WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

Today's Selection : BTS, SCC, CPF, BGH
Follow Buy : -

Follow Sell : -

คาดผันผวนทั้งสัปดาห์ ติดตาม ครม.-นายกฯคนใหม่
  ตลาดหุ้นยุโรปปิดในแดนบวก ขานรับดัชนีความเชื่อมั่นผู้ภาคครัวเรือนในเขตยูโรโซนที่ปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 6 ปี ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯฟื้นตัวต่อเนื่อง หลังยอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้น 6.4% ทำสิถิติสูงสุดในรอบ 6 เดือน จากต้นทุนกู้ยืมที่ลดลงและภาวะการจ้างงานที่ดีขึ้น
  แนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ คาดเคลื่อนไหวผันผวน โดยประเด็นที่สำคัญที่ต้องติดตาม การแต่งตั้งนายกฯคณะ ครม. ชุมใหม่ รวมถึง Roadmap การบริหารประเทศ ขณะที่เรามองว่าการชุมนุมประปรายคัดค้านการทำรัฐประหาร ไม่น่าจะส่งผลกดดันอย่างมีนัยต่อดัชนี นอกจากนี้ เรามองว่าตลาดหุ้นไทยมี 2 ปัจจัยสำคัญหนุนในระยะยาว (1) ความขัดแย้งทางการเมืองใกล้ถึงข้อยุติและมีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งตลาดหุ้นได้ priced in ประเด็นลบแล้ว โดย นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิไปแล้ว กว่า 2.7 หมื่นล้านบาท YTD (2) การเร่งจ่ายเงินชดเชยจำนำข้าว ราว 9 หมื่นล้านบาท ภายใน 20 วัน ถือว่าเป็นการกระตุ้นกำลังซื้อกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ซึ่งเป็นปัจจัยกระตุ้นเศรษฐกิจสำคัญ นอกจากนี้ เรามองว่าดัชนีมีแนวรับสำคัญที่ 1360-1370 จุด ซึ่งเป็นต้นทุนเฉลี่ยที่ต่างชาติเข้าซื้อหุ้นในรอบที่ผ่านมา ทั้งนี้หาก SET Index อ่อนตัวจากเหตุการณ์ไม่คาดคิด เรามองว่าเป็นโอกาสดีให้เข้าซื้อสะสมหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีและมีเงิน ปันผลสูง เช่น ADVANC, BTS, BCP, INTUCH, SCC
  วันนี้คาด SET Index เคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ โดยได้แรงหนุนจากปัจจัยต่างประเทศ ขณะที่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงระหว่างกลุ่มผู้ต่อต้านและเจ้าหน้าที่ แต่ค่าเงินบาทเช้านี้ เคลื่อนไหวในกรอบ 32.53-32.58 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าเล็กน้อย คาดว่า แรงขายต่างชาติยังคงกดดันจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
  กลยุทธ์การลงทุน: แนะนำถือหุ้นที่เหลืออยู่ 50%-60% ต่อไป โดยสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าซื้อหุ้นเพิ่ม แนะนำรอจังหวะเข้าซื้อที่ระดับดัชนี 1360 - 1380 จุด มองว่ากลุ่มที่จะแข็งแกร่งกว่าตลาด ณ ขณะนี้ ได้แก่ อิเล็กทรอนิกส์ ปิโตรเคมี พลังงาน ค้าปลีก และอาหาร ส่วนกลุ่มที่แนะนำหลีกเลี่ยงหรือลดน้ำหนักได้แก่ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ รับเหมาก่อสร้าง สื่อสาร บันเทิง และหลักทรัพย์
  วันนี้เราออกบทวิเคราะห์ BTS (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 11.20 บาท) 4Q57 กำไรสุทธิ 413 ล้านบาท..ปี 58 โฆษณาหนุน รถไฟฟ้าทรงตัว

 

Stock S R Comment
BTS 7.90 8.15 กำไร 4Q57 อ่อนตัวเล็ก QoQ แจกปันผล 0.21 บาท
SCC 400.00 416.00 หุ้นปันผลสูง ปัจจัยพื้นฐานแกร่ง
CPF 26.50 28.50 คาดผลประกอบการฟื้นตัวต่อเนื่อง
BGH 14.90 15.60 ผลกระทบการเมืองไม่มีนัยต่อการดำเนินงาน
  แนวรับ 1,375 แนวต้าน 1,413

 

หุ้นมีข่าว :
       รฟม.ปรับเงื่อนไข TOR รถไฟฟ้าสายสีเขียว: ช่วงหมอชิต-คูคต ให้เป็นมาตรฐาน โดยได้มีการพิจารณากำหนดให้เป็นมาตรฐาน การกำหนดเงื่อนไขด้านผลประกอบการ เช่น หลักของไจก้า 2.5 เท่า ขึ้นไป เป็น100 ล้านบาท โดยจะเปิดประกาศ 15 วันและให้โอกาสผู้ซื้อซอง อีก 90 วัน อย่างไรก็ตาม เราคาดว่า CK-ITD-STEC จะเข้าร่วมยืนประมูลโครงการดังกล่าวด้วย ซึ่งเรามองว่า อย่างน้อย 2 ใน 3 น่าจะชนะการประมูล ทั้งนี้ เรามองว่าราคาหุ้นอ่อนตัวลงหลังการประกาศรัฐประหาร ดังนั้นจึงเป็นโอกาสเข้าลงทุน (CK ซื้อ ราคาเป้าหมาย 30 บาท STEC ซื้อ ราคาเป้าหมาย 23.80 บาท)
       คสช.ควบคุมการออกอากาศ: จากการรัฐประหารทำให้ธุรกิจสื่อ ช่องทีวี รวมถึงกล่องรับสัญญาณดามเทียมและเคเบิลต่างๆถูกควบคุม และงดออกอากาศในบางช่องหรือบางช่วงเวลา เรามองว่าจากเหตุการณ์นี้น่าจะกระทบผลการดำเนินงานในกลุ่มที่ทำกล่องรับสัญญาณดาวเทียม และกลุ่มผู้ทำช่องทีวีดิจิตอล เช่น GRAMMY, RS, BEC, MCOT, WORK หลังจากใน 1Q57 มีผลการดำเนินงานที่อ่อนแอ และใน 2Q57F น่าจะยังไม่ดีขึ้น จากการที่กล่องและตัวช่องเองไม่สามารถแพร่ภาพได้ กระทบค่าโฆษณา ส่วนเรื่องที่จะกระทบมากหรือน้อยยังขึ้นอยู่กับปัจจัยเรื่องระยะเวลาที่ควบคุมออกอากาศว่าจะสิ้นสุดเมื่อใด นอกจากนี้ยังกระทบธุรกิจอีเวนต์ เช่น คอนเสิร์ตที่ไม่สามารถจัดการแสดงได้ ซึ่งมองว่าอย่างเร็วที่สุดน่าจะกลับมาใน 2H57 และอีกบริษัทในกลุ่มที่กระทบชัดเจนคือ MAJOR เนื่องจากการปิดทำการเร็วขึ้นตามประกาศโดยรอบฉายสุดท้ายจะเป็น 19.00 น.กระทบรายได้2Q57จึงแนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนในกลุ่มฯ

Analysts :
ดุลเดช บิค, CFA, FRM, CAIA (ID: 29932)
E-mail: [email protected]
ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379)
E-mail: [email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!