WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 27-1-2021May

27 มกราคม 2564 / กลยุทธ์การลงทุนรายวัน

SET

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์

1,512.83 +11.21

สรุปมูลค่าการซื้อขาย

นักลงทุน          สุทธิ

สถาบัน       -1,411.79

บัญชี บล.       1,361.97

ต่างชาติ       -2,444.20

ในประเทศ   2,494.02

MARKET SUMMARY

วานนี้ SET ฟื้นตัว สวนทางตลาดภูมิภาค โดยมีการซื้อกลับในหุ้น EA, KTC, DELTA เด่น โดยSET ปิดที่ 1,512.83 (+11.21 จุด) มูลค่าการซื้อขาย 8.8 หมื่นล้านบาท (เทียบกับวันก่อนหน้า 8.3 หมื่นล้านบาท) โดยนักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทย 2,444 ลบ. (นักลงทุนสถาบันขาย 1,412 ลบ.) ส่วนตลาด TFEX นักลงทุนต่างชาติเปิด Short Futures ที่ 8,690 สัญญา)

STOCK PICKS & TRADING IDEA

EPG (เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 9.0 บาท) คาดแนวโน้มกำไร 4Q63-1Q64 จะเติบโตได้ทั้ง QoQ, YoY จากการฟื้นตัวในทั้ง 3 ธุรกิจหลัก โดย 1) Aeroflex คาดได้แรงหนุนจากการกระตุ้น US ที่มากขึ้น 2) Aeroklas รับอานิสงส์บวกจากตลาดรถยนต์ที่ขยายตัวขึ้นตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 63 และ 3) ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ได้แรงหนุนจาก COVID-19 เร่งการใช้บรรจุภัณฑ์มากขึ้น

INVESTMENT THEME

IMF ปรับเพิ่ม GDP โลกปี 64 ขึ้นสู่ +5.5% : วานนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก โดยได้ประเมินเศรษฐกิจโลกปี 63 จะหดตัว -3.5% ดีกว่าคาดการณ์เดิมเมื่อเดื่อน ต.ค.63 ที่ -4.4% และปี 2564, 2565 จะกลับมาขยายตัว +5.5%, +4.2% จากพัฒนาการเชิงบวกของวัคซีน ที่เริ่มมีการฉีดในวงกว้าง ผสานกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการคลังเพิ่มเติมทั่วโลกเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญ ส่วนหากพิจารณาเป็นรายกลุ่มประเทศ พบว่า IMF คาด GDP กลุ่มประเทศ Advanced Economics ปี 64,65 ที่ +4.3%, +3.1% ปรับเพิ่มขึ้น +0.4%, +0.2% ตามลำดับ และคาด GDP กลุ่มประเทศ Emerging Market ปี 64,65 ที่ +6.3%, +5.0% ปรับเพิ่มขึ้น +0.3%, -0.1% ตามลำดับ สำหรับรายประเทศสำคัญที่รอบนี้ IMF มีการปรับคาดการณ์ GDP ปี 64 ขึ้นมาก เช่น อินเดีย (จาก +8.8% สู่ +11.5%), สหรัฐฯ (จาก +3.1% สู่ +5.1%), ญี่ปุ่น (จาก +2.3% สู่ +3.1%) ส่วนประเทศที่โดยปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 64 เช่น อิตาลี (จาก +5.2% สู่ +3.0%), อังกฤษ (จาก +5.9% สู่ +4.5%), เยอรมนี (จาก +4.2% สู่ +3.5%) ส่วนไทย ปี 64 ถูกปรับลงเป็น +2.7% จาก +4.0% แต่มีการปรับปี 65 ขึ้นสู่ +4.6% จาก +4.4% โดยสรุปถือว่ารอบนี้ IMF มีมุมมองที่ดีขึ้นต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ส่งผลบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงในระยะกลาง

Investment Strategy : วันนี้คาด SET แกว่ง sideway แนวรับ 1,500 จุด และแนวต้าน 1,520 จุด เน้นหุ้นที่มีพัฒนาการเชิงบวก โดย ATO Picks วันนี้แนะนำ “EPG, SPALI”

EYES ON

ปัจจัยต่างประเทศ

- 27 ม.ค. ประชุม FED, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน US

- 28 ม.ค. 4Q63 US GDPดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค Eurozone

ปัจจัยในประเทศ :

