18 มกราคม 2564 / กลยุทธ์การลงทุนรายวัน

SET

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์

1,519.13   -16.85

สรุปมูลค่าการซื้อขาย 15 ม.ค.64

นักลงทุน              สุทธิ 

สถาบัน           -3,844.23

บัญชี บล.            -895.20

ต่างชาติ              -575.91

ในประเทศ       5,315.33 

MARKET SUMMARY

เมื่อวันศุกร์ SET ปรับตัวลงตามตลาดภูมิภาคหลังวงเงินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของไบเดนต่ำกว่าที่ตลาดคาด โดย SET ปิดที่ 1,519.13 (-16.85 จุด) มูลค่าการซื้อขาย 1.01 แสนล้านบาท (เทียบกับวันก่อนหน้า 9.7 หมื่นล้านบาท)

โดยนักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทย 895 ลบ. (นักลงทุนสถาบันขาย 3,844 ลบ.) ส่วนตลาด TFEX นักลงทุนต่างชาติเปิด Long Futures ที่ 1,703 สัญญา)

STOCK PICKS & TRADING IDEA 

SCGP (ราคาเป้าหมาย 48 บาท) คาดกำไรสุทธิในช่วงปี 63-65 จะเติบโตเฉลี่ย 20% ต่อปี จากการนำเงินที่ได้จาก IPO ไปขยายกำลังผลิตเพิ่มเติม รวมถึงคาดยอดการใช้บรรจุภัณฑ์ในภูมิภาคยังมี Upside Risk เพิ่มเติมจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่มากขึ้น 

INVESTMENT THEME 

ยังคงแกว่งผันผวน : ตลาดหุ้นทั่วโลกชะลอตัวลงหลังวงเงินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของไบเดน ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดประเมินไว้เล็กน้อย แต่อย่างไรก็ดีภาพระยะกลางคาดเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าวหากสามารถผ่านออกมาได้จริงจะเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฟื้นตัวของภาคแรงงาน ผ่านการปรับขึ้นค่าจ้างรายชั่วโมงจาก 7.25 เหรียญ สู่ 15 เหรียญ ถือเป็นประเด็นที่น่าติดตามในช่วงถัดไป ผสานกับปัจจัยในประเทศในสัปดาห์นี้ที่เตรียมนำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่เพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ระลอก2 เข้าพิจารณาในประชุม ครม. อังคารนี้ คาดจะช่วยเยียวยาเศรษฐกิจในช่วง 2 เดือนถัดจากนี้ได้ ส่วนประเด็นอื่นในสัปดาห์นี้ที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เช่น การรายงานผลการดำเนินงาน 4Q63 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าสนใจ เช่น  18 ม.ค. GDP 4Q63 จีน คาด 6.2%YoY / 20 ม.ค. โจ ไบเดน เข้าพิธีสาบานตน / 22 ม.ค. PMI ภาคการผลิตและบริการของ US & Eurozone และ ส่งออกไทย เดือน ธันวาคม

Investment Strategy : วันนี้คาด SET ย่อตัว แนวรับ 1,500 จุด และแนวต้าน 1,530 จุด เน้น Global Player อิงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ATO Picks วันนี้แนะนำ “SCGP, CPF, ESSO”

Charoen Pokphand Foods (CPF)

คาดกำไรสูงสุดใหม่ในปีนี้

BUY

share Price                  THB 28.50

12m Price Target        THB 44.50 (+56%)

