- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 24 December 2020 12:58
- Hits: 16504
บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 24-12-2020
Market Wrap-Up
• SET ปิดวันที่ 23 ธ.ค.63 ปิด -8.37 จุด อยู่ที่ 1,416.02 จุด มูลค่าการซื้อขาย 89,556 ลบ.ต่างชาติขาย 705 ลบ. สถาบันขาย 1,328 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 62 ลบ. ยอด NVDR มียอดขายสุทธิอยู่ที่ 481 ลบ.โดยมียอดซื้อหุ้น PTT,KBANK,GULF,JMART,BBL และมียอดขายหุ้น ADVANC,SCC,CPALL,BTS,AOT มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 3,660 ลบ หุ้นที่มีมูลค่า Short สูงคือ KBANK,BANPU,SCB โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 8,399 สัญญาและมียอด Long สะสมตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 99,078 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 3,319 ลบ.
• ตลาดหุ้นสหรัฐ Down Jones ปิด +0.38%, S&P500 +0.07%, Nasdaq -0.29% หุ้นกลุ่มวัฏจักรเศรษฐกิจ สายการบิน ธนาคาร และพลังงานปรับเพิ่มขึ้น หลังสภาคองเกรสอนุมัติมาตรกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 9 แสน ล.ดอลลาร์ แม้ว่าประธานาธิบดีทรัมป์ขู่จะไม่ลงนามเนื่องจากเงินช่วยเหลือประชาชน 600 ดอลลาร์/ราย น้อยเกินไป ขณะที่รายงานผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลงอยู่ที่ 803,000 ราย ต่ำกว่าคาดที่ 885,000 ราย ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 ปิด +1.08% ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเดินทาง สันทนาการและธนาคาร จากคาดการณ์อังกฤษ – อียูใกล้จะบรรลุข้อตกลงการค้า ขณะที่ฝรั่งเศสได้ยกเลิกคำสั่งห้ามผู้เดินทางและขนส่งสินค้าจากอังกฤษเข้าประเทศ
Market View
• ตลาดหุ้นสหรัฐได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มวัฏจักรเศรษฐกิจ หลังสภาคองเกรสอนุมัติ ม.กระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 9 แสน ล.ดอลลาร์สหรัฐ แม้ว่าประธานาธิบดีทรัมป์ขู่จะไม่ลงนามในแผนดังกล่าว เนื่องจากเงินช่วยเหลือประชาชนรายละ 600 USD. น้อยเกินไป ขณะที่รายงานผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐลดลงสู่ระดับ 5.3 ล.ราย ต่ำสุดนับตั้งแต่ มี.ค. เป็นช่วงไวรัสระบาด ซึ่งสะท้อนการจ้างงานสหรัฐปรับตัวดีขึ้น ส่วนดัชนีหุ้นยุโรปปรับขึ้นรับข่าวอังกฤษ – อียูใกล้จะบรรลุข้อตกลงการค้า หลังสามารถตกลงประเด็นการทำประมงในน่านน้ำอังกฤษ จากเดิมอังกฤษต้องการให้ลดการทำประมงลง 80 % ในเวลา 3 ปี เปลี่ยนเป็นลดลง 30 % ในเวลา 5 ปีครึ่ง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงเศรษฐกิจยูโรโซน – อังกฤษถดถอยจากกรณี No Deal ตลาดหุ้นสหรัฐ – ยุโรปวันนี้เปิดทำการครึ่งวันในวันคริสต์มาสอีฟ สำหรับดัชนีหุ้นไทยวานนี้ปิด -0.59% สถาบันขาย 1.3 พัน ลบ. ต่างชาติขาย 705 ลบ. หุ้นกลุ่มปิโตรเคมี, พลังงานถูกแรงขายทำกำไรจากราคาน้ำมันดิบ นักลงทุนกังวลการประชุมใหญ่ ศบค. วันนี้จะใช้ ม.ล็อกดาวน์ทั่วประเทศ แต่รายงานล่าสุดจะใช้เพียงการล็อกดาวน์ตามพื้นที่เสี่ยง ซึ่งผลกระทบจะไม่มากเท่าการล็อกดาวน์ในช่วง เม.ย.ที่ผ่านมา ส่วนการประชุม กนง.วานนี้มีมติคงดอกเบี้ยที่ 0.50% และคาด GDP ไทยปีนี้ -6.6% ปีหน้าคาด GDP ไทย +3.2% ลดลงจากเดิมที่ +3.6% เนื่องจากการท่องเที่ยวฟื้นตัวช้ากว่าคาดจากระบาด Covid-19 รอบใหม่