29 ม.ค. รายงานภาวะเศรษฐกิจประจำเดือนจาก BOT

การรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน

SET

แนวรับ   :   1505 / 1490

แนวต้าน :   1530 / 1560

IRPC (IRPC TB)

ผลิตภัณฑ์เคมียังคงโตแกร่ง

BUY

Share Price           THB 3.72

12m Price Target     THB 4.50 (+21%)

Previous Price Target THB 3.10

คงคำแนะนำ ซื้อ - แนวโน้มยังดูดี

ราคาหุ้น IRPC ลดลง 4% (YTD) ต่ำกว่าดัชนี SET 8% โดยส่วนต่างราคาและราคาเคมีลดลงเล็กน้อยเนื่องจากการหยุดชะงักของอุปทานใน 4Q63 ผ่อนคลายลง อย่างไรก็ตาม ระดับโดยรวมยังคงอยู่ในเกณฑ์ดีโดยได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ในภูมิภาค IRPC เป็นผู้ได้รับผลประโยชน์หลักจากราคาเม็ดพลาสติกชนิด ABS (ผู้ผลิตรายเดียวในประเทศไทย) และส่วนต่างราคา PP เพิ่มสูงขึ้นในไตรมาส 4/63 เราคาดว่าไตรมาส 4/63 จะเป็นไตรมาสที่มีผลประกอบการที่แข็งแกร่งและมีกำไรหลักที่ดีขึ้น คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 4.5 บาท (P/B ปี 64 ที่ 1.2 เท่า ค่าเฉลี่ยในอดีต)

กำไรหลักไตรมาส 4/63 ดีขึ้น

เราประเมินกำไรไตรมาส 4/63 ที่ 1.4 พันล้านบาท (-7% QoQ) และกลับมาเป็นบวก YoY ผลการดำเนินงานหลักจะดีขึ้นจากส่วนต่างราคาเคมีที่ดีมาก โดย GIM ในไตรมาส 4/63 จะเพิ่มขึ้น 2.3 เหรียญสหรัฐ / บาร์เรล QoQ เป็น 11 เหรียญสหรัฐ / บาร์เรล เป็นผลจาก1) GRM เพิ่มขึ้น 0.6 เหรียญสหรัฐ / บาร์เรล 2) ธุรกิจเคมีเพิ่มขึ้น 1.7 เหรียญสหรัฐ / บาร์เรล เราประมาณการค่าการกลั่นไตรมาส 4/63 อยู่ที่ 1.3 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (+0.6 เหรียญสหรัฐ / บาร์เรล) ส่วนใหญ่เป็นผลมาจาก premium น้ำมันดิบพลิกเป็นส่วนลด ในขณะที่ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย กำไรขั้นต้นจากการผลิตตามราคาตลาด (product to feed margin) เพิ่มขึ้นเป็น 8.5 เหรียญสหรัฐ / บาร์เรล โดยทั้งสไตรีนิกส์และโอเลฟินส์มีอัตรากำไรเพิ่มขึ้น 0.8 เหรียญสหรัฐ / บาร์เรล QoQ, สเปรด PP และ ABS เพิ่มขึ้น 27% และ 50% จากการหยุดชะงักของอุปทานและอุปสงค์ที่ฟื้นตัวจากจีน เราคาด IRPC มีกำไรจากสต็อกที่ 4 เหรียญสหรัฐ / บาร์เรล ทำให้ GIM อยู่ที่ 15 เหรียญสหรัฐ / บาร์เรล ต้นทุนไตรมาส 4/63 เพิ่มขึ้นเป็น 12 เหรียญสหรัฐ / บาร์เรล (10.3 เหรียญสหรัฐ / บาร์เรลในไตรมาส 3/63) เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่ไม่เกิดขึ้นประจำจากโครงการโนอาห์ (โครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด

