- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 29 September 2020 15:58
- Hits: 13342
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 29-9-2020
“ดาวโจนส์-น้ำมันขึ้นดี ม.เยียวยาคืบหน้า แต่ยังต้องระวัง”
- • หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : BTS (จากซื้อเป็นถือ)
# ภาวะตลาดและปัจจัยก่อนหน้า : SET วันจันทร์ ฟื้นตัวดี ปิด +18.08 จุด ที่ 1263.02 จุด มูลค่าซื้อขายบาง 41 พันลบ. ปรับเพิ่มเหมือนภูมิภาค มาตรการเยียวยาสหรัฐคืบหน้ามากขึ้นจากข้อเสนอเดโมแครต ตัวเลขสินค้าคงทน ส.ค.ดี แม้การเมืองไทยยังคงร้อนแรง และการจะกลับมาใช้เกณฑ์ซิลลิ่ง-ฟลอร์ ช็อตเซลล์ 1 ต.ค.63 และใกล้จบ 3Q63 หมดสัญญาฟิวเจอร์สและมีวินโดว์ฯหรือไม่ ซื้อสุทธิมาก-สถาบัน ขายสุทธิมาก-ต่างชาติ YTD ต่างชาติขายสุทธิเพิ่มเป็น 272 พันลบ.
# ปัจจัยและกลยุทธ์: SET-มีโอกาสรีบาวด์ต่อ จากมาตรการเยียวยาสหรัฐคืบหน้า ดาวโจนส์-น้ำมันปรับขึ้น แต่โควิด-19 ยังน่ากังวล ปัจจัยบวกคือ มาตรการเยียวยาสหรัฐเป็นบวก การดีเบตทรัมป์ VS ไบเดนคืนนี้ ทรัมป์ยืนยันจะไม่ล็อกดาวน์รอบ 2 ดาวโจนส์ +410 จุด น้ำมัน WTI +35 cent ดัชนีกังวล Vix ปรับลงเป็น 26.16 จุด ส่วนตลาดหุ้นเพื่อนบ้านและดาวโจนส์ Future เช้านี้บวก สำหรับไทย-สศค.คาดเศรษฐกิจ 3Q ฟื้นตัวจาก 2Q และการตั้ง รมว.คลังใหม่ คาดเป็นสัปดาห์หน้า ด้านปัจจัยลบคือ ยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกสูงถึง 33 ล้านราย ส่วนไทยวานนี้ติดเชื้อเพิ่มถึง 22 ราย แต่อยู่ในที่กักกัน และวานนี้ขยายเวลาพรบ.ฉุกเฉินต่ออีก 1 เดือน คือ ต.ค.63 สำหรับกลยุทธ์ระยะสั้น ความเสี่ยงยังมาก ควรเล่นรอบ ระยะนี้คาดดัชนีซื้อ-ขายช่วง 1240-1280 จุด หากหลุด 1255 จุดเป็นสัญญาณไม่ดีอีกครั้ง ให้ Stop Loss ด้านกลยุทธ์ระยะกลาง-ยาว เนื่องจากเศรษฐกิจโลกและไทยยังไม่สดใส ความเสี่ยงคือ หมดเงินเยียวยา หนี้เสียสูง และการเมืองไทยร้อนแรงขึ้น แต่ก็มีสัญญาณการฟื้นตัว หลังคลายล็อกดาวน์ วัคซีน-ยาคืบหน้า ดอกเบี้ยในตลาดต่ำ เงินออมบางส่วนไหลเข้าตลาดหุ้น จึงแนะนำทยอยถอยรับหลักทรัพย์พื้นฐานดี แนวรับคือ 1240-1230 จุด และ แนวต้าน 1270-1280 จุด ด้านผลกระทบการเข้ามา IPO หุ้น SPCG ซึ่งระดมทุนถึง 4.5 หมื่นล้านบาท กองทุนไทยฯมีโอกาสขายหุ้นเพื่อเตรียมเงินมาจองหุ้นราวเดือน ต.ค. และเนื่องจากมี Market Cap.ใหญ่มีโอกาสได้เข้า Fast Track ใน SET 50/100ทำให้หุ้นลำดับท้ายๆ ถูกเบียดออกได้รับผลลบ เช่น TCAP, ERW ปัจจัยน่าติดตามคือ การเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้าไทยได้ครั้งแรก ด้วยวีซ่าแบบพิเศษ (STV) จะเริ่ม 1 ต.ค.63 นี้แล้ว รับครั้งแรก 1,200 คน ล่าสุดที่ประชุม ศบค.ได้อนุญาตให้ต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ 6 กลุ่ม (รวม STV ด้วย) ทำให้หุ้นกลุ่มเดินทาง-ท่องเที่ยวอาจกลับมาเก็งกำไรอีกรอบ กองทุน DIF ปรับตัวลงแรง ยังไม่มีสาเหตุแน่ชัด แต่คาดกันว่าอาจจะเป็น TRUE ขายทำกำไรออกมา เนื่องจากปัจจุบันสามารถถือ DIF ได้ต่ำสุดที่8% เทียบกับก่อนหน้ามีอยู่ 26% แต่หากขายจนเหลือน้อยกว่า 25% จะต้องรายงานออกมา ระยะสั้น ปัจจัยลบนี้ยังไม่ชัดเจน จึงทำให้หุ้นผันผวนสูง แต่ระยะกลาง-ยาวแนะนำทยอยสะสม เพราะจ่ายปันผลสูง อัตราผลตอบแทนเป็น 7.5% ให้ราคาพื้นฐาน 18.80 บาท
# Stock Pick Today GPSC ได้รับผลกระทบน้อยจากยานยนต์ แนวโน้ม 2H63 ดี ต้นทุนก๊าซลดลง & ผลกระทบจากโควิด-19 น้อยกว่ากลุ่ม คือ 85% ของความต้องการใช้ไฟฟ้าในส่วนลูกค้าอุตสาหกรรมเป็นกลุ่ม PTT และผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ซบเซาเป็นเพียง 2% ของรายได้จากขายไฟฟ้าทั้งหมด DBS คาดกำไรปี 63F และปี 64F+6%/ +38% หลังจากภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้น ทำให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ให้ราคาพื้นฐาน 95 บาท
