได้กำหนดล๊อคไว้เรียบร้อยหมดแล้วถึงเดือน ต.ค. ในระดับมาร์จิ้นที่สูงกว่าประมาณการก่อนหน้าของเรา ส่งให้กำไรปกติปี 2564 ถูกปรับขึ้น 27% เป็น 1.78 พัน ลบ. +88.7% YoY ทำให้กำไรไตรมาส 1/64 ซึ่งเป็น Low season ของบริษัทคิดเป็น 24% ของประมาณการใหม่แล้ว
Jaroonpan Wattanawong
(66) 2658 6300 ext 1404
Sonic Interfreight (SONIC)
กำไรทำสถิติใหม่ตามที่มองไว้
BUY
Share Price THB 3.30
12 m Price Target THB 3.80 (+15%)
Previous Price Target THB 3.80
ธุรกิจ Sea freight เป็นพระเอก และเปิดโอกาสปรับประมาณการขึ้นอีกแล้ว
SONIC รายงานกำไรเป็นสถิติใหม่อย่างยอดเยี่ยม 41 ลบ. เติบโต +43.9% QoQ และ +206.3% YoY และดีกว่าคาด 12% โดยธุรกิจ Sea freight ทำรายได้เป็นสถิติใหม่ จากอุปสงค์ที่แข็งแรง และได้ประโยชน์ทางอ้อมจากภาวะขาดแคลนตู้สินค้า ทำให้อัตราค่าบริการสูงขึ้นเป็นเงาตามกัน และมีแนวโน้มว่า ไตรมาส 2/64 จะทำได้ดีต่อ ส่วนธุรกิจใหม่ (ปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถหัวลาก) ก็ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เรามองว่าทิศทางที่สดใสในปี 2564 ยังดีต่อไป และมีโอกาสปรับประมาณการกำไรขึ้นได้อีก เราคงคำแนะนำ “ซื้อ”
กำไรไตรมาส 1/64 ดีกว่าคาด 12%
SONIC รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/64 เป็นสถิติใหม่ที่ 41 ลบ. ขยายตัว +43.9% QoQ และ +206.2% YoY สูงกว่าคาดของเรา 12% โดยสิ่งที่ SONIC ทำได้ดีมากในไตรมาสนี้คือ รายได้รวมที่สูงทำสถิติใหม่ 605 ลบ. ผลักดันจากหน่วยธุรกิจการขนส่งทางทะเล (Sea freight) ซึ่งได้รับแรงผลักดันจากภาคส่งออกไทยที่ฟื้นตัว กับ การขาดแคลนตู้สินค้าจนทำให้ค่าระวางเรือคอนเทนเนอร์พุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้อัตราค่าบริการปรับตัวขึ้นด้วยในทางเดียวกัน ดันให้สัดส่วนรายได้จาก Sea freight เพิ่มเป็น 77% จาก 66% ของรายได้รวมในปี 2563 ขณะที่กระบวนการกำหนดราคาแบบ Cost plus ทำให้อัตรากำไรยังทรงตัวที่ 18.0% ดังนั้นกำไรในรูปตัวเงินจึงขยับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และเป็นสถิติใหม่ของบริษัท
แนวโน้มไตรมาส 2/64 ธุรกิจหลักคาดดีต่อ ธุรกิจใหม่เริ่มอย่างเป็นทางการ
เราคาดว่าทิศทางการส่งออกของไทยยังคงดีต่อในไตรมาสนี้ ทำให้แนวโน้มกำไรของ SONIC คาดจะยังอยู่ในระดับที่ดี นอกจากนั้น หน่วยธุรกิจใหม่ (ปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถหัวลาก) สำหรับรถล๊อตใหม่ 40 คัน ที่จะดันให้ขนาดพอร์ตสินเชื่อแตะ 140 ลบ. ในกลางปีนี้ ก็จะเริ่มต้นขึ้น ระหว่างไตรมาส 2/64 (ไตรมาส 1/64 มีรายได้ดอกเบี้ยรับจากรถล๊อคแรก 8 คันแล้ว 0.78 ลบ.) ดังนั้นเราคาดว่าผลกำไรไตรมาส 2/64 จะยังขยายตัว QoQ และ YoY อย่างโดดเด่น
คงคำแนะนำ “ซื้อ”
กำไรสุทธิไตรมาส 1/64 คิดเป็น 37% ของประมาณการ ทำให้มีโอกาสที่เราจะต้องปรับประมาณการกำไรขึ้น โดยเราจะเฝ้าดูพัฒนาการของหน่วยธุรกิจใหม่ และโมเมนตัมที่ต่อเนื่องของภาคส่งออกในเดือน พ.ค. ก่อนพิจารณาปรับประมาณการอีกครั้ง ระหว่างนี้ เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 3.80 บาท/ หุ้น อิง P/E 19.1 เท่าตามเดิม (อิงการแปลง W จำนวน ¼ ส่วนในปีแรก)
Jaroonpan Wattanawong
(66) 2658 6300 ext 1404
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web