สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +7.46 จุด ราคาน้ำมันขึ้นสู่ระดับก่อน COVID-19 ระบาด

SET แกว่งแดนบวกตลอดทั้งวันในกรอบ 1542-61 แตะระดับสูงสุดใหม่รอบ 11 เดือน อานิสงส์ราคาน้ำมันไต่ขึ้นต่อเนื่องสู่ระดับก่อน COVID-19 ระบาด หนุนหุ้นกลุ่มพลังงานขึ้นนำตลาด ผสานกับแรงซื้อหุ้นกลุ่มแบงก์ หลัง Bond Yield ปรับสูงขึ้น ต่างชาติซื้อสุทธิเล็กน้อย 124 ลบ. และพลิก Long S50 Futures 417 สัญญา 

ทิศทางตลาดวันนี้ : ไซด์เวย์ ขาดปัจจัยชี้นำใหม่ รอไบเดนแถลงแผนกระตุ้นศก.

หุ้นโลกเมื่อวาน (13 ม.ค.) ปิด +/- กระจัดกระจาย โดยหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับขึ้นเล็กน้อย จากข่าวควบรวมกิจการของบริษัทในยุโรป และการทยอยฉีดวัคซีน ขณะที่หุ้นสหรัฐฯ ปิดทรงตัว นลท.ระมัดระวังต่อการเมืองในปท. หลังล่าสุดสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ลงมติถอดถอนปธน.ทรัมป์แล้ว ด้วยคะแนนเสียง 232 : 197 ส่งให้วุฒิสภาพิจารณาต่อไป ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI อ่อนตัวลง 30 เซนต์ หรือ -0.6% ได้รับแรงกดดันจากเงินดอลลาร์ฯ แข็ง และนลท.ยังกังวลเกี่ยวกับผลกระทบศก.จากการแพร่ระบาดฯ  มอง SET มีแนวโน้มแกว่งไซด์เวย์อยู่ในกรอบ ขาดปัจจัยใหม่กระตุ้น คาดนลท.จะรอดูการแถลงแผนกระตุ้นศก.มูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์ฯ ของไบเดนในวันนี้ และความเห็นของปธ.FED เกี่ยวกับมุมมองการฟื้นตัวทางศก.สหรัฐฯ และการส่งสัญญาณนโยบายการเงิน อย่างไรก็ดี การขึ้นต่อจากนี้ต้องระวังความผันผวน เนื่องจากการประเมินมูลค่าอยู่ในระดับสูง คิดเป็น Fwd. PER ปี 21F และ 22F ที่ 20.5 เท่า และ 17.5 เท่า ตามลำดับ เสี่ยงจะถูกแรงขายทำกำไร แนวรับ 1540 แนวต้าน 1560+/- อนึ่ง SEAOIL ติด Cash Balance 14 ม.ค. – 3 ก.พ. / COTTO ไม่ติด Cash Balance แล้ว ซื้อขายตามเกณฑ์ปกติวันนี้เป็นวันแรก 

กลยุทธ์การลงทุน : เทรดดิ้ง ลงซื้อ-ขึ้นขาย, พอร์ตลงทุน SET >= 1550 ทยอยขาย

เทรดดิ้ง-เก็งกำไรระยะสั้น แนะนำลงซื้อ-ขึ้นขาย หุ้นที่มีสตอรี่หรือประเด็นบวกสนับสนุนระยะสั้น / พอร์ตลงทุน หลังจากที่เราแนะนำถือข้ามปี มอง SET ขึ้นมามากกว่าระดับ 1550 เน้นขายมากกว่าซื้อ ถือเงินสดรอจังหวะซื้อกลับ

• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick LH – มองการระบาดรอบ 2 ไม่มีผลกระทบต่อบ.อย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากบ.ใช้ความระมัดระวังในการดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่ครึ่งแรกของปีที่แล้ว, บ.ตั้งเป้ายอดขายปีนี้ที่ 2.8 หมื่นลบ.และยอดโอน 3 หมื่นลบ.ด้วยการเปิดตัว 12 โครงการใหม่มูลค่า 2.06 หมื่นลบ. ส่วนใหญ่เป็นบ้านแนวราบ ซึ่งคาดยังมีโมเมมตัมการฟื้นตัวที่ดีอยู่, รัฐบาลเล็งต่ออายุมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอน-ภาษีที่ดิน และมีโอกาสขายสินทรัพย์เข้า REIT หนุน Upside ต่อประมาณการกำไร, ปันผลดีสม่ำเสมอ คาดไม่ต่ำกว่า 5% ต่อปี, เป้าพื้นฐาน 9.1 บ. / หุ้นได้ประโยชน์ COVID-19 ระบาดใหม่ - STGT, STA, HANA, SIS, SYNEX, CBG, ICHI ขณะที่หุ้นท่องเที่ยว ค้าปลีก ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ และขนส่ง ถูกกดดันจากมาตรการคุมระบาดที่เข้มงวดขึ้น / หุ้นได้ประโยชน์จากรัฐกระตุ้นการบริโภคต่อเนื่องถึง Q1 ชอบ BJC, BGC, CBG / บาทแข็งค่าเป็นผลดีต่อหุ้นนำเข้าสินค้า-วัตถุดิบตปท. หุ้นโรงไฟฟ้า รวมทั้งหุ้นพลังงาน-ปิโตรเคมีที่คาดจะมีกำไรจาก FX - SYNEX, TVO / GULF, EGCO BGRIM / PTT, PTTGC แต่จะเป็นลบต่อหุ้นส่งออกทั้งอิเล็กฯ-อาหาร / หุ้นน่าสะสม “เพื่อการลงทุน” แนวโน้มกำไรปีนี้ฟื้นตัวเด่น ชอบ BAM, BBL, BDMS, MTC, PTTGC, TWPC, WHA และหุ้นปันผลที่ Div. Yield > 4% ต่อปี แนะนำ DCC, EASTW, INTUCH, KKP, LH, QH, NYT, PROSPECT, RATCH, SCCC, TVO 

• หุ้นเด่น ม.ค. (Smart Tactics) HMPRO, INTUCH, KKP, MTC, SCC, SFLEX, TPIPL, TVO 

ปัจจัยติดตาม

วันที่ ปท. เหตุการณ์

11-21 ม.ค. TH กลุ่มธนาคารพาณิชย์ทยอยประกาศผลประกอบการประจำปี 2020

14-18 ม.ค. WORLD IMF จะเปิดเผยตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจโลก

14 ม.ค. JP คำสั่งซื้อเครื่องจักรญี่ปุ่นใน พ.ย., ดัชนีราคาผู้ผลิตญี่ปุ่นใน ธ.ค.

US ดัชนีราคาสินค้านำเข้าสหรัฐฯ ใน ธ.ค., ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกฯ รายสัปดาห์

15 ม.ค. JP ดัชนีภาคอุตฯ ขั้นตติยะภูมิ (Tertiary Industry Index) ญี่ปุ่นใน พ.ย.

US ยอดค้าปลีก, ดัชนีราคาผู้ผลิต, ผลผลิตภาคอุตฯ และอัตราใช้กำลังผลิตสหรัฐฯ ใน ธ.ค.

US ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ใน ม.ค. (เบื้องต้น), ผลสำรวจภาคผลิตสหรัฐฯ ใน ม.ค.

ที่มา : Bloomberg, TISCO Research