กลยุทธ์ทางเทคนิค: ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick & Indicators เหมือนจะเป็นบวกเล็กๆ {“ปิดบวกแรง”ใต้“SMA10วัน” (โดยมี“โครงสร้างขาลง – ระยะกลาง”กดดัน)} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯวันนี้“แกว่ง”แบบให้น้ำหนักกับการลง แต่“ค่าบวก” (มี“แนวรับย่อย 1250+/- และสภาวะ Oversold + Divergenceในกราฟรายนาที”หนุน) จะช่วยให้มีรีบาวด์ฯสั้นๆก่อน(แล้วจึงลงต่ำ,ตามมา)ได้ แนวต้าน 1270 – 1280 (หรือ 1290) จุด {แนวตัดขาดทุน “ต่ำกว่า 1255” (แนวรับย่อย “1240 / 1230 – 1220” จุด)}
Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com
Inside Story
Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ
Company Update : BTS (ถือ -ราคาพื้นฐาน 10.33)
PTTEP (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 101.00)
In The News : IVL (ราคาปิด 21.40 บาท) : ระยะสั้นยังไม่มีปัจจัยกระตุ้น
DIF (ราคาปิด 13.80 บาท) : ราคาหุ้นร่วงแรง แต่ปัจจัยพื้นฐานไม่เปลี่ยนแปลง
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
+ สหรัฐ: ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ส่งสัญญาณมีแนวโน้มบรรลุมาตรการเยียวยา
# นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ส่งสัญญาณว่า ตนและนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ มีแนวโน้มบรรลุข้อตกลงในการออกมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจรอบใหม่ เพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
# หนึ่งในประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายกำลังผลักดันคือวงเงินในโครงการ Paycheck Protection Program (PPP) เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน
- • สหรัฐ: นักลงทุนจับตาการดีเบตรอบแรกระหว่างทรัมป์กับไบเด็น
# นักลงทุนจับตาการดีเบตรอบแรกระหว่างโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน และโจ ไบเดน คู่ท้าชิงจากพรรคเดโมแครต โดยการดิเบตจะจัดขึ้นในเวลา 21.00 น.ของวันอังคารตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับเช้าวันพุธ เวลา 08.00 น.ตามเวลาไทย
+ สหรัฐ: ทรัมป์ยืนยันว่าจะไม่มีการสั่งล็อกดาวน์สหรัฐเป็นรอบที่ 2
# ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยืนยันว่าจะไม่มีการสั่งล็อกดาวน์สหรัฐเป็นรอบที่ 2 หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจสหรัฐ เช่น สายการบิน และธุรกิจเรือสำราญ ต่างก็ปรับตัวขึ้น
- • สหรัฐ: ติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร ก.ย. ประกาศวันศุกร์นี้
# นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย.ของสหรัฐ ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันศุกร์นี้
-โควิด-19: ยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตทั่วโลกยังอยู่ในเกณฑ์สูง
# ข้อมูลล่าสุดของ Worldometer ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกมีจำนวนมากกว่า 33 ล้านราย ขณะที่สหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อสูงสุดในโลก โดยมีจำนวนมากกว่า 7 ล้านราย และมีจำนวนผู้เสียชีวิตมากกว่า 2 แสนราย ซึ่งเป็นจำนวนสูงที่สุดในโลกเช่นกัน
+ ตลาดหุ้นสหรัฐ: ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 410.10 จุด ขานรับมาตรการเยียวยาศก.คืบหน้า
# ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุนนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (28 ก.ย.) ขานรับความคืบหน้าการออกมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐ นอกจากนี้ยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มธนาคาร หลังจากหุ้นทั้งสองกลุ่มร่วงลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา
+ น้ำมัน: WTI ปิดบวก 35 เซนต์ รับความหวังสหรัฐออกมาตรการเยียวยาศก.
# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 ก.ย.) ขานรับสัญญาณบวกที่ว่า สภาคองเกรสและทำเนียบขาวมีแนวโน้มที่จะบรรลุข้อตกลงการออกมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจรอบใหม่ อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงกังวลว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกที่ยังไม่มีแนวโน้มบรรเทาลงนั้น อาจขัดขวางการเติบโตของเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลก
- • ทองคำ: ปิดบวก 16 ดอลลาร์ เหตุดอลล์อ่อนหนุนแรงซื้อ
# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 ก.ย.) เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ช่วยเพิ่มความน่าดึงดูดให้กับราคาทองคำ นอกจากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
- • ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่จะทยอยประกาศภายในสัปดาห์นี้
# สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนส.ค.,ดัชนีราคาบ้านเดือนก.ค.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย.จาก Conference Board,ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.ย.จาก ADP, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2563, ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนส.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนส.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนก.ย.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคการผลิตเดือนก.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), การใช้จ่ายภาคการก่อสร้างเดือนส.ค., ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนส.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์
+ สศค.คาดว่าเศรษฐกิจในไตรมาส 3/63 จะดีขึ้นจากไตรมาส 2/63 ต.ค.63 จะทบทวน GDP อีกครั้ง
# สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) คาดว่าเศรษฐกิจในไตรมาส 3/63 จะดีขึ้นจากไตรมาส 2/63 ที่ติดลบมากถึง -12.2% เนื่องจากในเดือน ก.ค.-ส.ค.63 เห็นการฟื้นตัวอย่างชัดเจน โดยในเดือน ต.ค.63 กระทรวงการคลังจะทบทวนประมาณการเศรษฐกิจในปี 63 และปี 64 อีกครั้ง ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจไทยในเดือน ส.ค. 63 ยังคงชะลอตัว แต่มีทิศทางปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า โดยเฉพาะการผลิตภาคอุตสาหกรรม เกษตรกรรม การส่งออกสินค้า และการบริโภคภาคเอกชน สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจต่าง ๆ และกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องภายหลังมาตรการผ่อนคลายการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19
+ การเมืองไทย: การแต่งตั้ง รมว.คลังคนใหม่ แทนนายปรีดี ดาวฉาย จะมีความชัดเจนในสัปดาห์หน้า
# นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การแต่งตั้ง รมว.คลังคนใหม่ แทนนายปรีดี ดาวฉาย จะมีความชัดเจนในสัปดาห์หน้า ซึ่งคุณสมบัติของ รมว.คลังคนใหม่จะเป็นผู้ที่เป็นที่รู้จัก รู้งานด้านเศรษฐกิจและการทำงานของรัฐบาล ใจถึง และเข้มแข็ง
- • ศบค.เห็นชอบเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาขยายเวลาพรก.ฉุกเฉิน ต.ค.อีก 1 เดือน
# ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เห็นชอบเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาขยายเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรคราวที่ 6 ตั้งแต่ 1-31 ต.ค.63 เพื่อควบคุมและป้องกันโควิด-19
+ ศบค.อนุญาตให้ต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยได้ 6 กลุ่ม
