WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

ซื้อ/ถือด้วยค่าบวก
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
       ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นต่อ โดยมีแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน, สื่อสาร, ที่พักอาศัย นำซื้อโดยกลุ่มสถาบันในประเทศ 2.2 พันล้านบาท ส่วนรายย่อยและต่างชาติเป็นขายสุทธิกลุ่มละ 1 พันกว่าล้านบาท สำหรับวันนี้ ตลาดยังไม่มีปัจจัยใหม่ที่มีนัยสำคัญเข้ามาโดยกำลังรอดูผลการประชุม FOMC ในวันที่ 28-29 ต.ค.นี้ ว่าจะมีการประกาศสิ้นสุดโครงการ QE3 อย่างที่คาดการณ์กันหรือไม่ (การประชุมรอบก่อนกำหนดให้เหลือวงเงินซื้อพันธบัตรเท่ากับ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ/เดือน) นอกจากนั้นยังจับตาว่าเฟดจะส่งสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐด้วยหรือไม่ ส่วนในประเทศเป็นการซื้อเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 3/57 และแนวโน้มในปีหน้า รวมถึงการเก็งกำไรหลักทรัพย์ที่จะมีดีลเข้าซื้อกิจการ (M&A) ด้วย ทั้งนี้เราประเมินว่าเฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็ว เพราะเศรษฐกิจสหรัฐยังค่อนข้างเปราะบาง ดังนั้นหากสัญญาณของการประชุมเฟดรอบนี้ออกมาเป็นอย่างที่เราคาด ตลาดหุ้นก็มีโอกาสแกว่งขึ้นต่อได้ โดยมีเป้าหมายแรก 1560 และถ้ายืนได้ก็มีสิทธิไปทดสอบ 1580 หรือสูงกว่า ปัจจัยเสี่ยง คือ การแพร่ระบาดของไวรัสอีโบลา และเศรษฐกิจประเทศชั้นนำที่ฟื้นตัวช้า หุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้เป็น INTUCH

       การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดในระยะสั้นมากเป็นบวกเล็กๆ โดยมีพื้นที่แนวต้าน 1550-1560 ค่าลบของหุ้นและ SET ดูไม่ดี ต่ำกว่า 1535 ควรStop loss หรือลดพอร์ตตาม เพราะมีสิทธิลงไปทำ New Low ที่ 1510 (+/-10 จุด) ดังนั้นในการเข้าซื้อใหม่จึงเน้นซื้อตามด้วยค่าบวก โดยถ้าผ่านขึ้นไปยืนเหนือ 1560 ได้ให้ถือลุ้นต่อ สำหรับหุ้นที่คาดว่าจะทำ New High ทางเทคนิคและให้ถือต่อ ได้แก่ APURE, BEAUTY, LHBANK, GENCO ส่วนที่เข้าใหม่เป็น KAMART, PS, CSS, DNA, AIRA หุ้นที่หลุด List คือ –ไม่มี- และหุ้นที่แนะนำไปแล้วและอยู่ในพื้นที่หาจังหวะ Take Profit ประกอบด้วยMJD, PPS, S, INTUCH, LPN, IFEC

Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ
- เยอรมนนี : ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจลดลงสู่ 103.2 ในเดือนต.ค. จากระดับ 104.7 ในเดือนก.ย. ซึ่งปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6และยังเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.55
• สหรัฐ : คาดผลกระทบจากเฟดยุติโครงการ QE3 ไม่มาก ทั้งนี้เนื่องจากนักลงทุนได้ตอบรับข่าวและทยอยปรับพอร์ตโฟลิโอกันไปก่อนหน้าแล้ว ดังนั้นเมื่อโครงการจบจริงก็จะกระทบไม่มาก แต่ประเด็นเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยยังเป็นที่จับตาต่อ และมีน้ำหนักต่อทิศทางตลาดเงินและตลาดหุ้นทั่วโลก สำหรับ DBS มองว่าเฟดจะยังคง Fed FundRate ไว้ที่ 0-0.25% ถึง 3Q58 เนื่องจากการฟื้นตัวและเติบโตยังเปราะบาง
• สหรัฐ : จับตารายงาน GDP 3Q57 กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการประมาณการครั้งแรกของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 3/57 ในวันพฤหัสบดีนี้
• ตลาดหุ้นสหรัฐทรงตัว (DJIA +12.53 จุด หรือ +0.07%) เนื่องจากนักลงทุนรอดูผลประชุม FOMC วันที่ 28-29 ต.ค.นี้ โดยให้น้ำหนักกับยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายก.ย.ที่เพิ่ม 0.3% เป็น 105 จุดไม่มาก
+ VIX S&P500 ลดลงเป็น 16.04% จากที่ขึ้นไปสูงสุด 25.27% เมื่อกลางเดือนต.ค.57

