- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 06 October 2020 11:13
- Hits: 3287
บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 6-10-2020
Market Wrap-Up
- • SET ปิดวันที่ 5 ต.ค.63 ปิด +5.45 จุด อยู่ที่ 1,242.99 จุด มูลค่าการซื้อขาย 39,485 ลบ.ต่างชาติขาย 1,115 ลบ. สถาบันซื้อ 76 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 82 ลบ. ยอด NVDR มียอดขายสุทธิอยู่ที่ 171 ลบ.โดยมียอดซื้อหุ้น PTTEP,INTUCH,BAM,IVL,CBG และมียอดขายหุ้น CPF,ADVANC,TASCO,CPALL,RATCH มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 1,514 ลบ หุ้นที่มีมูลค่า Short สูงคือ AOT,MINT,PTT โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 2,085 สัญญาและมียอด Long สะสมตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 134,222 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 673 ลบ.
- • ตลาดหุ้นสหรัฐ Down Jones ปิด +1.68%, S&P500 +1.80%, Nasdaq +2.32% ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและพลังงาน รับข่าวประธานาธิบดีทรัมป์ออกจาก รพ.หลังได้รับการรักษา 4 วัน ส่งผลให้หุ้น Regeneron +7.13% ผลิตแอนติบอดีที่ใช้รักษาทรัมป์ ขณะที่การเจรจาระหว่างแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทน ฯ กับรมว.คลัง มนูชินต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมีคืบหน้าเชิงบวก รายงานทางเศรษฐกิจนั้น ISM ดัชนีภาคบริการสหรัฐ ก.ย. เพิ่มขึ้น 57.8 ดีกว่าคาดที่ 56.0 ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 ปิด +0.81% ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มน้ำมัน กลุ่มเดินทางและสันทนาการ และกลุ่มรถยนต์ รับข่าวประธานาธิบดีทรัมป์ออกจาก รพ. ขณะที่ Markit PMI ภาคบริการอังกฤษ ก.ย. อยู่ที่ 56.1 ขยายตัวเป็นเดือนที่ 3
Market View
- • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับขึ้นรับข่าวประธานาธิบดีทรัมป์ออกจาก รพ.หลังเข้ารับการรักษาได้ 4 วัน ช่วยลดความกังวลต่อสถานการณ์ความไม่แน่นอนการเลือกตั้ง 3 พ.ย. นี้ ขณะที่ประธานสภาผู้แทน ฯ สหรัฐ นางเพโลซีอยู่ระหว่างหารืองบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจกับ รมว.คลัง มนูชิน โดยประธานาธิบดีทรัมป์ส่งสัญญาณบวกพยายามหาข้อตกลงในวงเงินช่วยเหลือ 1.5 – 2.2 ลล.ดอลลาร์ โดยมีงบช่วยเหลือรัฐต่าง ๆ ธุรกิจสายการบิน ร้านอาหาร รวมถึงคนว่างงาน ช่วยลดความเสี่ยงเศรษฐกิจสหรัฐ Q4 ชะลอตัว ส่วน Nasdaq Futures เช้านี้ปรับลดลง หลังสภาผู้แทน ฯ นำโดยพรรคเดโมแครตเตรียมตรวจการกีดกันการแข่งขันของบริษัทเทคโนโลยี เช่น Apple , Amazon ปัจจัยต่างประเทศต้องรอการดีเบตของรอง ปธน.ไมค์ เพนซ์กับคามาลา แฮร์ริส รวมถึงรายงานการประชุมเฟด ก.ย. ในวันพุธนี้ ส่วนดัชนีหุ้นไทยวานนี้ปิด +0.44% ปริมาณการซื้อขายน้อย 3.9 หมื่น ลบ. ต่างชาติขายสุทธิ 1.1 พัน ลบ. ดัชนีหุ้นไทยฟื้นตัวตาม Sentiment บวกดัชนีภูมิภาค และมีการแต่งตั้ง นายอาคม เติมพิทยาไพสิทธิ์ เป็น รมว.คลังท่านใหม่ ซึ่งเตรียมประชุม ศบศ.ในวันพรุ่งนี้เพื่อออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อรูปแบบ ชิมช็อปใช้ ( Co-Pay) และช็อปช่วยชาติสามารถนำค่าใช้จ่ายเป็นหักภาษีเงินได้ รวมถึงมาตรการผ่อนคลายเปิดรับนักท่องเที่ยว และนักธุรกิจต่างชาติต้องมีผลตรวจ Covid-19 (RT-PCR) ไม่เกิน 72 ชม.ก่อนเข้าไทย เป็นบวกต่อภาคท่องเที่ยวและนิคม
