WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 15-10-2020dbs

ไทยประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน การเมืองร้อนแรงขึ้น

  • หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : DELTA (จากซื้อเป็นถือ)

# ภาวะตลาดและปัจจัยก่อนหน้า : SET วานนี้ ปรับลง ปิด -9.44 จุด ที่ 1263.99 จุด มูลค่าซื้อขาย 52 พันลบ. ดัชนีปรับลงหนักกว่าเพื่อนบ้าน ปัจจัยลบคือ J&J ชะลอวัคซีนมาตรการเยียวยาสหรัฐยังไม่สำเร็จ-และการชุมนุมวานนี้ยังยืดเยื้อ ตัวเลขเศรษฐกิจฟากยุโรปออกมาไม่ดีนักทั้งเยอรมันและอังกฤษ มีแรงขายหุ้นธนาคารออกมามาก คาดว่ากำไร3Q63 ไม่สดใส แต่ซื้อหุ้นอิเล็กฯปรับตัวขึ้นดี ซื้อสุทธิมาก-รายย่อย ขายสุทธิมาก-ต่างชาติ YTD ต่างชาติขายสุทธิสูงเป็น 288 พันลบ.

# ปัจจัยและกลยุทธ์: SET-ผันผวนเชิงลบ ม.เยียวยายังไม่สำเร็จ-ไทยประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเขตกรุงเทพฯ ปัจจัยบวกคือ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) สหรัฐก.ย.ปรับเพิ่ม0.4% ติดตามประกาศงบ 3Q63 สหรัฐ น้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้น 84 Cent โอเปกพลัสลดการผลิตตามข้อตกลง ดาวโจนส์ Future เช้านี้ปรับขึ้นเล็กน้อย และไทย รมว.สาธารณสุขพร้อมเปิดรับนทท.ต่างชาติ ลดเวลากักตัว ด้านปัจจัยลบคือ มนูชินยอมรับการบรรลุข้อตกลงม.กระตุ้นเศรษฐกิจยังยาก ข่าว J&J ชะลอทดลองวัคซีนเป็นลบ ดาวโจนส์ -166 จุดดัชนีกังวล Vix เพิ่มเล็กน้อยเป็น 26.4 ส่วนตลาดหุ้นเพื่อนบ้านเช้านี้ส่วนใหญ่ลบ และไทย ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน กทม. และมีข่าวม็อบจะย้ายไปชุมนุมถ.ราชประสงค์ 16:00 น.วันนี้ สำหรับกลยุทธ์ระยะสั้น ความเสี่ยงยังมาก ควรเล่นรอบ ระยะนี้คาดดัชนีซื้อ-ขายช่วง 1250-1280 จุด หากหลุด 1260 จุดเป็นสัญญาณไม่ดีอีกครั้ง ให้ Stop Lossด้านกลยุทธ์ระยะกลาง-ยาว เนื่องจากเศรษฐกิจโลกและไทยยังไม่สดใส ความเสี่ยงคือ หมดเงินเยียวยา หนี้เสียสูง และการเมืองไทยร้อนแรงขึ้น แต่ก็มีสัญญาณการฟื้นตัว หลังคลายล็อกดาวน์ วัคซีน-ยาคืบหน้า ดอกเบี้ยในตลาดต่ำ เงินออมบางส่วนไหลเข้าตลาดหุ้น มีมาตรการเยียวยา จึงแนะนำทยอยถอยรับหลักทรัพย์พื้นฐานดี แนวรับคือ 1245-1230 จุด และ แนวต้าน 1270-1280 จุด สำหรับเป้าหมายดัชนีทางพื้นฐานปี 63 เป็น 1340 จุด ด้วย Forward P/E ที่ระดับ 25.4 เท่า จากคาดการณ์ EPS ปี 63 และ 64 ที่มีการเปลี่ยนแปลงคือ -41%/+28% y-o-y ตามลำดับ ปัจจัยน่าติดตามคือ 1) หากนักลงทุนต่างชาดิตระหนกกับข่าวไทยประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ก็จะมีแรงขายในหุ้นขนาดใหญ่ และกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับความมั่นใจในกาลงทุนก็คือ นิคมอุตสาหกรรม และผู้รับเหมาก่อสร้าง ที่จะได้รับผลกระทบทางลบ รวมทั้งหากมีการชุมนุมย้ายมาถนน ราชประสงค์ ซึ่งเป็นเส้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ซึ่งมีบริษัทในตลาดฯมีธุรกิจอยู่ เช่น CPN มีสาขาเซ็นทรัลเวิลด์ และโรงแรม ERW เป็นต้น 2) กลุ่มพลังงาน-ปิโตรดูดีขึ้น ตามราคาน้ำมัน ที่จีนเข้ามามีบทบาทซื้อมากขึ้น 3) ดัชนีค่าระวางเรือลงต่อ วานนี้ -5% เป็นจิตวิทยาทางลบกับ PSL และ TTA และ 4) กลุ่มธนาคาร มีแรงขายต่อเนื่องจากความกังวลงบ 3Q63 และแนวโน้ม 4Q63 ที่เป็นลบ

