บล.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 18-9-2020

Details: Category: บทวิเคราะห์; Published: Friday, 18 September 2020 17:56; Hits: 15248

บล.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 18-9-2020

MARKET TALK

กลยุทธ์การลงทุน

คาดว่า SET Index น่าจะแกว่งในกรอบแคบ รอดูพัฒนาการของการชุมนุมในวันพรุ่งนี้ ส่วนปัจจัยอื่นที่เข้ามาเป็นเรื่องของราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น ส่วนสัปดาห์หน้าจะมีการประชุม กนง. ซึ่งคาดคงอัตราดอกเบี้ย และมีการประกาศตัวเลขนำเข้าส่งออก พอร์ตการลงทุนได้ขาย MCS และ DCC ออก ให้จัดเงินเข้า NOBLE, PTT และ DIF หุ้น Top Pick เลือก NOBLE, PTT

Wait & See รอดูสถานการณ์การชุมนุมวันเสาร์นี้

สถานการณ์การชุมนุมในวันเสาร์ที่ 19 ก.ย.2563 น่าจะทำให้นักลงทุนอยู่ในภาวะ Wait & See เพื่อติดตามพัฒนการของเหตุการณ์ ส่วนปัจจัยอื่นประเด็นแรกเป็นเรื่องราคาน้ำมันที่ยังปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องด้วยแรงขับเคลื่อนจาการที่ Opec เข้มงวดมากขึ้นในการควบคุมกำลังการผลิต อีกทั้งเป็นฤดูกาลที่มีพายุเข้ามาหลายลูกซึ่งทำให้ Supply หายไปบางส่วน ดีต่อหุ้น PTT ซึ่งจากการติดตามการเคลี่อนไหวของราคาพบว่ายัง Laggard ราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นอยู่มาก อีกเรื่องหนึ่งเป็นกรณีที่จีนมีการประกาศหยุดนำเข้าไก่จากโรงงานในสหรัฐที่มีคนงานติดเชื้อ Covid-19 ซึ่งอาจเป็นผลดีต่อโรงงานผู้ส่งออกในไทย และภาพรวมราคาไก่ โดย CPF และ TFG อยู่ในเกณฑ์ที่ได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ สำหรับสัปดาห์หน้า จุดสำคัญอยู่ที่วันพุธ ซึ่งจะมีการประชุม กนง. คาดการณ์ว่าในรอบนี้น่าจะมีการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเดิม นอกจากนี้ยังเป็นวันที่จะมีการประกาศตัวเลขการส่งออก - นำเข้า ภาพรวมของ SET Index วันนี้น่าจะผันผวนในกรอบแคบ พอร์ตการลงทุนวานนี้มีการขาย DCC และ MCS ออกไปรวม 20% ของพอร์ต ให้จัดสรรเงินเข้าลงทุนเพิ่มใน PTT, NOBLE อย่างละ 5% และ เพิ่มน้ำหนักใน DIF 10% Top Pick เลือก NOBLE และ PTT

การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญในสัปดาห์หน้า

ที่มา: Bloomberg

สัปดาห์หน้าประชุม กนง. คาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

วันนี้ตลาดหุ้นไทยคาดรอ Event สำคัญ คือ การชุมนุมของกลุ่มนักศึกษาในวันที่ 19 ก.ย. ASPS ให้น้ำหนักและต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ส่วนประเด็นสำคัญในสัปดาห์หน้า (Week Ahead) โดยหลักๆ ประเด็นสำคัญจะอยู่ในไทยมากกว่า หลักๆ คือ

การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญในสัปดาห์หน้า

ที่มา: Bloomberg

 22 ก.ย. ประชุมครม.จะมีการพิจารณาอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ ศบศ. เห็นชอบไปเมื่อ 16 ก.ย. คือ มาตรการโครงการคนละครึ่ง, มาตรการเพิ่มวงเงินในบัตรสวัสดิการ Top up 500 บาท และมาตรการส่งเสริมการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์จากต่างชาติ (ดูเพิ่มใน Market Talk ฉบับวันที่ 17 ก.ย. 2563) เป็น Sentiment บวกต่อหุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวข้อง เช่นกลุ่มค้าปลีก (CPALL) และกลุ่มอสังหาฯ (NOBLE)

 23 ก.ย. รายงานตัวเลขส่งออกและนำเข้า(X&M) ของเดือน ส.ค. Consensus คาดส่งออก -17.8%yoy ส่วนนำเข้าคาด – 23.2%yoy ทั้งนี้ ASPS พิจารณาการนำเข้าของประเทศคู่ค้าสำคัญของไทย (สัดส่วนเกือบ 40% ของการส่งออกรวมของไทย) ในเดือน ส.ค. 2563 หดตัวเฉลี่ย -12.3%yoy เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดที่คาด -17.8%

การนำเข้าของประเทศคู่ค้าสำคัญของไทย

ที่มา: Bloomberg

• 23 ก.ย. การประชุม กนง. ในรอบนี้ ASPS และConsensus กนง. ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.5% สอดคล้องกับ Bond Yield 1 ปีของไทยที่ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 0.51% (ดังรูป) อย่างไรก็ตาม ASPS ประเมินว่า กนง. น่าจะมีโอกาสลดอัตราดอกเบี้ยได้อีก 1 ครั้ง ราว 0.25% ในช่วงปลายปี เนื่องจากเศรษฐกิจไทยเผชิญความเสี่ยงจากการอนุมัติงบประมาณปี 2564 ล่าช้า รวมถึงความไม่แน่นอทางการเมือง โดยเฉพาะการชุมนุมในวันที่ 19 ก.ย. 2563 ซึ่งอาจเป็นความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไป

อัตราดอกเบี้ยนโยบาย และ Bond Yield 1 ปีของไทย

ที่มา: Bloomberg

ราคาน้ำมันยังปรับขึ้นแรงต่อ ช่วยหนุนหุ้น PTT ที่ยัง Laggard

ราคาน้ำมันดิบโลกเมื่อวานนี้ยังปรับขึ้นแรงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 โดยวานนี้ราคาน้ำมัน Brent ขึ้นราว 2.6% หากรวม 3 วันที่ขึ้นมารวม 9.7% ล่าสุดอยู่บริเวณ 43.3 เหรียญฯ โดยปัจจัยหนุนหลักๆ มาจากฝั่ง Supply จากเมื่อวานนี้

1.) ที่ประชุม OPEC+ ยังมีมติข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต 7.7 ล้านบาร์เรล/วัน ส.ค.-สิ้นปี 2563 และเผยว่าหากตลาดน้ำมันยังไม่ฟื้นตัวหรือราคาน้ำมันดิบยังอ่อนตัว กลุ่ม OPEC+ จะจัดการประชุมรอบพิเศษ (Extra Meeting) ในเดือน ต.ค. โดยรวมทำให้ตลาดเชื่อว่า Supply น้ำมันในตลาดคาดจะยังไม่กลับมาเร็ว

2.) ประเด็นพายุ Hurricane “ Sally” แม้จะเริ่มเห็นการอ่อนแรงจากวันก่อนหน้าเป็น พายุโซนร้อน ซึ่งพัดเข้ามาในแถวอ่าวเม็กซิโกซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำมันราว 17%ของการผลิตน้ำมันทั้งหมดในสหรัฐ และทำให้มีการปิดโรงน้ำมัน โดยยังต้องติดตามพัฒนากา Hurricane ลูกใหม่ อาทิ Teddy และ Vicky และอื่นๆ (*ซึ่งปกติทุกปี ช่วงตลอดเดือน ก.ย. จะเป็นฤดูกาลพายุ Hurricane เข้าอ่าวเม็กซิโก ทำให้ Supply น้ำมันหายไปช่วงสั้นทุกปี)

ทิศทางพายุ Hurricane Sally, Teddy, Vicky ที่พัดเข้าชายฝั่ง Mexico

ที่มา: National Hurricane Center 16 ก.ย.2563

 ฝั่ง Demand น้ำมัน ดังที่นำเคยเสนอประเทศผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ของโลก คือ สหรัฐ, จีน บริโภคน้ำมันรวมกันราว 50%ของทั้งโลก เศรษฐกิจเห็นสัญญาณฟื้นตัว อาทิ PMI ภาคการผลิตของทั้ง 2 ประเทศที่ยืนเหนือ 50 จุด ล่าสุด เดือน ส.ค. อยู่ที่ 51.1 จุดเท่ากัน และเศรษฐกิจโลกเห็นสัญญาณบวกจากการทยอยปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP Growth ปี 2563 เพิ่มขึ้น

โดยรวมราคาน้ำมันดิบที่ปรับเพิ่มขึ้นแรงดังกล่าว ถือเป็น Sentiment เชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มพลังงานที่ยังแนะนำซื้อมี IVL(Buy: FV@B>32) และ PTT(Buy: FV@B>41) ซึ่งเลือกเป็น Toppicks ในวันนี้

ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นเดือน 8 –ปัจจุบันของหุ้นในกลุ่มพลังงานและ Brent Oil

ที่มา: สายงานวิจัย บล. เอเซีย พลัส

PTT(FV @ 41.00) มุมมองเศรษฐกิจจากหลายสำนักฯที่ดูดีขึ้น บวกกับประเด็นพายุที่เข้ามาในชายฝั่งเม็กซิโก หนุนให้ราคาน้ำมันดิบในช่วงสั้นปรับตัวขึ้นมาเร็วและแรง ถือเป็นบวกต่อหุ้นน้ำมันอย่าง PTT ที่ราคาหุ้นยังไม่ตอบสนองเชิงบวกเท่าที่ควร สะท้อนจากซึ่งในช่วง 1 เดือนครึ่งที่ผ่านมา ราคาหุ้น PTT ปรับตัวขึ้นน้อย และยัง Laggard กว่าราคาน้ำมันดิบ (Brent Oil) ถึง 7% และยังได้ปัจจัยหนุนเสริมจาก ความคืบหน้า เรื่องการนำบริษัทลูกอย่าง OR เข้าซื้อขายในตลาดฯ โดยทาง กลต.ได้อนุมัติคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ของ OR เรียบร้อยแล้ว โดยมีจำนวนหุ้นที่ IPO ไม่เกิน 3,000,000,000 หุ้น คิดเป็น 25% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วหลัง IPO อีกทั้งวานนี้คณะกรรมการ PTT ได้มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.18 บาท/หุ้น โดย XD 1 ต.ค.63 คาดเพิ่มความน่าสนใจต่อราคาหุ้น หลังจากมีหลายปัจจัยหนุนนำ