โมเมนตัม ABS และ PP เริ่มชะลอ

สเปรด ABS ในเดือน พ.ย.และธ.ค.อยู่ที่ระดับปกติ 1,700 เหรียญสหรัฐ / ตัน (1,300 เหรียญสหรัฐ / ตันในเดือนต.ค.และ 1,000 เหรียญสหรัฐ / ตัน ใน 9 เดือนแรกปี 63) โมเมนตัมเริ่มชะลอ โดยสเปรดเดือน ม.ค. ลดลงเหลือ 1,600 เหรียญสหรัฐ / ตัน โรงงาน LG Chem (ABS 1mta) คาดว่าจะกลับมาออนไลน์ได้ในปลายเดือนม.ค.หลังจากไฟไหม้ในเดือนพ.ย. คาดสเปรด ABS จะอยู่ที่ 1300 เหรียญสหรัฐ / ตันใน 1H64 อัพไซด์คือความต้องการรถยนต์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของจีน โดย GDP ไตรมาส 4/63 ของจีนสร้างความประหลาดใจที่ 6.5% YoY และอาจคงอยู่ต่อไป สเปรด PP แตะจุดสูงสุดในเดือน ธ.ค.ที่ 770 เหรียญสหรัฐ / ตันและลดลงเหลือ 680 เหรียญสหรัฐ / ตัน กำลังการผลิต PP ใหม่ของปี 64 ส่วนใหญ่จะเริ่มออนไลน์ใน 2H64 พร้อมกับ Malaysia’s Rapid (900kta PP) ที่จะออนไลน์ใน 2Q64 เราประเมินสเปรด PP ใน 1H64 เฉลี่ยที่ 650 เหรียญสหรัฐ / ตัน อุปทานที่ตึงตัวในครึ่งปีแรกอาจทำให้ตลาดไม่คาดคิด โดยความต้องการบรรจุภัณฑ์ หน้ากากอนามัยและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัยยังคงแข็งแกร่ง

โมเมนตัมเทียบกับระดับสูงสุด

การลดลงของสเปรด PP และ ABS ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เนื่องจากอุปทานหยุดชะงักชั่วคราว อย่างไรก็ตาม เราแนะนำนักลงทุนเน้นที่ระดับที่แน่นอน เนื่องจากจะเป็นแรงหนุนสำคัญต่อรายได้ เราประเมินสเปรด PP และ ABS ปี 64 ที่ 600 เหรียญสหรัฐ / ตันและ 1,300 เหรียญสหรัฐ / ตัน สูงขึ้น 10% และ 15% จากปีก่อน เราเห็นอัพไซด์จากอุปสงค์ของจีน โดยทุกๆ 100 เหรียญสหรัฐ / ตันที่เพิ่มขึ้นในสเปรด ABS และ PP จะส่งผลให้ GIM เพิ่ม 0.3 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และ 1 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

Kaushal Ladha, CFA

[email protected]

(66) 2658 5000 ext 1392

SCG Packaging (SCGP)

กำไร 4Q63 ดีขึ้น ตั้งเป้าโต 2 หลัก

BUY

Share Price                     THB 46.75

12m Price Target         THB 51.00 (+9%)

Previous Price Target   THB 48.00

คงคำแนะนำ ซื้อ - แนวโน้มยังดูดี

ราคาหุ้น IRPC ลดลง 4% (YTD) ต่ำกว่าดัชนี SET 8% โดยส่วนต่างราคาและราคาเคมีลดลงเล็กน้อยเนื่องจากการหยุดชะงักของอุปทานใน 4Q63 ผ่อนคลายลง อย่างไรก็ตาม ระดับโดยรวมยังคงอยู่ในเกณฑ์ดีโดยได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ในภูมิภาค IRPC เป็นผู้ได้รับผลประโยชน์หลักจากราคาเม็ดพลาสติกชนิด ABS (ผู้ผลิตรายเดียวในประเทศไทย) และส่วนต่างราคา PP เพิ่มสูงขึ้นในไตรมาส 4/63 เราคาดว่าไตรมาส 4/63 จะเป็นไตรมาสที่มีผลประกอบการที่แข็งแกร่งและมีกำไรหลักที่ดีขึ้น คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 4.5 บาท (P/B ปี 64 ที่ 1.2 เท่า ค่าเฉลี่ยในอดีต)

