- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 29 September 2020 16:23
- Hits: 14232
บล.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 29-9-2020
MARKET TALK
กลยุทธ์การลงทุน
ประเมินว่า SET Index ยังอยู่ภายใต้ภาวะผันผวน โดยส่วนหนึ่งเป็นอิทธิพลของกลไกการซื้อขายที่มีทั้งเรื่อง Window Dressing, การปรับ Series ของ Future และการกลับไปใช้เกณฑ์ Short Sell เดิม กลยุทธ์การลงทุน วานนี้มี Cut Loss หุ้น DIF น้ำหนัก 30% ให้เกลี่ยเข้าลงทุนใน MTC 10% ส่วนที่เหลือกลับเข้า DIF ใหม่ สำหรับหุ้น Top Pick เลือก MCS, MTC และ STGT
เข้าใกล้จุดการเปลี่ยนแปลงเชิงกลไก อาจทำให้ SET Index ผันผวน ในเชิงของกลไกการซื้อขายแล้วกำลังเข้าใกล้จุดสำคัญ 3 เรื่อง คือ 1) Window Dressing สิ้นงวด 3Q63 โดยในประเด็นนี้จากข้อมูลที่ทำการศึกษาย้อนหลังพบว่าในงวด 3Q63 มักจะไม่ค่อยเกิด แต่ในทางตรงข้ามช่วงเดือน ก.ย. นักลงทุนต่างชาติกลับมีแรงขายสุทธิออกมา 2) การปรับเปลี่ย Series ของ SET50 Future ซึ่งโดยหลักการแล้วราคา SET50 Index กับราคา SET50 Future จะต้องวิ่งเข้าหากัน ซึ่งมักจะทำให้เกิดความผันผวนในส่วนของ SET50 Index รวมถึง SET Index และ 3) การกลับมาใช้เกณฑ์เดิมในส่วนของ Short Sell รวมถึง Celling / Floor ในภาวะที่สภาพแวดล้อมยังไม่ปกติ อาจนำมาซึ่งความเสี่ยงที่จะเห็นปริมาณการทำ Short Sell เพิ่มขึ้นมาได้ ซึ่งเป็นแรงกดดันต่อ SET Index โดยภาพรวมการเปลี่ยนแปลงในเชิงกลไกทั้ง 3 เรื่องข้างต้น เชื่อว่าน่าจะมีส่วนทำให้ตลาดหุ้นผันผวนได้ต่อ ส่วนปัจจัยแวดล้อมอื่น มีประเด็นเรื่องสัญญาณเชิงบวกของเศรษฐกิจ ซึ่งสอดคล้องกับที่ฝ่ายวิจัยคาด กลยุทธ์การลงทุน วานนี้ได้มีการ Cut Loss หุ้น DIF ซึ่งมีน้ำหนัก 30% ในพอร์ต แนะนำให้เกลี่ยเข้าลงทุนใน MTC น้ำหนัก 10% และ กลับเข้าไปพักเงินใน DIF ตามเดิมอีก 20% ส่วนหุ้น Top Pick เลือก MCS, MTC และ STGT
มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยหุ้นไทยของสถาบัน (ย้อนหลัง 10 ปี)
ที่มา: ASPS รวบรวม
สัปดาห์นี้ติดตาม การโต้วาทีสหรัฐ และตัวเลขการจ้างงาน
วานนี้ ศบศ. รายงานความคืบหน้าการอนุญาตให้บุคคลต่างชาติ 6 กลุ่ม เดินทางเข้าประเทศได้ ตั้งแต่ 1 ต.ค. 2563(ดังรูป)
บุคคลที่อนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศได้ ตั้งแต่ 1 ต.ค. 2563
ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ
ประเด็นสำคัญคือ เที่ยวบินแรก 8 ต.ค. ที่จะเดินทางเข้ามาจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวน 150 คนเข้ามา 25 ต.ค. อีก 126 คน มาลงที่สนามบินภูเก็ต และ 1 พ.ย. เป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย ละกลุ่มเชงเก้น 120 คน มาลงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยรวมนักท่องเที่ยวจะกักตัวในสถานกักกันทางเลือก (Alternative State Quarantine: ALSQ) ซึ่งปัจจุบันมี 3 จังหวัด คือ ชลบุรี, บุรีรัมย์ และภูเก็ต
โดย ASPS ประเมินว่าสร้าง Sentiment เชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มสายการบิน AAV (Buy: FV@B>2.06) โดยยังมีปัจจุยหนุนจาก โครงสร้างการแข่งขันที่ลดลง หลังล่าสุด THAI ยุบไทย สมายล์ ฯลฯส่วนกลุ่มโรงแรม (CENTEL, ERW และ MINT) ราคาหุ้นหลายตัวขึ้นมาเกิน Fair Value
