WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

รอบด้านตลาดหุ้น
พัก
คาดวันนี้ดัชนีฯ Sideways แนวรับ 1,555 ต้าน 1,567 จุด
      หลังจากดัชนีฯปรับฐานเสร็จในเดือน ตค. (รอบนี้ Bottom out ไปที่ 1,520 จุด) แนวโน้มเดือน พย.คาดดัชนีฯจะเริ่มฟื้นตัว แนะนำ ซื้อหุ้นบูลชิพที่ Undervalue (PBV, PE ต่ำ, Upside สูง) และ หุ้นกลาง-เล็ก ที่มีประเด็นสนับสนุน คาดกรอบรายเดือน แนวรับ 1,520 จุด ต้าน 1,580 จุด แนะนำหุ้นบูลชิพที่ลงแรงจน PBV ต่ำกว่าหรือใกล้ 1 เท่า, PE ต่ำกว่า 10 เท่า หรือมีอัตราการเติบโตปีหน้าที่สูงมาก, มี Upside to fair เกิน 20% แนะนำ ซื้อ BBL PTTGC AP ซื้อเก็งกำไร AAV RCL TTA SC KKP, กลุ่มที่คาดว่าจะ Outperform ดัชนีฯ คาดได้แก่ ค้าปลีก สื่อสาร บ้าน แบงก์

      หุ้นแนะนำ TSE (TP 6.5 บ.) EPS 2015 0.35 บาท หากอิงกรอบ PE อุตสาหกรรม 10-30 เท่า คาดกรอบราคาอยู่ที่ 3.5-10.50 บาท/หุ้น , BH (Recommendation upgrade)

BLS รายงานพื้นฐานวันนี้ (ดูรายละเอียดฉบับเต็ม)
(+) TSE คาด EPS ปี 2015 ที่ 0.35 บาท กรอบ PE 2015 ด้านบน (EA GANKUL) เฉลี่ยอยู่ที่ 30 เท่า และ กรอบด้านล่างค่าเฉลี่ย PE กลุ่มพลังงานทดแทนอยู่ที่ 10 เท่า (คาดราคาเป้าหมาย อิงกรอบ PE ต่ำสุด คาดอยู่ที่ 3.5 บาท Downside จำกัด และ สูงสุด 10.50 บาท (Upside>Downside จากราคาจอง 3.9 บาท)) / เราคาดราคาเป้าหมายปี 15 ที่ 6.5 บาท
(+) BH เรากลับมาแนะนำ ซื้อ ด้วยราคาเป้าหมาย ใหม่ 146 บาท (ปรับขึ้นจาก 133 บาท) จากอัตรากำไรขั้นต้นที่คาดเพิ่มขึ้นเป็น 38.5% จาก 37% เป็นผลจาก Utilization rate ปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็น 70% จาก 1H14 ที่ 60% คาดมีโอกาสดีขึ้นได้อีกเป็น 80-85%
(+) SCC กำไร 3Q14 ที่ 7.8 พันล้านบาท ดีกว่าคาด 10% คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 540 บาท คาดผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ด้านผู้บริหารมองกำไร 4Q14-1Q15 จะทรงๆ และเร่งตัวขึ้นตั้งแต่ 2Q15 เป็นต้นไป

หุ้นมีข่าว
(0) THCOM คาดราคาหุ้นลงแรงเมื่อวานจากข่าว รัฐบาลลงทุนทำดาวเทียมแห่งชาติ แต่ราคาที่ลงเพราะข่าวนี้มองเป็นโอกาสในการซื้อ เพราะสัดส่วนรายได้ของราชการที่ใช้ดาวเทียมไทยคม#4 มีน้อยมาก ส่วนไทยคม#5-6 แทบไม่มีสัดส่วนรายได้จากราชการ
(+) SAMART สรุปแผนลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าปลายปีนี้ / คาดว่าการลงทุนต้องมีการเตรียมlภาพคล่องจำนวนมาก อาจแจกวอแรนต์ หรือ Strategic partner
(+) BBL กำลังขอแก้ Foreign limit เป็น 49% จาก 25% คาดจะเป็นปัจจัยเร่งให้ราคาหุ้นขึ้นแรง

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(-) ประชุมเฟด แถลงยุติโครงการ QE และส่งสัญญาณเข้มงวดมากกว่าที่ตลาดคาด "the Committee did not mention any external risk to its outlook, suggesting that it perceived the impact of these external shocks (e.g., slowdown in global growth, stronger dollar) to be restrained. Moreover, at this point, it appears to view the lower energy prices as transitory shocks to inflation, and remains confident that inflation will pick up in the medium-to-long run"
(+) วันพฤหัส US GDP 3Q14 1st คาด +3% จาก 4.6% (q-q) สเปน GDP (3Q14 1st) คาด +0.5% จาก +0.6% เงินเฟ้อเยอรมนี และ EU economic sentiment
(+) ศุกร์ US Core PCE (เงินเฟ้อ) คาด +0.1%, ยุโรป HICP inflation คาด +0.4% จาก 0.3%, ประชุม ธ.กลางญี่ปุ่น BOJ, ไทย Mfg production (กย.) คาด -0.3% จาก -2.7%