•/- สัญญาน้ำมันดิบยังอ่อนแอ โดย WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ขยับลง 1เซนต์ ปิดที่ 81 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วน BRENT ลดลง 30 เซนต์ ปิดที่85.83 ดอลลาร์/บาร์เรล
- โกลด์แมน แซคส์ปรับลดคาดการ์ราคาน้ำมันดิบ 1Q58 ลง โดยคาดว่าราคาน้ำมันดิบ BRENT 1Q58 จะอยู่ที่ 85 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดจากที่เคยคาดไว้ที่ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล และคาด WTI ไว้ที่ 75 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดจากเดิมที่ 90 ดอลลาร์/บาร์เรล ปัจจัยกดดัน คือ ปริมาณการผลิตน้ำมันกลุ่มนอกภูมิภาคอเมริกาเหนือรวมถึงบราซิลและอาเซอร์ไบจันที่มากเกินไปในปี 58
- สัญญาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 2.5 ดอลลาร์ หรือ0.20% ปิดที่ 1,229.3 ดอลลาร์/ออนซ์

ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหลักทรัพย์เด่น
• ไทย : คาดอัตราดอกเบี้ยจะทรงตัวต่ำไปถึงอย่างน้อยกลางปี 58เนื่องจากเศรษฐกิจเติบโตไม่มาก แรงกดดันด้านเงินเฟ้อไม่สูง ขณะเดียวกันหนี้สินภาคครัวเรือนที่พุ่งขึ้นเป็น 84% ของ GDP เป็นอีกจุดหนึ่งที่ทำให้ทางการต้องคงอัตราดอกเบี้ยไว้ก่อน ซึ่งอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นบวกกับการอุปโภค & บริโภค รวมถึงกลุ่มที่พักอาศัย โดยเราประเมินว่าผลประกอบการกลุ่มพาณิชย์, อาหาร, ท่องเที่ยว & โรงแรม และที่พักอาศัยที่ดีขึ้นใน 4Q58ซึ่งเป็นไปตามปัจจัยฤดูกาล การเปิดขายโครงการใหม่ & การโอนกรรมสิทธิ์ที่มากขึ้น หุ้นเด่นในกลุ่มพาณิชย์ คือ CPALL กลุ่มอาหารเป็น GFPT, CPF,TUF ท่องเที่ยว & โรงแรมคือ MINT และกลุ่มที่พักอาศัยเป็น AP, PS,SPALI

- NPL ยังเพิ่มขึ้นต่อใน 3Q57 ธปท.เผย NPL ของสถาบันการเงินทั้งระบบณ สิ้นก.ย.57 เพิ่มขึ้น 1.09 หมื่นล้านบาท หรือ +3.93%QoQ เป็น 2.9 แสนล้านบาท คิดเป็น 2.52% ของสินเชื่อรวม เพิ่มจากสิ้น 2Q57 ที่ 2.46%...ด้วยทิศทางของ NPL ที่ขยับขึ้น ทำให้คาดว่าธ.พ.จะยังตั้งสำรองค่าเผื่อฯในระดับสูง โดยเฉพาะแบงค์เล็ก เช่น TISCO, TCAP, KKP เป็นต้น ที่เน้นปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ที่ยังประสบปัญหาอุปทานรถมือสองสูงและราคาลดลงมาก ในการลงทุนกลุ่มธ.พ.จึงเน้นไปที่แบงค์ใหญ่ที่มีการกระจายความเสี่ยงธุรกิจและฐานลูกค้าที่ดี Top Pick คือ KBANK

• ไทย : กระทรวงพลังงานผลักดันเพิ่มสัดส่วนโรงไฟฟ้าถ่านหินเป็น30% และเพิ่มการผลิตไฟฟ้าพลังงานทางเลือก เพื่อลดสัดส่วนโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติที่ปัจจุบันอยู่ 65-70% ของการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด ทั้งนี้เนื่องจากปริมาณสำรองก๊าซที่มีอยู่ของไทยจะใช้ได้อีก 6-8 ปี...แต่เส้นทางการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินอาจไม่ราบรื่นนัก เพราะมีการต่อต้านจากคนในชุมชนที่โรงไฟฟ้าจะไปตั้งอยู่และนักเคลื่อนไหวทางสิ่งแวดล้อม ซึ่ง Case ที่จะเป็นตัววัดเส้นทางการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินของไทย คือ การสร้างโรงไฟฟ้าแห่งที่ 2 ที่จ.กระบี่

• ไทย : กระทรวงการคลังเตรียมแผนกระตุ้นเศรษฐกิจอีกรอบในเดือนธ.ค.นี้ โดยขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างประเมินผลรอบแรก ส่วนสศค.เตรียมปรับลดคาดการณ์ GDP Growth ในวันที่ 30 ต.ค.57
• ดีลระหว่าง WHA vs HEMRAJ WHA แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่ายังไม่มีการพิจารณาแผนเข้าซื้อกิจการ ด้านแหล่งข่าวจาก HEMRAJ กล่าวว่าบริษัทได้รับการติดต่อจากคนกลางเพื่อเจรจาขอซื้อหุ้นจาก WHA แต่ทางผู้บริหารยังไม่ได้มีข้อสรุปในเรื่องนี้ โดยจะต้องหารือกับผู้ถือหุ้นรายอื่นก่อนแต่คาดว่าจะได้ความชัดเจนในเร็วๆนี้ (ไทยโพสต์)
นักกลยุทธ์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค [email protected] 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!