- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 24 October 2014 16:48
- Hits: 2574
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ต่างประเทศสดใสขึ้น
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : พุธ SET Index รีบาวด์กลับ +6.58 จุด ปิดที่ 1,532.72 จุด มูลค่าการซื้อขายเบาบาง 3.7 หมื่นล้านบาท ตลาดหุ้นเพื่อนบ้านส่วนใหญ่ปรับขึ้นเล็กน้อยสอดคล้องกับ SET ตามปัจจัยบวกต่างประเทศคือ สหรัฐฯ และยุโรป ซึ่งมีข่าว ECB จะซื้อตราสารหนี้ที่มีการค้ำประกันด้วยสินเชื่อที่มีคุณภาพ (covered bond) แต่ยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆที่เด่นชัดมากระตุ้นตลาดฯ อย่างไรก็ตามระยะกลางยังมีความหวังว่าเฟดอาจจะยังไม่เร่งรีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเติบโตชะลอตัวลง ขณะเดียวกันอุปสงค์ในตลาดโลกก็แผ่วลงตามการฟื้นตัวที่ล่าช้า ซึ่งการปรับขึ้นค่อนข้างจำกัด นักลงทุนสถาบันเด่นสุด ซื้อสุทธิ 1.1 พันล้านบาท แต่รายย่อยขายสุทธิ 982 ล้านบาท
สำหรับ SET Index วันนี้ปัจจัยตลาดต่างประเทศส่งผลบวกต่อ SET ตัวเลขภาคการผลิตของยุโรปและจีนออกมาดี ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐก็เป็นบวก ดาวโจนส์และตลาดเพื่อนบ้านเกื้อหนุนตลาดยุโรปก็ปรับขึ้นดี แต่ตลาดยังไม่เปลี่ยนภาพเป็นขาขึ้นเสียทีเดียว การเก็งกำไรจึงไม่ควรหวัง Gap กำไรที่มาก ควรเข้าไวออกไว สิ่งที่ควรติดตามคือดัชนีฯ หากปรับลงต่ออาจไปทำยอดต่ำสุดใหม่ที่ 1,510 จุดได้ ก็จะยิ่งเป็นสัญญาณไม่ดี ควรทยอยขายทำกำไร เพื่อมีเงินสดไว้รอซื้อเมื่อดัชนีฯ จะปรับตัวลงมามากแล้ว โดยปัจจัยที่จับตา คือ ตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศชั้นนำ, ผลประกอบการ Real Sectors ซึ่งมีเส้นตายการประกาศงบการเงิน 3Q57 คือ15 พ.ย.57 แต่กลุ่มวัสดุก่อสร้างส่วนใหญ่จะประกาศก่อนปลายเดือนนี้ สำหรับหุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้เป็น GFPT
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดโดยรวมเหมือนจะเป็นบวกเล็กๆ ความน่าจะเป็นของตลาดวันนี้ หากดัชนีฯรักษาค่าบวกได้ จะช่วยลุ้นให้มีรีบาวด์สั้นๆ แต่ภาพใหญ่ยัง “แกว่งลง” เป็นหลัก แนวต้านคือ 1535-1545 ค่าลบของหุ้นและ SET Index หากดูไม่ดี มีสิทธิลงไปทำ New Low ที่ 1510 (+/-10จุด) ดังนั้นในการเข้าซื้อใหม่จึงเน้นซื้อตามด้วยค่าบวก สำหรับหุ้นที่คาดว่าจะทำ New High ทางเทคนิคและให้ถือต่อ ได้แก่ APURE , MJD และ PPSส่วนที่เข้าใหม่เป็น ADVANC, BEAUTY, S, INTUCH, TIES หุ้นที่หลุด List คือ MAJOR และหุ้นที่แนะนำไปแล้วและอยู่ในพื้นที่หาจังหวะ Take Profitประกอบด้วย NIPPON และ AOT
Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ
+สหรัฐ: ตัวเลขเศรษฐกิจดี ได้แก่รายงานของคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งระบุว่าดัชนีชี้นำทางเศรษฐกิจของสหรัฐในเดือนก.ย.ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 104.4 ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้น 17,000 ราย แตะระดับ 283,000 ราย อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
+/- สหรัฐ: ผลประกอบการ 3Q57 ที่มีผลประกอบการดีคือ หุ้นแคทเทอร์พิลลาร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์สำหรับอุตสาหกรรมก่อสร้าง หุ้น 3M หุ้น และหุ้นอาลีบาบา แต่ที่ออกมาน่าผิดหวังคือ Amazon.com
• สหรัฐ: ติดตามยอดขายตัวเลขบ้านใหม่ จับตาดูยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ย.ของสหรัฐ ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้เวลา 21.00 น.ตามเวลาไทย หลังจากยอดขายบ้านใหม่เดือนส.ค.พุ่งขึ้น 18% สู่ระดับ 504,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2551 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 3.4%