Previous Price Target THB 39.00 

ประเด็นการลงทุน

เราปรับเพิ่มประมาณการสะท้อนการลงทุนใน CTI และเทสโก้ แม้ฐานสูงในปีก่อน แต่คาดว่ากำไรปกติปีนี้จะเติบโตเป็น New high ได้อีก เนื่องจาก CPF มีการเพิ่มปริมาณเลี้ยงหมูทั้งในไทย เวียดนาม และจีน อีกทั้งรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้นจาก CTI ขณะที่ราคาหมูยังมีแนวโน้มอยู่ในเกณฑ์ดีจาก Supply ที่ยังขาดแคลน ผลประกอบการ 4Q63 คาดว่าจะเติบโตแข็งแกร่ง แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย (SOTP) ปรับขึ้นจาก 39 บาท เป็น 44.50 บาท ประกอบด้วย CPF 24.9 บาท อิง PER 12 เท่า (-1SD ของ PE เฉลี่ย) และ CPALL 19.6 บาท จาก DCF (WACC 7.2%, LTG 4%)  

ปรับเพิ่มประมาณการกำไรจากการลงทุนใน CTI

เราปรับประมาณการกำไรปกติปี 63-64 เพิ่มขึ้น 2% และ 22% ตามลำดับ สะท้อนการลงทุนของบริษัทย่อยคือ CPP ในธุรกิจหมูจีน (CTI) 35% ตั้งแต่ 1 ธ.ค. 63 และการลงทุน 20% ในเทสโก้เอเชีย เมื่อ 18 ธ.ค. 63 โดยผลกระทบเชิงลบน้อยกว่าที่เคยคาด เนื่องจากใช้เงินลงทุน 1.307 พันล้านเหรียญฯ (จากเดิม 1.5 พันล้านเหรียญฯ) ขณะที่ดอกเบี้ยจ่ายจะไม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะด้วยการนำเงินทุนมาจากกระแสเงินสดภายในกิจการส่วนหนึ่ง และการทยอยออกหุ้นกู้มาก่อนหน้านี้แล้วซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยเพียง 3.6% อีกทั้งคาดว่าไม่มีขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน

คาดกำไรปกติ 4Q63 เพิ่มขึ้น 16% YoY 

คาดว่ากำไรปกติ 4Q63 ลดลง 34% QoQ เนื่องจากเป็นโลว์ซีซั่น แต่กำไรยังเติบโต 16% YoY เป็น 4,764 ล้านบาทจากราคาหมูทั้งในไทยและเวียดนามเพิ่มขึ้น 26% YoY และ 8% YoY ตามลำดับ อัตรากำไรขั้นต้นคาดจะเพิ่มขึ้น 244 bps YoY เป็น 18.1% อีกทั้งคาดว่าส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้น 15% YoY จากการลงทุนใน CTI ส่วนการซื้อเทสโก้คาดว่ามีผลกระทบจำกัด นอกจากนั้น คาด CPF บันทึกกำไรพิเศษ 2,400 ล้านบาทจากการลงทุนใน CTI ส่งผลให้กำไรสุทธิ 4Q63 เพิ่มเป็น 7,169 ล้านบาท (+79% YoY) เราคาดเงินปันผล 2H63 เท่ากับ 0.45 บาท/หุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนครึ่งปี 1.6%

ธุรกิจหมูเติบโตจากการเพิ่มปริมาณการเลี้ยง

แนวโน้มกำไรปีนี้เติบโตจากการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ปริมาณขายเพิ่มขึ้นจากการขยายการเลี้ยงหมูในไทยและเวียดนามรวมเพิ่มขึ้น 16% เป็น 13 ล้านตัว/ปี อีกทั้งรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเต็มปีจาก CTI ซึ่งเพิ่มการเลี้ยง 33% เป็น 6 ล้านตัว/ปี แม้จำนวนหมูเพิ่มขึ้น แต่คาดว่าราคาหมูยังอยู่ในเกณฑ์ดี เนื่องจาก Supply ที่ยังขาดแคลนจากการระบาดของโรค ASF ส่วนการลงทุนในเทสโก้คาดว่ามีผลกระทบจำกัด 

ความเสี่ยง: ราคาเนื้อสัตว์ตกต่ำ ราคาวัตถุดิบเพิ่มขึ้น เศรษฐกิจโลกชะลอ โรคระบาด