Daily Strategy
- • ดัชนี SET เช้านี้ได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อและการเริ่มเปิดรับนักธุรกิจต่างชาติ วางแนวรับ 1,230 – 1,235 แนวต้าน 1,250 – 1,255 แนะนำซื้อ HMPRO,CRC,CPN, COM7, JMART, SINGER และกลุ่มนิคม ฯ AMATA, WHA
- • PTTEP (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย 102.00 บาท) คาดราคาน้ำมันดิบโลกยังมีปัจจัยหนุนในช่วงสั้นไปอีก 1-2 วัน จากข่าวทรัทป์ออกจากโรงพยาบาลเลยมีแรงซื้อกลับเข้ามาในสัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้าหลังจากเกิด Panic Sell ไปเมื่อวันศุกร์ นอกจากนี้ตลาดยังคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ รอบใหม่ที่มีความคืบหน้า ขณะที่มีประเด็นติดตามจาก Tropical Storm Delta ที่กำลังพัดเข้าสู่อ่าวเม็กซิโกคาดว่าจะขึ้นฝั่งในวันพฤหัสบดี ทำให้ผู้ผลิตน้ำมันดิบ offshore เตรียมแผนอพยพพนักงานบางส่วนออกนอกพื้นที่ และยังมีการประท้วงของพนักงานในอุตสาหกรรม Oil&Gas ใน Norway อาจจะกระทบต่อกำลังการผลิตน้ำมันราว 3.3 แสนบาร์เรลต่อวัน
- • WHA ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย 3.40 บาท) เราแนะนำให้เล่นเก็งกำไรจากประเด็นข่าวที่ทางภาครัฐในวันที่ 7 ต.ค. นี้กำลังพิจารณาเกณฑ์การผ่อนปรนการกักตัวของกลุ่มนักธุรกิจทั้งจีนและญี่ปุ่นที่จะเดินทางเข้ามาทำธุรกรรมหรือเนินการใดๆที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจ ซึ่งเดิมทีต้องถูกกักตัวถึง 14 วัน ซึ่งหากการผ่อนปรนได้รับการอนุมัติก็จะทำให้ลูกค้าของกลุ่มนิคมมีความสะดวกในการเดินทางเข้ามาทำสัญญาซื้อขายที่ดินได้ สำหรับปัจจัยเฉพาะตัวอื่นของ WHA คือการขายทรัพย์สินเข้ากอง WHART 3.2 พัน ลบ. และ HREIT 1.3 พัน ลบ. ในไตรมาส 4 โดยจะบันทึกเข้ามาเป็นรายได้จากการขายและส่วนแบ่งกำไร (Equity Income) ในส่วนของประมาณการกำไรปี 63-64 เราประเมินไว้ที่ระดับ 2.3 พัน ลบ. และ 3.1 พัน ลบ. -27%YoY, +34%YoY ตามลำดับ
Daily Key Factors
Oil Update (+) WTI Futures พ.ย. ปิด $+2.17 อยู่ที่ $39.22 /บาร์เรล Brent Futures ธ.ค. ปิด +$2.02 อยู่ที่ $41.29 /บาร์เรล คลายความกังวลหลังประธานาธิบดีทรัมป์สามารถออกจาก รพ.ได้ ขณะที่คนงานบริษัทน้ำมันนอร์เวย์ Equinor หยุดงานประท้วง
Gold Update (+) Gold Futures ธ.ค.ปิด +12.50 ดอลลาร์ อยู่ที่ 1,920.10 ดอลลาร์/ออนซ์ Dollar Index อ่อนค่า -0.35% อยู่ที่ 93.5166 นักลงทุนออกจากสินทรัพย์ปลอดภัย หลังข่าวอาการประธานาธิบดีทรัมป์ดีขึ้น
Fund Flow (-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -55.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -35.3 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโด +2.3 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -22.5 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้แข็งค่าอยู่ที่ 31.254 บาทดอลลาร์สหรัฐ
(+) ดัชนี BDI ปิด +51 จุด อยู่ที่ 2,071