สัญญาณเศรษฐกิจไทย ส.ค.63 ดีขึ้น สอดคล้องกับที่ ASPSนำเสนอ
สำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจที่ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ปี 2563
ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจมีแนวโน้มดีขึ้นตั้งแต่เดือน ก.ค.- ส.ค.63
กสทช. รับเรื่องผู้ประกอบการมือถือถอนอุทธรณ์คดี
กรณีดังกล่าวเชื่อว่าสร้าง Sentiment เชิงลบต่อกลุ่มเท่านั้น จากความกังวลผลกระทบจากการปรับโครงสร้างราคาค่าโทร สอดคล้องกับกฎเกณฑ์ใหม่ ที่ผู้ประกอบการอาจเสียประโยชน์กว่าโครงสร้างเดิม รวมถึงการเสียข้อได้เปรียบที่มีต่อผู้ประกอบการายเล็ก อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยประเมินว่าผลกระทบจริงจะจำกัด เนื่องจาก 1) สัดส่วนรายได้ค่าบริการส่วนใหญ่ในปัจจุบันกว่า 80% ของทั้งหมดไปอยู่บนรายได้บริการข้อมูลแล้ว คงเหลือรายได้บริการโทรเพียงราว 20% 2) รายได้หลักที่อยู่บนบริการข้อมูล สะท้อนว่าปัจจุบันลูกค้าให้ความสำคัญต่อบริการข้อมูลมากกว่า ซึ่งผู้ประกอบการรายหลักยังได้เปรียบ จากการที่มีโครงข่ายเป็นของตนเอง (รายเล็กเหมาซื้อกำลังให้บริการรายใหญ่ไปขายต่อ) และ 3) เชื่อว่าผู้ประกอบการจะปรับตัวออกแบบโครงสร้างราคาค่าโทรใหม่ให้ออกมาอยู่ในอัตราเฉลี่ยระหว่างค่าโทรในเครือข่าย และนอกเครือข่ายเดิม ซึ่งจะช่วยจำกัดผลกระทบ หากราคาหุ้นตอบรับเชิงลบ เชื่อว่าเป็นโอกาสสะสม คงลงทุน เท่าตลาด มี ADVANC (FV@B>210) DTAC(FV@B>40) และ INTUCH(FV@B>70) เป็นตัวเลือกลงทุน
การเปลี่ยน Series Futures, Window Dressing , และการเปิด Short Sell มีผลต่อ SET ?
เปรียบเทียบการแกว่งตัวของ SET Index ก่อนที่จะ Rollover ทั้ง 2 ครั้ง
ที่มา: สายงานวิจัย บล. เอเซีย พลัส
มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยหุ้นไทยของสถาบัน (ย้อนหลัง 10 ปี)
ที่มา: ฝ่ายวิจัยเอเชียพลัส รวบรวม
เปรียบเทียบมูลค่าการ Short Sales ช่วงก่อน-หลังการปรับเกณฑ์ Uptick Rule
ที่มา: สายงานวิจัย บล. เอเซีย พลัส
MTC หุ้น Top picks ตัวใหม่ของฝ่ายวิจัยฯ
แนวโน้มกำไรสุทธิจะขึ้นทำ New high ต่อเนื่องในงวด 3Q63 จากแนวโน้มสินเชื่อสุทธิเติบโตต่อเนื่อง หลังคลาย lock down ไปแล้ว อีกทั้ง ยังเป็นช่วงเปิดเทอมและฤดูกาลเพาะปลูก หนุนความต้องการใช้สินเชื่อเพิ่มขึ้น ขณะที่คาดกำไรสุทธิปี 2563-64 จะเติบโต 21.4% yoy และ 16.8% yoy จากแนวโน้มสินเชื่อสุทธิปี 2563-64 เติบโต 15.3% yoy และ 20.0% yoy สอดคล้องกับการขยายสาขาต่อเนื่อง ขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับการที่ธนาคารออมสินจะเข้ามารุกสินเชื่อบุคคลมากขึ้น ฝ่ายวิจัยประเมินว่าจะกระทบ MTC จำกัด เพราะเป็นลูกค้าคนละกลุ่มกัน อีกทั้ง MTC ยังมีจุดเด่นที่มีสาขามากถึง 4.5 พันสาขา สามารถให้บริการที่ดีและรวดเร็วกว่ามาก ฝ่ายวิจัยจึงยังแนะนำซื้อ MTC (FV@B>57) รับการเติบโตของธุรกิจในงวด 2H63
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 004132
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 087636
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 110506
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web