กำไรหลักไตรมาส 4/63 ดีขึ้น

เราประเมินกำไรไตรมาส 4/63 ที่ 1.4 พันล้านบาท (-7% QoQ) และกลับมาเป็นบวก YoY ผลการดำเนินงานหลักจะดีขึ้นจากส่วนต่างราคาเคมีที่ดีมาก โดย GIM ในไตรมาส 4/63 จะเพิ่มขึ้น 2.3 เหรียญสหรัฐ / บาร์เรล QoQ เป็น 11 เหรียญสหรัฐ / บาร์เรล เป็นผลจาก1) GRM เพิ่มขึ้น 0.6 เหรียญสหรัฐ / บาร์เรล 2) ธุรกิจเคมีเพิ่มขึ้น 1.7 เหรียญสหรัฐ / บาร์เรล เราประมาณการค่าการกลั่นไตรมาส 4/63 อยู่ที่ 1.3 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (+0.6 เหรียญสหรัฐ / บาร์เรล) ส่วนใหญ่เป็นผลมาจาก premium น้ำมันดิบพลิกเป็นส่วนลด ในขณะที่ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย กำไรขั้นต้นจากการผลิตตามราคาตลาด (product to feed margin) เพิ่มขึ้นเป็น 8.5 เหรียญสหรัฐ / บาร์เรล โดยทั้งสไตรีนิกส์และโอเลฟินส์มีอัตรากำไรเพิ่มขึ้น 0.8 เหรียญสหรัฐ / บาร์เรล QoQ, สเปรด PP และ ABS เพิ่มขึ้น 27% และ 50% จากการหยุดชะงักของอุปทานและอุปสงค์ที่ฟื้นตัวจากจีน เราคาด IRPC มีกำไรจากสต็อกที่ 4 เหรียญสหรัฐ / บาร์เรล ทำให้ GIM อยู่ที่ 15 เหรียญสหรัฐ / บาร์เรล ต้นทุนไตรมาส 4/63 เพิ่มขึ้นเป็น 12 เหรียญสหรัฐ / บาร์เรล (10.3 เหรียญสหรัฐ / บาร์เรลในไตรมาส 3/63) เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่ไม่เกิดขึ้นประจำจากโครงการโนอาห์ (โครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด

โมเมนตัม ABS และ PP เริ่มชะลอ

สเปรด ABS ในเดือน พ.ย.และธ.ค.อยู่ที่ระดับปกติ 1,700 เหรียญสหรัฐ / ตัน (1,300 เหรียญสหรัฐ / ตันในเดือนต.ค.และ 1,000 เหรียญสหรัฐ / ตัน ใน 9 เดือนแรกปี 63) โมเมนตัมเริ่มชะลอ โดยสเปรดเดือน ม.ค. ลดลงเหลือ 1,600 เหรียญสหรัฐ / ตัน โรงงาน LG Chem (ABS 1mta) คาดว่าจะกลับมาออนไลน์ได้ในปลายเดือนม.ค.หลังจากไฟไหม้ในเดือนพ.ย. คาดสเปรด ABS จะอยู่ที่ 1300 เหรียญสหรัฐ / ตันใน 1H64 อัพไซด์คือความต้องการรถยนต์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของจีน โดย GDP ไตรมาส 4/63 ของจีนสร้างความประหลาดใจที่ 6.5% YoY และอาจคงอยู่ต่อไป สเปรด PP แตะจุดสูงสุดในเดือน ธ.ค.ที่ 770 เหรียญสหรัฐ / ตันและลดลงเหลือ 680 เหรียญสหรัฐ / ตัน กำลังการผลิต PP ใหม่ของปี 64 ส่วนใหญ่จะเริ่มออนไลน์ใน 2H64 พร้อมกับ Malaysia’s Rapid (900kta PP) ที่จะออนไลน์ใน 2Q64 เราประเมินสเปรด PP ใน 1H64 เฉลี่ยที่ 650 เหรียญสหรัฐ / ตัน อุปทานที่ตึงตัวในครึ่งปีแรกอาจทำให้ตลาดไม่คาดคิด โดยความต้องการบรรจุภัณฑ์ หน้ากากอนามัยและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัยยังคงแข็งแกร่ง

โมเมนตัมเทียบกับระดับสูงสุด

การลดลงของสเปรด PP และ ABS ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เนื่องจากอุปทานหยุดชะงักชั่วคราว อย่างไรก็ตาม เราแนะนำนักลงทุนเน้นที่ระดับที่แน่นอน เนื่องจากจะเป็นแรงหนุนสำคัญต่อรายได้ เราประเมินสเปรด PP และ ABS ปี 64 ที่ 600 เหรียญสหรัฐ / ตันและ 1,300 เหรียญสหรัฐ / ตัน สูงขึ้น 10% และ 15% จากปีก่อน เราเห็นอัพไซด์จากอุปสงค์ของจีน โดยทุกๆ 100 เหรียญสหรัฐ / ตันที่เพิ่มขึ้นในสเปรด ABS และ PP จะส่งผลให้ GIM เพิ่ม 0.3 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และ 1 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

Kaushal Ladha, CFA

[email protected]

(66) 2658 5000 ext 1392

 

******************************************

 

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!