+ยุโรป: ตัวเลขเศรษฐกิจดีเช่นกัน นั่นคือความแข็งแกร่งของภาคการผลิตยูโรโซน โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของยูโรโซนเพิ่มขึ้นแตะ50.7 ในเดือนต.ค. จากระดับเดือนก.ย.ที่ 50.3 ขณะที่ดัชนี PMI ภาคการผลิตของเยอรมนีพุ่งขึ้นแตะ 51.8 ในเดือนต.ค. จากระดับเดือนก.ย.ที่ 49.9 ซึ่งเป็นอีกสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจยูโรโซนอาจจะรอดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปีนี้ได้
+จีน: ตัวเลขภาคการผลิตสดใส รายงานของเอชเอสบีซี/มาร์กิตที่ระบุว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนในเดือนต.ค.อยู่ที่50.4 เพิ่มขึ้นจากเดือนก.ย.ที่ระดับ 50.2
+ จีน: คาด GDP 4Q57 ฟื้นตัว นักเศรษฐศาสตร์คาดเศรษฐกิจจีนดีดตัวในQ4/57 หลังชะลอตัวต่ำสุดใน Q3/57
+ ดาวโจนส์: ปรับขึ้นดี ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,677.90จุด พุ่งขึ้น 216.58 จุด หรือ +1.32% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,452.79 จุดเพิ่มขึ้น 69.94 จุด หรือ +1.60% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,950.82 จุด เพิ่มขึ้น23.71 จุด หรือ +1.23%
+น้ำมัน: เพิ่มขึ้นดี WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 1.57 ดอลลาร์ ปิดที่ 82.09ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 2.12 ดอลลาร์ ปิดที่86.83 ดอลลาร์/บาร์เรล
-ทองคำ: ปรับลงแรง สัญญาทองคำตลาด COMEX (CommodityExchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 16.4 ดอลลาร์ หรือ 1.32% ปิดที่ 1,229.1ดอลลาร์/ออนซ์ ขายเข้าตลาดหุ้น
ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหลักทรัพย์
+ธนาคารพาณิชย์: ภาพรวมกำไร 3Q57 surprise ทางบวก แรงหนุนนำคือส่วนต่างดอกเบี้ย (NIM) ที่มาก KBANK โดดเด่น ทั้งกำไรสุทธิและกำไรจากการดำเนินงานก่อนการตั้งสำรองฯ (PPOP) คาดว่าแนวโน้มธุรกิจในอนาคตมีความสดใส คำแนะนำ ถ่วงน้ำหนักมาก Top Pick คือ KBANK และ TMB
• ตลาดหลักทรัพย์: คาดได้ข้อสรุปดูหุ้นปั่น ปัจจุบันมาตรการดูแลราคาหุ้นที่มีการเก็งกำไรสูงจะมี 2 เรื่อง คือ 1.มาตรการดูแลการให้ข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนคือการที่ตลาดฯให้ชี้แจง Trading Alert List สอบถามไปและรอให้บริษัทตอบมา 2.มาตรการดูแลการซื้อขายคือการขึ้น Turnoverlist และประกาศใช้เกณฑ์ Cash Balance ซึ่งต้องดูว่าอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงที่เป็นนัยสำคัญถ้าตลาดฯ ตรวจสอบเบื้องต้นแล้วพบความผิดปกติของราคาหุ้นก็จะส่งเรื่องต่อไปยังก.ล.ต.ให้ตรวจสอบในเชิงลึกต่อไป เช่นตรวจสอบเส้นทางการเงิน
+/-คณะกรรมการพลังงานฯ: แจ้งหลักการซื้อไฟฟ้าแบบ Fit รับทราบในหลักการเรื่องอัตราเงินสนับสนุนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนตามต้นทุนที่แท้จริง หรือ FiT (Feed in Tariff ) ที่กระทรวงพลังงานจะประกาศใช้แทนระบบการให้เงินส่วนเพิ่มรับซื้อไฟฟ้า หรือ Adder สำหรับผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก(VSPP) ที่มีขนาดน้อยกว่า 10 เมกะวัตต์ (MW) และมีมติเปิดให้สัมปทานปิโตรเลียมในพื้นที่ทั้งบนบก-ในทะเล รวม 29 แปลง โดยเปิดให้เอกชนยื่นภายใน18 ก.พ.58 โดยระบุว่า เพื่อเป็นทางออกในการลดความเสี่ยงด้านวิกฤติพลังงานส่วนหัวหน้าคสช. จะทยอยปรับขึ้นราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ตามขั้นบันไดเพื่อให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง
+ AOT คาดปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้น เที่ยวบินต.ค.57-มี.ค.58 เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อน เพราะในช่วงปลายเดือนตุลาคม - มีนาคมของทุกปี ซึ่งเป็นฤดูหนาว และเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวของประเทศไทย สำหรับปีนี้ ทอท.ประมาณการว่าจะมีจำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารใช้บริการท่าอากาศยาน 6 แห่งของทอท.เป็นจำนวนมาก
+ดัชนีค่าระวางเรือ: ปรับตัวขึ้นดีต่อเนื่อง Baltic Dry Index ล่าสุดวานนี้ + 19จุด หรือ 1.67% ปิดที่ 1,155 จุด ส่งผลจิตวิทยาทางบวกต่อ TTA และ PSL