# Stock Pick Today TOP ราคาหุ้นต่ำกว่าพื้นฐานมาก ผู้บริหาร TOP เผยว่าบริษัทคาดใน 2H63F จะไม่มีบันทึกผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน เนื่องจากประเมินราคาน้ำมันดิบผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วเมื่อ เม.ย.-พ.ค.63 TASCO อาจจะซื้อยางมะตอยจาก TOP เพื่อไปทำธุรกิจ Trading ซึ่งส่วนนี้จะเป็น Positive upside กับบริษัท แต่ธุรกิจอะโรเมติกส์ทั้ง PXและ BZ ยังท้าทาย จากสต็อกที่สูง และมีกำลังการผลิตเข้ามาเพิ่มจากประเทศจีน ให้ราคาพื้นฐาน 47 บาท อิงกับ P/BV ที่ 0.85 เท่า

กลยุทธ์ทางเทคนิค: ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick & Indicators เริ่มเปลี่ยนกลับเป็นลบ(ยัง)เล็กๆ {“ปิดลบเหนือ“SMA10วัน” (โดยมีโครงสร้างขาลง ระยะกลางกดดัน)} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯวันนี้แกว่งแบบให้น้ำหนักกับการลง แต่ค่าบวก”(“SMA10หนุน) จะช่วยให้มีรีบาวด์ฯสั้นๆก่อน(แล้วจึงลงต่ำ,ตามมา)ได้ แนวต้าน 12701280 (หรือ 1290) จุด {แนวตัดขาดทุน ต่ำกว่า 1260” (แนวรับย่อย 1245 / 12301220จุด)}

Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com

Inside Story

Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ

Single stock futures : รายสัปดาห์

Company Update : CPALL (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 80.00)

CPF (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 35.00)

DELTA (ถือ -ราคาพื้นฐาน 172.00)

In The News : KBANK (ราคาปิด 72.25 บาท) : ออกตราสารฯที่นับเป็นเงินกองทุนขั้นที่ 1

Key Drivers TODAY

ปัจจัยต่างประเทศ

- สหรัฐ: มนูชินยอมรับ การบรรลุข้อตกลงมาตรการกระตุ้นศก.ยังยาก

# นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ ยอมรับว่า การบรรลุข้อตกลงในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พ.ย. ถือเป็นเรื่องที่ยาก โดยพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันยังคงมีความขัดแย้งกันในหลายประเด็น ซึ่งรวมถึงประเด็นวงเงินของมาตรการดังกล่าว

# นักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐ หลังจากนางแนนซีเพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้ปฏิเสธข้อเสนอวงเงิน 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ของทำเนียบขาว โดยระบุว่า วงเงินดังกล่าวไม่เพียงพอต่อการเยียวยาผลกระทบของโควิด-19

- วัคซีน: J&J ระงับการทดลองวัคซีนหลังพบผู้ป่วย และ Eli Lilly & Co ระงับการทดลองแอนติบอดี