Daily Strategy
• คาดดัชนี SET ทรงตัวในกรอบแนวรับ 1,400 - 1,410 แนวต้าน 1,430 รอประเมินการระบาดนอกพื้นที่สมุทรสาคร ว่าจะมีผู้ติดเชื้อใหม่สูงเกิน 100 คน/วันหรือไม่ ระยะสั้นแนะนำทยอยซื้อสะสมช่วงดัชนีอ่อนตัว เช่น PTTGC, TVO, CPF, TTA, PSL
• YGG* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 15.60 บาท) กำไรสุทธิ 9M63 อยู่ที่ 36.82 ล้านบาท -10.86%YoY หดตัวลงเนื่องจากการลดลงของรายได้ธุรกิจ Game เนื่องจากทาง YGG* ไม่ได้รับงานผลิตเกมส์เพิ่มขึ้นมากนักในปี 63 เพราะกำลังพัฒนาเกมส์ Home Sweet Home Survival ซึ่งจะเปิดตัวในปี 64 (เป็นปัจจัยหนุนต่อผลประกอบการในปีหน้า) ขณะที่รายได้ธุรกิจ VFX และรายได้ธุรกิจ Animation ยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่องตามการขยายตัวของอุตสาหกรรมส่งผลให้ Backlog ของบริษัท ณ สิ้น 3Q63 อยู่ที่ 72.7 ลบ. (VFX-33.3%, Animation-66.7%) เติบโตขึ้น 56% จาก 2Q63 ที่ 46.4 ลบ. (VFX-34.5%, Animation-53.0%, Game-12.5%) ตลาดคาดกำไรสุทธิปี 63- 64 ที่ 48.2 ลบ.-0.89%YoY และ 81.4 ลบ.+68.88%YoY
• PRM* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 12.10 บาท) มองบวกต่อการเข้าทำรายการซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัทไทยออยล์มารีนมูลค่า 346.5 ล้านบาท ช่วยทำให้กองเรือของ PRM มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 58 ลำ และทำให้สัดส่วนรายได้จากธุรกิจขนส่งต่างประเทศเพิ่มมากขึ้นจากการทำสัญญาระยะยาวขนส่งน้ำมันดิบด้วยเรือ VLCC โดยหลังดีลเสร็จในเดือน มิ.ย.64 จะทำให้สามารถรับรู้รายได้เพิ่มทันทีใน 2H64 และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจต่อเนื่องในการขนส่งน้ำมันดิบให้ไทยออยล์มากขึ้นหลังโครงกาขยายโรงกลั่น CFP แล้วเสร็จ ส่วนแผนธุรกิจเดิมมองรายได้และกำไรเติบโตปีละ 10-15% โดยในปี 64 มีแผนขยายกองเรือไม่น้อยกว่า 5 ลำ แบ่งเป็น เรือขนส่งขนาดใหญ่ 2 ลำ ประเภท FSU-VLCC และเรือขนส่งขนาดเล็ก 3 ลำ ทดแทนเรือที่จะขายออก 2-3 ลำ ปัจจุบันมีกองเรือทั้งสิ้น 40 ลำ แบ่งเป็นเรือขนส่งขนาดเล็กในประเทศ 30 ลำ โดยเป็นของ PRM และบริษัทย่อย Big Sea เรือขนส่งระหว่างประเทศ 1 ลำ, เรือ FSU จำนวน 8 ลำ และกลุ่มเรือ Offshore 1 ลำ ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรสุทธิปี 63-64 ที่ 1.6 พันล้านบาท +56%YoY และ 1.83 พันล้านบาท +14%YoY รายหุ้นปัจจุบันยังไม่แพงคิดเป็น Forward PER’64 ที่ 11.2x
2
Daily Key Factors
Oil Update (+) WTI Futures ก.พ. ปิด $+1.10 อยู่ที่ $48.12 /บาร์เรล Brent Futures ก.พ. ปิด $+1.12 อยู่ที่ $51.20 /บาร์เรล หลัง EIA รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 5.62 แสน บาร์เรล สะท้อนอุปสงค์ความต้องการใช้น้ำมันดีขึ้น ขณะที่อังกฤษใกล้บรรลุข้อตกลงการค้ากับอียู