# ที่ประชุม ศบค.ได้อนุญาตให้ต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ 6 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มนักกีฬาที่จะเข้าร่วมการแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติเฉลิมพระเกียรติฯ 6-16 ต.ค., กลุ่มนักบินและลูกเรือ บมจ.การบินไทย (THAI) 340 ราย, กลุ่มที่ถือวีซ่าประเภทคนอยู่ชั่วคราว ได้แก่ นักธุรกิจที่ไม่มีใบอนุญาตที่มีเป็นจำนวนมาก แต่ต้องมีสำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลังไม่น้อยกว่า 5 แสนบาท, การกำหนดเงื่อนไขผู้ขอวีซ่าท่องเที่ยวสำหรับกลุ่มลองสเตย์ (STV) , กลุ่มผู้ถือบัตรเอเปคการ์ดราว 1 แสนคน และ กลุ่มผู้ที่ประสงค์จะพำนักในประเทศไทยทั้งระยะสั้นและระยะยาว
+/- เงินบาทอ่อนค่า หลังดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว ดีกับส่งออก แต่ไม่ดีกับ SET
# เงินบาทล่าสุดอ่อนค่าลงราว 31.64 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ หากเทียบกับสิ้น 2Q63 ที่ 30.89 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ถือว่าอ่อนค่าลง 1.9%
# ผลกระทบ: หลักทรัพย์ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการส่งออก ที่ได้รับผล sentiment ด้านบวก เช่น กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่KCE, HANA, DELTA, SVI กลุ่มเกษตร-อาหาร ได้แก่ CPF, TU, GFPT ด้านหลักทรัพย์ได้ประโยชน์คือนำเข้าวัตถุดิบหรือชิ้นส่วนจากต่างประเทศ ได้แก่ TVO, TSTH, IRPC, BCP, SAT, STANLY, AH, COM7, SYNEX และ JMART เป็นต้น เกิดขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนจากเงินกู้ต่างประเทศของพวกโรงไฟฟ้า อย่างไรก็ตามเมื่อดอลลาร์แข็ง ทองคำในตลาดโลกจะปรับลดลง และบาทอ่อนจะไม่ดีกับ SET ในแง่นักลงทุนต่างประเทศ เพราะเมื่อจะแลกกลับไปเงินต่างประเทศต้องใช้เงินบาทมากขึ้น
+ MK: รับทราบการประกาศการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท
# ผู้ทำคำเสนอซื้อ คือ บริษัท ฟินันซ่า จำกัด (มหาชน) หรือ FNS ราคาเสนอซื้อคือ 3.10 บาท และไม่ใช่การเพิกถอน จากก่อนดีลนี้ FNS ถือหุ้นอยู่ในสัดส่วน 18.8% แต่เงื่อนไขบังคับก่อนคือ ต้องได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้น
# ผลกระทบ: วานนี้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นสูงรับข่าวจนปิดที่ 3.04 บาท เทียบกับราคาเทนเดอร์ ออฟเฟอร์ มีส่วนเพิ่มไม่มากแล้วที่ราว 2% ความสำเร็จการซื้อหุ้นนอกจากรายย่อยมาเทนเดอร์ฯ แล้ว ผู้ถือหุ้นใหญ่รายอื่นๆ ก็มีความสำคัญ เช่น นายประทีป ตั้งมติธรรม ถือหุ้น 12.22% , บริษัทซีพีดี แอสเซท จำกัด ถือหุ้น 5.54% ,บริษัท ซีพีดี โฮลดิ้ง จำกัด ถือหุ้น 5.50%และ EMINENT EXPERT LIMITED ถือหุ้น 4.98% จะตัดสินใจขายหุ้นให้หรือไม่ ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยฯ ไม่ได้ทำการวิเคราะห์(Not Rated) MK
+ EP เผยบ.ย่อยขายโรงไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่น 3 โครงการ มูลค่าเกือบ 2 พันลบ.
# การขายโรงไฟฟ้าดังกล่าวจะทำให้บริษัทมีเงินสดรับเพิมขึ้น และ/หรือมีเงินทุนเพียงพอเพื่อรองรับการขยายธุรกิจ และการลงทุนในอนาคต ที่ให้ผลตอบแทนที่มากกว่า และ/หรือ ชำระคืนเงินกู้ของบริษัท เพื่อลดอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัท และจะส่งผลให้บริษัทมีฐานะทางการเงินที่มั่นคง และผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นต่อไป
# ผลกระทบ: เป็นบวก มีความไม่แน่ชัดว่าจะได้รับกำไรสักเท่าใด โดยฝ่ายวิจัยฯ ไม่ได้ทำการวิเคราะห์ (Not Rated) EP
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web