# J&J ประกาศระงับการทดลองทางคลินิกของวัคซีนต้านโควิด-19 ในเฟสสุดท้าย ซึ่งมีอาสาสมัครเข้าร่วมโครงการ60,000 คน หลังพบว่าผู้เข้าร่วมโครงการรายหนึ่งล้มป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ นอกจากนี้ ทางบริษัทยังระงับการรับอาสาสมัครในโครงการดังกล่าวเป็นการชั่วคราว

# ทางด้านบริษัท Eli Lilly & Co ระบุในแถลงการณ์ว่า คณะกรรมการติดตามความปลอดภัยด้านข้อมูลของบริษัทได้แนะนำให้ระงับการรับอาสาสมัครทดลองแอนติบอดีในโครงการซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐ

+ สหรัฐ: ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ดีดตัว 0.4% ในเดือนก.ย.

# กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ดีดตัว 0.4% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น0.3% ในเดือนส.ค. โดยดัชนี PPI ได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของราคาที่พักในโรงแรม

  • นักลงทุนสหรัฐจับตารายงานผลประกอบการบจ. ไตรมาส 3/2563 สัปดาห์นี้

# ดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง 2.4% หลังจากแบงก์ ออฟ อเมริกา และธนาคารเวลส์ ฟาร์โก เปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอในไตรมาส 3 ส่วนหุ้นโกลด์แมน แซคส์ บวกเพียง 0.21% แม้ธนาคารเปิดเผยธนาคารเปิดเผยกำไรในไตรมาส 3 ที่สูงกว่านักวิเคราะห์คาด

- ตลาดหุ้นสหรัฐ: ดาวโจนส์ปิดลบ 165.81 จุด วิตกแผนกระตุ้นเศรษฐกิจไม่คืบ

# ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่สองเมื่อคืนนี้ (14 ต.ค.) หลังจากนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐยอมรับว่า ทำเนียบขาวและพรรคเดโมแครตอาจไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ได้ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พ.ย. นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการที่อ่อนแอของธนาคารรายใหญ่อย่างแบงก์ ออฟ อเมริกา และเวลส์ ฟาร์โก

+ น้ำมัน: WTI ปิดบวก 84 เซนต์ รับโอเปกพลัสปฏิบัติตามแผนลดผลิต

# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (14 ต.ค.) ขานรับรายงานที่ว่า กลุ่มกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดการผลิต ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้

  • ทองคำ: ปิดพุ่ง $12.7 รับดอลล์อ่อน-แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นมายืนที่เหนือระดับ 1,900 ดอลลาร์ได้อีกครั้งเมื่อคืนนี้ (14 ต.ค.) เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำ นอกจากนี้ ความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งความไม่แน่นอนของการเลือกตั้งในสหรัฐ ยังเป็นแรงผลักดันให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

  • ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่จะทยอยประกาศสัปดาห์นี้

# ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ราคานำเข้าและราคาส่งออกเดือนก.ย., ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนต.ค.จากเฟดนิวยอร์ก, ดัชนีการผลิตเดือนต.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ยอดค้าปลีกเดือนก.ย., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย.,สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนส.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนต.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์

-การเมืองไทย: ไทยประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ผู้ชุมนุมย้ายไปราชประสงค์ 16:00 น.

# เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 15 ต.ค. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร ขณะที่ผู้ชุมนุมประกาศยุติการชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาล แต่จะไปชุมนุมที่ถนนราชประสงค์เวลา 16:00 น. ล่าสุดมีข่าวแกนนำ อานนท์-เพนกวินถูกควบคุมตัวแล้ว

# ผลกระทบ: เป็นลบ คาดว่าเป็นการประกาศป้องกันไว้ก่อน แต่ต่างประเทศอาจจะตระหนกมากกว่าคนไทย ซึ่งทราบสถานการณ์ดีกว่า จึงอาจมีแรงขายหุ้นออกมาได้เช่นกัน ระหว่างวันต้องติดตามข่าวว่าจะมีเหตุรุนแรงมากขึ้นหรือไม่ แต่ในช่วงที่ผ่านมา ภาพการชุมนุมโดยรวมยังเป็นไปแบบสงบ