Gold Update (+) Gold Futures ก.พ. ปิด +7.80 ดอลลาร์ อยู่ที่ 1,878.10 ดอลลาร์/ออนซ์ ได้แรงหนุนจาก Dollar Index อ่อนค่า -0.26% อยู่ที่ 90.41 และรายงานยอดขายบ้านใหม่สหรัฐ พ.ย. -11% , การใช้จ่านส่วนบุคคลของผู้บริโภคสหรัฐ พ.ย. -0.40% ลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่ เม.ย. ที่ผ่านมา
Fund Flow (-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ขายสุทธิ -65.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -23.3 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโด -27.3 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -14.5 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านี่ทรงตัวอยู่ที่ 30.20 บาทดอลลาร์สหรัฐ
(+) ดัชนี BDI ปิด +32 จุด อยู่ที่ 1,362
(+) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 0.9496%
(0) ค่าเงินหยวน off-shore ทรงตัวอยู่ที่ 6.53/USD
(-) วานนี้สหรัฐรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้น 226,192 ราย รวมอยู่ที่ 18,910,820 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 3,312 ราย รวมอยู่ที่ 334,129 ราย / อังกฤษติดเชื้อเพิ่มขึ้น 39,237 ราย รวมอยู่ที่ 2,149,551 ราย ( Worldometers )
Economic Calendar
ในประเทศ
23 ธ.ค. ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 8/2563
สัปดาห์ที่4 กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า
สัปดาห์ที่5 สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.)แถลงดัชนีอุตสาหกรรม
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
ต่างประเทศ
21 ธ.ค. CN อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดีของธนาคาร PBoC
22 ธ.ค. US ดัชนีจีดีพี (ไตรมาสต่อไตรมาส) (ไตรมาส 3)
US ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) (พ.ย.)
23 ธ.ค. US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
US ยอดขายบ้านใหม่ (พ.ย.)
24 ธ.ค. US วันคริสต์มาส - ปิดทำการก่อนกำหนด ณ เวลา 13:00
US ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน (เดือนต่อเดือน) (พ.ย.)
US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
24 ธ.ค. US วันคริสต์มาส – วันหยุด
Theme Strategy
(Theme Post-COVID19 แนวโน้มกำไรฟื้นตัวได้เร็ว
(1) กลุ่ม Cyclical Stock พลังงาน PTT, PTTEP ปิโตรเคมีและโรงกลั่น BCP, ESSO*, IRPC, IVL*, PTTGC, SCC*, SPRC*, TOP
(2) กลุ่มอิงการบริโภครับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ BJC, CBG*, CPF, CPALL, CRC*, GLOBAL*, HMPRO*, ICHI*, MINT*, OSP*, SCCC*, SCGP*
(3) กลุ่มบริการ เช่น โรงพยาบาล BCH, BDMS*, BH* โรงภาพยนต์ MAJOR*
(4) กลุ่มโรงไฟฟ้าที่มีศักยภาพในการเติบโต BGRIM*, BPP*, GPSC*, GULF*
(5) กลุ่มการเงินสินเชื่อ JMT*, SAWAD*
(6) กลุ่มยานยนต์ SAT, AH
*หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 25% Alternative Investment etc. Gold 15% Cash 10%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio December 2020: BCP, CRC*, M*, SCGP*, PSL*, STARK*
Analysts
Apichai Raomanachai No. 002939
Nopporn Chaykaew No. 043964
Nattawat Poosunthornsri Assistant Analyst
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web