หุ้นในกระแส
(+) กำไร 3Q14 เติบโตสูง CPF QH AP
(-) กำไรสุทธิ 3Q14 มีแนวโน้มแย่ลง TOP PTTGC BCP IRPC
(+) กระแสข่าว M&A: SST IFEC

วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน

ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาด

สหรัฐยุติโปรแกรม QE ในการประชุมเดือนต.ค
     คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (เอฟโอเอ็มซี) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศยุติโครงการซื้อสินทรัพย์ หรือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ดำเนินการนับจากปี 2009 เพราะภาวะเศรษฐกิจและตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฟดยังให้คำมั่นว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกเป็นเวลานานขึ้น เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวต่อไป (Bloomberg)

'ปรีดิยาธร' ชง 16 มาตรการดูดต่างชาติ เตรียมเสนอครม.เคาะภายใน 3 สัปดาห์
      ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า รัฐบาลเตรียมออกมาตรการชุดเพื่อส่งเสริมให้เกิดการลงทุนใหม่ในไทย โดยคาดว่าจะมีประมาณ 16 มาตรการในอีก 3 สัปดาห์ ซึ่งมีทั้งมาตรการภาษีและไม่ใช่ภาษี เช่น การส่งเสริมให้บริษัทข้ามชาติเข้ามาลงทุนตั้งสำนักงานใหญ่ในไทย สามารถใช้กรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นฐานการลงทุนเชื่อมโยงกับการลงทุนในภูมิภาค (หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์)

       หนุน'ศก.ดิจิทัล'เพิ่มขีดแข่งขัน เอกชนห่วงคนไม่พร้อม-นโยบายสะดุดจากเปลี่ยนรัฐบาล
"ปรีดิยาธร"ลั่นเดินหน้า ทันที 1 ม.ค.ปีหน้า วางรากฐานให้ประเทศ รัฐบาลเดินหน้าเศรษฐกิจ "ดิจิทัล" หวังสร้างโอกาส-ประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจ เริ่มทันที 1 ม.ค.ปีหน้า ด้านเอกชนหนุนเต็มที่มั่นใจหากทำได้จริง เพิ่มขีดแข่งขันประเทศขณะเดียวกันเป็นห่วงความพร้อมของคนการศึกษาไม่เอื้อ ห่วงเปลี่ยนแปลงรัฐบาลทำนโยบายสะดุด (หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ)

ปูนซิเมนต์ไทย กำไรไตรมาส 3 ดิ่ง 20%
      "เอสซีจี" กำไรไตรมาส 3 ลดลง 20% หลัง ความต้องการปูนซีเมนต์ลดลง 3% หวังไตรมาสสุดท้ายเริ่มฟื้น จากงบลงทุนภาครัฐ-เอกชน ดันกำไรไตรมาส 4 ในสูงสุดรอบปี พร้อมเพิ่มเป้ายอดขายปีนี้แตะ 4.88 แสนล้านบาท ประเมินปี 2558 ตลาดปูนซีเมนต์โต 5% จากลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน (หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ)

นายกฯเล็งถก พัฒนาพลังงาน เอ็มโอยูกัมพูชา
      "ประยุทธ์" เยือนกัมพูชาเป็นประเทศที่ 2 ในอาเซียนวันนี้ ลงนามเอ็มโอยู 3 ฉบับเรื่องความร่วมมือแก้ปัญหาค้ามนุษย์สนับสนุนการท่องเที่ยวร่วมกัน และการเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟ ยอมรับเตรียมไปหารือเรื่องพลังงานในพื้นที่ทับซ้อน ลั่นไม่เอาเส้นเขตแดนมาเป็นปัญหา (หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ)

ธุรกิจตีปีกรับแผนไฟฟ้าโดยลดพึ่งพากาซธรรมชาติลง
     นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบ้านปู เปิดเผยว่า บริษัทสนับสนุนแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ หรือพีดีพี ปี 2559-2579 ที่ปรับใหม่เปลี่ยนมาลดการใช้ก๊าซลง เพราะที่ผ่านมาการใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิงทำให้ค่าไฟฟ้าของไทยอยู่ที่หน่วยละ 4.16-4.48 บาท (13-14 เซนต์/หน่วย) ในปีที่ผ่านมา ซึ่งมีไม่กี่ประเทศที่ค่าไฟฟ้าเกินระดับนี้ (หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์)

คาดปีหน้าไทยต้องการใช้ปูนโต 5% เริ่มฟื้นตั้งแต่พ.ย.นี้.เอสซีจีลุยลงทุน 5 ปี
นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (เอสซีจี) เปิดเผยถึงความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในประเทศไทยในช่วงไตรมาส 3 นี้ ลดลง 3% แต่ประเมินว่าในไตรมาส 4 ยังทรงตัว และตลอดปีนี้คาดว่าจะไม่มีการเติบโตจากปี 2556 ที่มีปริมาณการใช้ปูนระดับ 40 ล้านตัน ปูนซิเมนต์ไทยฉายภาพบวกความต้องการใช้ปูนเริ่มฟื้น คาดปีหน้าโต 5% จากปีนี้ทรงตัว (หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์)

ชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ Tel. (662) 618-1330-1
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน

รายงานวันนี้

หุ้น: BH คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 146.00
เราปรับเพิ่มคำแนะนำจาก ถือ เป็น ซื้อ ด้วยราคาเป้าหมายใหม่ ณ สิ้นปี 2558 คำนวณจากวิธี DCF เป็น 146 บาท (จาก 133 บาท) เพื่อสะท้อนสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นระยะยาวที่สูงขึ้นเป็น 38.50%
เราคาดว่าผลกำไรหลักของ BH จะขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 768 ล้านบาทในไตรมาส 3/57 เพิ่มขึ้น 13% YoY และ 24% QoQ
ผู้ป่วยต่างชาติกลับมาเข้าใช้บริการอีกครั้งถึงแม้จะมีกฎอัยการศึก โดยจำนวนผู้ป่วยต่างชาติเริ่มทรงตัว YoY ในไตรมาส 3/57 หลังหดตัว YoY ในช่วงครึ่งแรกของปี 2557
อัตราการเข้าใช้บริการเพิ่มขึ้นจาก 60% ในครึ่งแรกของปี 2557 เป็น 70% เมื่อล่าสุด และมีโอกาสที่จะสูงขึ้นถึง 80-85% จากจำนวนผู้ป่วยที่ฟื้นตัว
BH ยังคงถือสถานะเงินสดสุทธิ ณ สิ้นปี 2557 ซึ่งงบดุลที่แข็งแกร่งจะช่วยหนุนการลงทุนใหม่ของบริษัท

นักวิเคราะห์: นฤมล เอกสมุทร, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์

หุ้น: SCC คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 540.00
ไตรมาสที่แย่ที่สุดผ่านไปแล้ว จากนี้เราคาดกำไรจะเติบโต QoQ เป็นอย่างน้อยอีกสี่ไตรมาส
ธุรกิจปิโตรเคมียังคงเป็นธุรกิจที่ช่วยหนุนผลกำไร แม้จะมีแนวโน้มที่จะขาดทุนสต๊อกมากขึ้น
ธุรกิจซีเมนต์อยู่ที่จุดต่ำที่สุด ส่วนธุรกิจวัสดุก่อสร้างใกล้ถึงจุดต่ำสุด
ธุรกิจกระดาษยังคงอ่อนตัว

นักวิเคราะห์: ไชยธร ศรีเจริญ, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์

หุ้น: TSE คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 6.50

เราได้เริ่มต้นวิเคราะห์หุ้น TSE ด้วยคำแนะนำ ซื้อ และราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2558 ที่ 6.50 บาท โดยมีประเด็นการลงทุนหลักดังนี้
1) ธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานหมุนเวียนของบริษัทกำลังขยายตัว
2) เป็นบริษัทที่ค่อนข้างมีขนาดเล็กในกลุ่มธุรกิจที่ประกอบการด้านพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งบ่งชี้ว่าบริษัทยังมีโอกาสที่จะเติบโตได้อีกมาก
3) การเป็นพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์กับ GPSC เปิดโอกาสให้บริษัทสามารถพัฒนาความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคและขยายไปยังตลาดต่างประเทศได้ โดยเฉพาะตลาด CLMV
4) TSE มีแนวโน้มกำไรเติบโตโดดเด่น โดยเรามองว่ากำไรหลักจะอยู่ที่ 292 ล้านบาทในปี 2557 และเติบโตก้าวกระโดดเป็น 119% เป็น 640 ล้านบาทในปีหน้า อีกทั้งยังมีความเสี่ยงขาลงต่อบริษัทค่อนข้างจำกัด

นักวิเคราะห์: ธนัทเทพ จันทรกานต์, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์: จิรเมธ รตะพิพัฒน์
หมายเหตุ: รายงานดังกล่าวเป็นเพียงเนื้อหาโดยสรุป สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในรายงานฉบับเต็ม
โดย บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง ประจำวันที่ 30 ต.ค.2557
เอกสารฉบับนี้ จัดทำขึ้นโดยอาศัยข้อมูลที่ได้รับพิจารณาแล้วว่ามีความน่าเชื่อถือ แต่ทั้งนี้บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความสมบูรณ์ของข้อมูลดังกล่าว บทวิเคราะห์ หรือความเห็นที่แสดงไว้ในเอกสารฉบับนี้ จัดทำขึ้นโดยการพิจารณาโดยเหมาะสมและรอบคอบแล้ว เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุน และอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เอกสารฉบับนี้ไม่ถือเป็นการชี้ชวน หรือเสนอแนะในการซื้อขายหลักทรัพย์แต่อย่างใด ดังนั้นการนำไปใช้ให้ถือว่าเป็นผลจากการยอมรับความเสี่ยงและดุลยพินิจของท่านเป็นสำคัญ

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!