- ปัจจัยการเมือง: การชุมนุมกลุ่มคณะราษฎร 2563 ยังคงยืดเยื้อ

# กลุ่มคณะราษฎร 2563, แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และกลุ่มประชาชนปลดแอก นัดชุมนุมที่บริเวณอนุสาวรียประชาธิปไตย และเคลื่อนขบวนมุ่งหน้าไปยังทำเนียบรัฐบาล เพื่อต้องการยื่น 3 เรียกร้องให้รัฐบาล ประกอบด้วย 1.นายกรัฐมนตรีต้องลาออก 2.เปิดสภาสมัยวิสามัญเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ และ 3.ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ โดยได้เกิดเหตุกระทบกระทั่งกันเล็กน้อยระหว่างผู้ชุมนุมกลุ่มคณะราษฎร 2563 กับกลุ่มมวลชนจากศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน(ศปปส.) และผู้ที่สวมใส่เสื้อเหลืองมารอรับเสด็จริมถนนราชดำเนินกลาง

+ รมว.สาธารณสุข ยันพร้อมรับมือโควิด หากเปิดประเทศรับนทท.เพื่อฟื้นเศรษฐกิจ

# นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงข้อเสนอในการลดวันกักตัวลงนั้นคณะกรรมการวิชาการ และคณะกรรมการที่ปรึกษา ของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ได้ทบทวนข้อมูลทั่วโลกและให้คำแนะนำว่าการลดวันกักกันลงจาก 14 วันเหลือ 10 วันไม่มีความแตกต่าง โอกาสมีคนติดเชื้อหลุดออกไปมีน้อยมากโดยเฉพาะการเริ่มต้นจากประเทศที่มีเสี่ยงต่ำหรือมีความเสี่ยงใกล้เคียงประเทศไทย เช่น จีน ไต้หวัน นิวซีแลนด์ และออสเตรเลีย

  • รมว.คลังเห็นถึงความจำเป็นที่ภาครัฐจะต้องเพิ่มการใช้จ่ายเพื่อเยียวยาประชาชน

# รมว.คลัง เป็นประธานการประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงการคลัง เพื่อมอบนโยบายในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

โดยรับทราบการรายงานภาวะเศรษฐกิจไทยในปี 2563 และแนวโน้มของเศรษฐกิจในปี 2564 ซึ่งได้รับผลกระทบจากการ

แพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะภาคการส่งออก ภาคบริการ และการท่องเที่ยว โดยคาดว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

ไทยจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่ภาครัฐจะต้องเพิ่มการใช้จ่ายเพื่อเยียวยาและช่วยเหลือประชาชน

กลุ่มต่างๆ อย่างเร่งด่วนเพิ่มขึ้น

+/มาตรการเยียวยาต่อไปจะเน้นไปยังกลุ่มประชาชนที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ

# # ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า โครงการแจกของขวัญปีใหม่ 2564 จะเน้นไปยังกลุ่มประชาชนที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเป็นคนละส่วนกับมาตรการช้อปดีมีคืน และคนละครึ่ง แต่ต้องขอเวลาศึกษารายละเอียดก่อนโดยเบื้องต้นจะเจาะกลุ่มผู้ว่างงาน ซึ่งขณะนี้มีตัวเลขอยู่ราว 1 ล้านคนที่จะเข้าไปช่วยก่อน

+ ธปท.เตรียมอนุญาตให้สามารถเปิดบัญชีเงินตราต่างประเทศ (FCD) โดยมีเงื่อนไขน้อยลง

# ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เตรียมอนุญาตให้สามารถเปิดบัญชีเงินตราต่างประเทศ (FCD) โดยมีเงื่อนไขน้อยลงเช่น การขยายเพดานการเปิดบัญชีให้สามารถโอนเงินในบัญชี FCD ระหว่างกันในประเทศได้ รวมถึงหากไม่มีภาระหรือธุรกรรมรองรับก็สามารถเปิดบัญชี FCD ได้ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเห็นการผ่อนคลายหลักเกณฑ์ในเฟสแรกช่วงต้นปี 64

นักวิเคราะห์&กลยุทธ์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]

******************************************

 

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!