- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 21 September 2020 12:21
- Hits: 16576
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 21-9-2020
กลยุทธ์การลงทุนรายวัน
วันศุกร์ที่ผ่านมา SET แกว่งผันผวน จากการปรับดัชนี FTSE Rebalancing รวมถึงการขายลดความเสี่ยงก่อนการชุมนุม 19 ก.ย. โดยสิ้นวัน SET ปิดที่ 1,288.39 (+3.99 จุด) มูลค่าการซื้อขาย 4.9 หมื่นล้านบาท (เทียบกับวันก่อนหน้า 4.6 หมื่นล้านบาท)
โดยนักลงทุนต่างชาติ ขายหุ้นไทย 1,183 ลบ. (นักลงทุนสถาบันขาย 492 ลบ.) ส่วนตลาด TFEX นักลงทุนต่างชาติเปิด Short Futures ที่ 5,006 สัญญา)
DCC (ราคาเป้าหมาย 3.0 บาท) คาดกำไร 3Q63 ที่ 370 ล้านบาท (+67%YoY) แรงหนุนจากยอดขายเติบโตดี มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีมาร์จิ้นสูง ต้นทุนก๊าซยังอยู่ในระดับต่ำ และยังมีอัตราการจ่ายปันผลสูงถึง 5.6% ต่อปี
กลยุทธ์การลงทุนรายวัน
แม้ไม่รุนแรงแต่ยังคงยืดเยื้อ : ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดจับตาไปที่การชุมนุมของกลุ่มนักศึกษาที่เรียกร้องประชาธิปไตย โดยบทสรุปของการชุมนุมครั้งนี้ แม้ไม่มีการปะทะที่รุนแรง แต่แน่นอนว่าการชุมนุมยังคงยืดเยื้อต่อเนื่อง โดยแกนนำการชุมนุมได้มีการประกาศถึงการชุมนุมในครั้งถัดไปจะมีขึ้นในวันที่ 24 กันยายน และ 14 ตุลาคม ประเด็นนี้บ่งชี้ถึงความไม่แน่นอนทางการเมืองยังน่าจะกดดันทิศทางการลงทุนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นการแกว่งตัวของ SET ยังอาจจะอยู่ในกรอบจำกัดต่อไป นอกจากนี้การเข้าใกล้ช่วงสิ้นเดือน กันยายน ยังมีอีกปัจจัยเสี่ยงคือ โอกาสที่ตลาดหลักทรัพย์จะตัดสินใจกลับมาใช้เกณฑ์ชอร์ตเซลแบบปกติ และ Ceiling & Floor ตามเดิม หลังความผันผวนของตลาดเริ่มชะลอลง ก็ถือเป็นอีกปัจจัยเสี่ยงที่อาจเพิ่มความกังวลต่อตลาดหุ้นไทยเช่นเดียวกัน ดังนั้นการลงทุนในช่วงปลายเดือนนี้ควรเก็งกำไรด้วยความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น
Investment Strategy : วันนี้คาด SET ผันผวน กรอบแนวรับ 1,270 ต้าน 1,300 จุด เน้นหุ้นที่อิงการฟื้นตัวในประเทศ โดย ATO Picks วันนี้แนะนำ “DCC, GLOBAL, GULF”
กลยุทธ์การลงทุน
มีหุ้น : ถือรอทยอยขายทำกำไรที่บริเวณแนวต้าน 1300 / 1310 จุด ตามลำดับ
ไม่มีหุ้น : สามารถเก็งกำไรระยะสั้น โดยถ้าหลุด 1280 จุดให้ชะลอการลงทุน
ประกาศ TOR รถไฟทางคู่ ต.ค.นี้ ลุยพร้อมกัน 2 สาย 1.5 แสนล้าน (ข่าวหุ้น)
ความเห็น : โครงการรถไฟทางคู่สายใหม่ 2 เส้นทาง มูลค่า 1.5 แสนล้านบาท คือ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ 8.5 หมื่นล้านบาท และ สาย บ้านไผ่-นครพนม 6.6 หมื่นล้านบาท ก่อนหน้านี้มีข่าวจะล่าช้า ถ้าเปิดประมูลได้ในเดือน ต.ค. จะเป็น ข่าวด้านบวกต่อกลุ่มรับเหมา เราคงให้น้ำหนักกลุ่มรับเหมาเท่าตลาด เลือก CK (เป้าหมาย 24 บาท) เป็น Top Pick
ยานยนต์กลับมาเด่นปีหน้า โบรกชู AH-STANLY น่าสน (ทันหุ้น)
ความเห็น : แนวโน้ม 2563 เราประเมินยอดผลิตรถยนต์ 1.3 ล้านคัน ลดลง 35.4%YoY ส่วนแนวโน้มปี 2564 เราประเมินยอดผลิตรถยนต์ 1.5 ล้านคัน เติบโต 15% แต่ยังต่ำกว่าระดับปกติที่มียอดผลิตรถยนต์ประมาณ 2 ล้านคัน เราคงให้น้ำหนักลุ่มยานยนต์น้อยกว่าตลาด เลือก STANLY เป็น Top Pick เป้าหมาย 175 บาท
เจมาร์ทซินเนอร์ยี่ ยกเครือลดต้นทุน ผนึกเกาหลีดันเจฟินเทคบุกสินเชื่อ (ประชาชาติธุรกิจ)
ความเห็น : การปรับโครงสร้างต้นทุนใหม่ในช่วงปิดเมืองของธุรกิจมือถือ ทำให้อัตรากำไรใน 3Q-4Q63 จะเป็นบวกมากขึ้นสอดคล้องกับยอดขาย smartphone ที่เติบโต ขณะที่ยังมี Upside risk จากธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งคาดมีการปิดดีลกับ KB Kookmin และบันทึกกำไรพิเศษใน 4Q63 ก่อนเริ่มเจาะตลาดในปี 2564 ประเมินกรอบล่างของราคาเหมาะสมที่ 16.20 บาท
WICE โค้งสุดท้ายขนส่งพีค รับดีมานด์หนุนทุกช่องทาง (ทันหุ้น)
ความเห็น : เราประเมินว่า WICE จะยังคงแสดงกำไรที่โดดเด่นในไตรมาส 3/63 เบื้องต้น โดยสัญญาณจาก ก.พาณิชย์ ตัวเลขส่งออกในส่วนที่ WICE ให้บริการ ยังคงฟื้นตัวดี เราคาดกำไร 60 ลบ. ขยายตัว +117% YoY คงคำแนะนำ ซื้อ 5.60 บาท/ หุ้น
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web