(+) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 0.77% , 2 ปี อยู่ที่ 0.147
(+) ค่าเงินหยวน off-shore แข็งค่าเล็กน้อยอยู่ที่ 6.7898/USD
(-) วานนี้สหรัฐรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้น 40,433 ราย รวมอยู่ที่ 7,678,501 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 384 ราย รวมอยู่ที่ 214,995 ราย / อินเดียติดเชื้อเพิ่มขึ้น 59,893 ราย รวมอยู่ที่ 6,682,073 ราย ( Worldometers )
(0) ก.พาณิชย์รายงานดัชนี CPI ไทย ก.ย. -0.70% YoY หดตัวเป็นเดือนที่ 7
(+) ยอดขายรถยนต์จากค่ายเกาหลีทั่วโลก ก.ย. +0.90% YoY
Economic Calendar
ในประเทศ
05 ต.ค. กระทรวงพาณิชย์ แถลงสถานการณ์ด้านราคาสินค้าและบริการ
06 ต.ค. สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย(สภาผู้ส่งออก) แถลงสถานการณ์การส่งออก
07 ต.ค. ประชุมคณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน (กกร.)
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยแพร่รายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ฉบับย่อ
08 ต.ค. สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย แถลงสรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยไตรมาส 3 ปี 2563
สัปดาห์ที่2 หอการค้าไทย ร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค
ต่างประเทศ
05 ต.ค. CN วันหยุด-วันชาติ
US ดัชนี PMI ภาคการบริการจากสถาบันไอเอสเอ็ม (ISM) (ก.ย.)
06 ต.ค. CN วันหยุด-วันชาติ
US แนวโน้มพลังงานระยะสั้นจากมุมมองของ EIA
US ตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTs ( ส.ค.)
07 ต.ค. CN วันหยุด-วันชาติ
US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
08 ต.ค. CN วันหยุด-วันชาติ
US รายงานการประชุมของ FOMC
US แถลงการณ์ขคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐ
US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
EU แถลงการณ์นโยบายการเงินของ ECB
09 ต.ค. JP ดัชนีจีดีพี (GDP) (ไตรมาสต่อไตรมาส)
Theme Strategy
(1) กลุ่ม Defensive Stock โรงไฟฟ้า BGRIM*, BPP*, CKP*, GPSC*, GULF* อสังหาฯ ที่มีปันผลสูง AP*, NOBLE*
(2) กลุ่มอิงการบริโภคในประเทศรับมาตรการกระตุ้นของรัฐ เครื่องดื่ม CBG*, ICHI*, OSP*, SAPPE*, BGC*
(3) กลุ่มรับประโยชน์ ศก.ชะลอ NPL ในระบบเพิ่ม สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อจำนำทะเบียน CHAYO*, JMT*, SINGER*, MTC*, SAWAD*, AUCT* ประกัน TQM*
(4) Theme เงินบาทอ่อนค่า กลุ่มส่งออกอาหาร CPF*, GFPT*, TFG*, TU* สินค้าโภคภัณฑ์ STA*, STGT ราคาถั่วเหลือง TVO* ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ DELTA*, HANA*, KCE* SMT*, SVI*, WICE*
(5) ค่าระวางเรือปรับขึ้นในช่วง High Season RCL*, PSL*
(6) กลุ่มสินค้าไอทีฯ COM7*, SYNEX*, SPVI*, JMART*
*หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio September 2020: WICE*, ASIAN*, BGC*, CPF*, BCH*, TKN
Analysts
Apichai Raomanachai No. 002939
Nopporn Chaykaew No. 043964
Piyatat Pasommanatsakul No. 081741
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web